ตอนที่ 347

บทที่ 347: การขยายอำนาจของราชวงศ์หวู่

“ ดีมาก” ซุยเฮ็งพยักหน้าและพูดว่า “ ต่อไป ข้าจะกำหนดรายละเอียดของกรอบ หลังจากที่หลี่หมิงเฉียงยึดต้าโจวเรียบร้อยแล้ว ข้าก็จะเริ่มสร้างราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ย เพราะงั้นก็เริ่มเตรียมการบางอย่างสำหรับมันได้แล้ว”

“ รับทราบท่านประมุขเซียน!” หงหยงตอบกลับทันที

….

สำหรับซุยเฮ็งในปัจจุบัน การแก้ไขโลกทั้งใบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก

เขาต้องการเพียงใช้เคล็ดวิชากฎและระเบียบเพื่อแก้ไขกฎของดาวเต๋าโจวและโลกสูญสวรรค์และแก้ไขพื้นที่มิติรองนี้โดยใช้เคล็ดวิชาพันลานน้อย

นอกจากนี้ เขาก็ยังได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางขอบเขตก่อเกิดวิญญาณแล้ว พลังธรรมของเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อกฎแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ มันง่ายมากสำหรับเขาที่จะใช้คาถาดังกล่าว

การใช้พลังหลักยังคงอยู่ในการออกแบบโครงสร้างของราชสำนักสวรรค์และอำนาจของหน่วยงานต่างๆ

นอกจากนี้ เขาก็ยังต้องรอให้หลี่หมิงเฉียงตัดโลกสูญสวรรค์และรวมต้าโจวทั้งหมดเข้ากับราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ของเธอ ซึ่งสิ่งนี้ก็จะกินเวลามาก

สิบปีต่อมา..

หลี่หมิงเฉียงเสร็จสิ้นขั้นตอนการแบ่งโลกสูญสวรรค์และนำต้าโจวเข้าสู่ราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ของเธอได้สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้เอง ต้าเซี่ยจึงกลายมาเป็นเจ้าเหนือหัวของโลกสูญสวรรค์อย่างไม่มีปัญหา ในเวลาเดียวกัน ราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ยก็ได้ก่อตั้งขึ้นมาในชั่วข้ามคืน

แกนกลางของราชสำนักสวรรค์อยู่เหนือวิหารบรรพชนในเมืองต้าเซี่ย

มันมีการสร้างพื้นที่พิเศษขึ้นที่นั่น ที่นี่ มันจะกลายเป็นสถานที่ที่เทพแห่งราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ยสามารถมาพบปะและพูดคุยกันได้

หงหยงกลายเป็นผู้ปกครองคนแรกของราชสำนักสวรรค์ พลังของขอบเขตการฝึกตนของเขาถูกยกขึ้นสู่ขอบเขตรวมวิญญาณขั้นต้นโดยซุยเฮ็ง

ส่วนการแบ่งอำนาจหน้าที่เฉพาะในด้านอื่นๆ นั้น มันได้ถูกกำหนดกรอบไว้แล้ว หงหยงสามารถเลือกผู้คนมารับหน้าที่ได้เองและระบบของราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ยทั้งหมดก็จะก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน ดาวเต๋าโจวก็ได้รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับโลกสูญสวรรค์เมื่อพวกเขารู้ถึงการมีอยู่ของราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ยและขอบเขตอำนาจของอีกฝ่าย บางคนก็มีความสุขและบางคนก็เศร้า

แน่นอนว่าคนธรรมดาส่วนใหญ่สนับสนุนการมีอยู่ของราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ย

นี่เป็นข่าวดีสำหรับพวกเขา

หลังจากนั้น ซุยเฮ็งก็อยู่ในดาวเต๋าโจวต่ออีกสิบปี

เขาจากไปหลังจากที่ระบบราชสำนักสวรรค์ต้าเซี่ยนั้นสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์และไม่มีปัญหาที่ชัดเจนแล้ว

….

ซุยเฮ็งพาคนจำนวนมากไปกับเขาเมื่อเขาออกจากดาวเต๋าโจว

ไม่จำเป็นต้องพูดถึงหลี่หมิงเฉียงและหลี่เว่ยเลย นอกจากนี้เขายังพาเจิงหนานซุน, หลิวหลี่เต๋า, ลู่เจิงหมิงและจ้าวกวงออกมากับเขาด้วยเช่นกัน

คนเหล่านี้จะเป็นผู้ช่วยที่สำคัญสำหรับเขาในการสำรวจเส้นทางสู่ขอบเขตก่อเกิดวิญญาณในอาณาจักรราชันสุริยัน

แน่นอนว่าเขาไม่ลืมเกี่ยวกับผู้คนจากสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวา เขาพาจ้าวคุนซึ่งกลายเป็นสุนัขไปแล้วกับคนอื่นๆ ออกมาจากดาวเต๋าโจวด้วย

ในเวลาเพียงหนึ่งวัน ซุยเฮ็งก็พาพวกเขาเดินทางข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ที่สิ้นสุดและกลับไปที่ดาวชงหยางจากดาวเต๋าโจว

นี่เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเลยสำหรับทุกคน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขานึกถึงพลังอันทรงพลังที่ซุยเฮ็งได้เคยแสดงออกมา พวกเขาก็รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้

….

สำหรับอาณาจักรห้าทัศนะ ซุยเฮ็งก็ไม่ได้หายไปนาน

แค่ 30 ปีนั้นไม่สามารถนับเป็นอะไรได้ เซียนทองจำนวนมากยังอยู่ในความสันโดษนานกว่านี้เลยด้วยซ้ำ

ทุกอย่างที่นี่ดำเนินไปอย่างปกติ

ราชวงศ์หวู่ได้รวมอาณาจักรห้าทัศนะทั้งหมดเข้าด้วยกันมาเป็นเวลานานแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป่ยฉิงซูก็ได้ให้ความสนใจกับสถานที่ต่างๆ นอกอาณาจักรห้าทัศนะ

เนื่องจากการมีอยู่ของยาปราชญ์ อาณาจักรห้าทัศนะจึงมีปฏิสัมพันธ์มากมายกับดวงดาวและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอื่นๆ มันเกือบจะกลายเป็นผู้มีอำนาจหลักของพื้นที่ระแวกนี้

จนถึงทุกวันนี้ มันก็มีอย่างน้อยสี่อาณาจักรและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว 15 แห่งที่อยู่ภายใต้พวกเขา

ปราชญ์ส่วนใหญ่ในสถานที่เหล่านี้ได้ทะลวงผ่านโดยใช้ยาปราชญ์ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องก้มหัวให้กับอาณาจักรห้าทัศนะ

ในความเห็นของเป่ยฉิงซู อารมณ์นี้ก็เป็นเงื่อนไขที่ดีในการขยายการปกครองของราชวงศ์หวู่

ยิ่งไปกว่านั้น อาณาจักรและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีกองกำลังขนาดใหญ่ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่มีเจตจำนงร่วมกันโดยธรรมชาติ

ตราบใดที่ราชวงศ์หวู่สามารถทำให้พวกเขามีชีวิตที่มั่นคงและมีความปลอดภัยมากขึ้นได้ มันก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะไม่ต่อต้านราชวงศ์หวู่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะยอมรับอำนาจของราชวงศ์หวู่ แต่มันก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กลุ่มคนบางกลุ่มจะรู้สึกว่าผลประโยชน์ของพวกเขานั้นเสียหายและจึงต่อต้านราชวงศ์

นี่คือสิ่งที่เป่ยฉิงซูหวังอยากจะได้เห็น วิธีการฝึกตนของเขาทำให้เขาต้องการการต่อสู้ และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาเลือกที่จะอยู่ในอาณาจักรห้าทัศนะต่อ

นอกจากนี้ การขยายการปกครองของราชวงศ์หวู่นั้นก็ยังเป็นการเผยแพร่ระบอบการกปกครองของซุยเฮ็ง

อาจกล่าวได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่เป่ยฉิงซูทำงานอย่างหนักในทิศทางนี้

นอกจากนี้ หลี่เฉิงก็ยังเป็นคนคอยช่วยเหลือเป่ยฉิงซู

ตอนนี้เขาเป็นรัฐมนตรีของราชวงศ์หวู่ ซึ่งนับเป็นผู้บังคับบัญชาคนที่สอง และเขาก็ทำหน้าที่หนักที่สุด

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในอาณาจักรห้าทัศนะจะถูกสรุปมาให้เขาฟัง และมันก็จะมีเพียงบางสิ่งที่สำคัญจริงๆ เท่านั้นที่จะถูกส่งไปให้เป่ยฉิงซู

ด้วยเหตุนี้เอง สิ่งนี้จึงทำให้เขากลายเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในราชวงศ์หวู่ เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยตลอดทั้งปี ด้วยเหตุนี้เอง ถ้าไม่ใช่เพราะการฝึกตนของเขา เขาจึงอาจจะตายไปนานแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เป่ยฉิงซูบอกเขาเกี่ยวกับความตั้งใจที่จะขยายขอบเขตอำนาจ หลี่เฉิงยังต้องให้ความสนใจกับสถานการณ์รอบ อาณาจักรห้าทัศนะ และในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังต้องพิจารณาว่าเขาควรจะเพิ่มจำนวนยาปราชญ์ที่เผยแพร่สู่โลกอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งดีหรือไม่

“ เมื่อก่อนข้าไม่อยากจะเป็นหัวหน้าตระกูลด้วยซ้ำ มาตอนนี้ใครจะไปคิดว่าข้าจะได้เป็นผู้ควบคุมประเทศที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้” หลี่เฉิงเดินออกจากวังและมองดูดวงอาทิตย์ยามเช้าข้างนอก เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

ทุกเช้าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น เขาก็จะให้เวลาตัวเองได้เดินเล่นและพักผ่อนประมาณหนึ่งในสี่ชั่วยาม

นี่เป็นเวลาว่างเพียงช่วงเดียวในหนึ่งวันของเขา

อย่างไรก็ตาม ด้วยขอบเขตการฝึกตนในปัจจุบันของเขา เขาจึงไม่จำเป็นต้องกินหรือนอน

เขาสามารถทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานได้อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงไม่จำเป็นต้องมีเวลาพักผ่อนตามธรรมชาติ

กระนั้นโดยปกติแล้ว หลังจากที่หลี่เฉิงเดินออกมาจากพระราชวัง เขาก็จะไปที่ตลาดเช้าเพื่อจับจ่ายและซื้ออาหารเช้าแสนอร่อย

การรับประทานอาหารเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่หาได้ยากสำหรับเขา

อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะไปถึงตลาด เขาก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคยมาก

นี่คือหญิงสาวที่สวยงาม รูปลักษณ์ของเธอดูคล้ายกัยหลี่เฉิงเป็นอย่างมาก มันทำให้เขาอุทานว่า “ น้องหญิง เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ใช้เทคนิคอำพรางของเขาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความโกลาหลในหมู่ประชาชนโดยรอบ

แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้คือหลี่เว่ย

“ ข้าเพิ่งกลับมาพร้อมกับท่านประมุขเซียน” หลี่เว่ยยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ พี่ใหญ่ ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้ท่านเป็นถึงรัฐมนตรีใหญ่ของราชวงศ์หวู่แล้ว ปราชญ์ทุกคนในอาณาจักรห้าทัศนะต้องคำนับท่านใช่ไหม?”

“ อย่าพูดไร้สาระ ฝ่าบาทและข้าทำงานเพื่อท่านประมุขเซียนก็เท่านั้น” หลี่เฉิงรีบโบกมือและจ้องมองไปที่น้องสาวของเขา “ เอาล่ะ เจ้าเพิ่งกลับมาก็คิดจะแกล้งข้าเลยหรอ?”

“ แกล้งอะไร? เห็นๆ กันอยู่ว่าข้ากำลังยกย่องท่าน!” หลี่เว่ยกลับมามีบุคลิกที่มีชีวิตชีวาตามปกติและยิ้ม “ เอาล่ะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีกต่อไปแล้ว ท่านประมุขเซียนมีเรื่องจะคุยกับท่าน”

“ ตกลง ข้าจะไปแจ้งฝ่าบาทเดี๋ยวนี้” หลี่เฉิงรีบพยักหน้า

เขารีบกลับไปที่วังในทันทีและบอกเป่ยฉิงซูเกี่ยวกับการกลับมาของซุยเฮ็ง

….

ในลานอันโอ่อ่า

เป่ยฉิงซูและหลี่เฉิงรีบเข้ามาและโค้งคำนับเมื่อพวกเขาพบซุยเฮ็ง

“ คารวะท่านอาจารย์!”

“ คารวะท่านประมุขเซียน!”

ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร หลี่หมิงเฉียงที่อยู่ข้างๆ เขาพูดแทนว่า “ น้องชาย ท่านอาจารย์ต้องการให้ข้าถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”