ตอนที่ 164

บทที่ 164 : หมัดของชายฉกรรจ์สุดแกร่ง!

แต่แล้วจู่ๆ เทพเทวาก็โผล่มา?!

แท้จริงแล้วมันก็มีเทวาอยู่ในโลกเบื้องล่าง!

มันไม่สมเหตุสมผลเลย!

เขารับไม่ได้!

อย่างไรก็ตาม ผู้รับใช้สุดแกร่งก็ไม่ได้สนใจเขาเลย

หลังจากโยนราชรถสีทองรุ้งลงมาจากท้องฟ้าแล้ว ยักษ์สีทองเข้มสูง 16.5 เมตรก็มองไปที่พยัคฆ์ขาวอีกครั้ง

ก่อนที่เขาจะโจมตี พยัคฆ์ขาวก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้ตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

“ ไม่ไม่ไม่! ข้ายังตายไม่ได้ ข้าจะตายในที่แบบนี้ได้ยังไง!”

เขาส่ายหัวอย่างสิ้นหวังและถอยหลังไปทีละก้าว ในเวลาเดียวกัน พลังในร่างกายของเขาก็ไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานมันก็ถึงจุดสูงสุด ในท้ายที่สุด เขาก็ทำได้เพียงตะโกนสุดเสียง “พยัคฆ์ขาว!!”

ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค

บู้มมมมม!

ทันใดนั้นเสียงระเบิดโครมครามก็ดังขึ้นในโลก อากาศภายในรัศมี 1,000 ฟุตถูกทำให้ปั่นป่วน มันทำให้เกิดพายุเฮอริเคนขึ้น

นอกจากนี้ พายุเฮอริเคนลูกนี้ก็ยังไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนท้องฟ้า

มันกระทบพื้นดินด้วย!

ลมแรงพัดผ่านเมืองฉางเฟิง ต้นไม้คดงอและบ้านก็แกว่งไปมา ถ้าคนธรรมดายืนอยู่ในสายลม พวกเขาก็จะถูกพัดปลิวไปแน่

อย่างไรก็ตาม พายุเฮอริเคนก็ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์บนพื้นดินเพียงชั่วครู่เท่านั้น

หลังจากนั้น เสียงเคาะโต๊ะเบาๆ ก็ดังมาจากสำนักงานว่าการ

พายุเฮอริเคนในเมืองหยุดลงกะทันหัน

ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

หากไม่ใช่เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นลมและเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าได้เมื่อกี้ หลายคนก็อาจจะคิดไปแล้วว่าพวกเขากำลังเห็นภาพลวงตา

ในขณะนี้ เงาสัตว์อสูรกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังพยัคฆ์ขาวแล้ว

มันมีลวดลายสีดำบนขนสีขาว และมันก็ดูเหมือนกับเสือที่ดุร้าย มันเหยียบพายุและพ่นละอองแสงดาบออกมา!

เสือขาว!

ไม่เหมือนกับสัตว์อสูรพยัคฆ์ขาวสามตัวที่ถูกฆ่าลงไปก่อนหน้านี้ เสือขาวตัวนี้ไม่เพียงแต่จะมีพละกำลังที่ทรงพลังเท่านั้น แต่มันยังได้รับพลังส่วนหนึ่งมาจากกฎอีกด้วย

นี่เป็นสัตว์อสูรเทวะอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเป็นเพียงตัวลูกเท่านั้น

“ โครกกก!”

เสือขาวคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวจากข้างหลังพยัคฆ์ขาว

ด้วยเสียงคำรามนี้ พายุที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ได้ควบแน่นและโอบล้อมพยัคฆ์ขาวเอาไว้ มันป้องกันไม่ให้สิ่งภายนอกเข้ามาใกล้

เสือลม!

ในขณะนี้ ในที่สุดพยัคฆ์ขาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาถอยกลับไปเล็กน้อยและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเสือขาวพร้อมทั้งตะโกนว่า “ เจ้าตัวใหญ่ เจ้าคือคนของซุยเฮ็งใช่ไหม!”

“ เป็นเรื่องดีที่เจ้ากระโดดออกมา มันช่วยให้ข้าไม่ต้องพยายามมองหาพวกเจ้า ข้าจะดูเจ้าถูกเสือขาวของข้าขย้ำและกินด้วยตาของข้าเอง! และจากนั้น ข้าก็จะฆ่าซุยเฮ็ง!”

เขาพยายามสงบความกลัวที่มากเกินไปด้วยคำพูดเยาะเย้ยเหล่านี้

น่าเสียดายที่ผู้รับใช้สุดแกร่งไม่มีสติปัญญาและไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของพยัคฆ์ขาวได้

อย่างไรก็ตาม มันก็สามารถอ่านข้อมูลบางอย่างจากโลกภายนอกได้

ตัวอย่างเช่น สิ่งที่พยัคฆ์ขาวพูดเกี่ยวกับ “การฆ่าซุยเฮ็ง” ดังนั้นผู้รับใช้สุดแกร่งจึงเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขายกกำปั้นขึ้นและซัดมันลงไป มันเป็นหมัดตรงที่เรียบง่ายไม่ฉูดฉาด

บู้มมมมม!

ด้วยเสียงระเบิดดังโครมคราม พายุเฮอริเคนที่พันรอบตัวพยัคฆ์ขาวก็แตกสลายในทันที ในเวลาเดียวกัน พยัคฆ์ขาวที่อยู่ข้างหน้าเขาก็สลายไปพร้อมๆ กัน

กำปั้นที่อาบไปด้วยแสงสีทองเข้มทุบไปที่ร่างของพยัคฆ์ขาว

“ เป็นไปได้ยังไงกัน! ทำไม.. ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น!”

พยัคฆ์ขาวคำรามอย่างบ้าคลั่งในใจ เขาไม่สามารถยอมรับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ ตั้งแต่เขายังเด็ก เขาก็เป็นศูนย์กลางของความสนใจและคิดว่าตัวเองเป็นบุตรที่สวรรค์โปรดปรานที่สุดมาโดยตลอด

แต่ในเวลานี้เท่านั้น ที่เขาจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย

หลังจากออกมาจากกะลาแล้ว เขาก็ไร้ประโยชน์

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขาก็ทำได้เพียงรอความตาย

“ นี่... ข้ากำลังจะตายหรอ?!”

จิตใจของพยัคฆ์ขาวพร่ามัวเล็กน้อย เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมากทั่วร่างกายของเขา กระดูกทั้งร่างแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และร่างกายของเขาก็รู้สึกเหมือนกับจะระเบิดออกจากกัน

ภายใต้หมัดของชายฉกรรจ์สุดแกร่งผู้นี้ ร่างกายของเขาก็ได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์

ในตอนนี้ พยัคฆ์ขาวก็คงไว้เพียงรูปลักษณ์ของมนุษย์เท่านั้น

ทุกอย่างภายในได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไปหมดแล้ว

เขากำลังจะตาย

“ ข้าอุส่าห์สัญญากับจักรพรรดิว่าจะฆ่าซุยเฮ็งลง ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าข้าจะมาผิดสัญญา…” จู่ๆ ความคิดก็ปรากฏขึ้นในใจของพยัคฆ์ขาว

ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาก็คิดอย่างนี้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้เลยว่าเว่ยอี้ได้ใช้คำพูดหลอกล่อเขาให้มาตายตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ ผู้รับใช้สุดแกร่งก็ได้หยุดโจมตีพยัคฆ์ขาวในทันทีและปล่อยพลังปราณออกมาเพื่อช่วยให้อาการบาดเจ็บของเขาคงที่

ทันทีหลังจากได้รับการรักษาขั้นพื้นฐาน พยัคฆ์ขาวก็เริ่มกลับมาดูมีชีวิตชีวามากขุเน

พลังปราณและเลือดเริ่มไหลเวียนในร่างกายของพยัคฆ์ขาวและเริ่มซ่อมแซมร่างกายของเขา

ในชั่วพริบตา ร่างกายของพยัคฆ์ขาวก็เปลี่ยนจากคนใกล้ตายไปเป็นคนมีชีวิตชีวา

แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะยังสาหัสอยู่ แต่เขาก็จะไม่ตายแน่นอน

“ เอาล่ะ พาเขาลงมาได้แล้ว”

เสียงของซุยเฮ็งดังขึ้นในหูของผู้รับใช้สุดแกร่ง เหตุผลที่มันหยุดโจมตีและเริ่มรักษาพยัคฆ์ขาวเองก็เป็นเพราะมันได้ยินคำสั่งของซุยเฮ็ง

ดังนั้นมันจึงคว้าคอของพยัคฆ์ขาวและจับมือเขาไว้ราวกับว่ามันกำลังอุ้มลูกเจี๊ยบตัวน้อย

อีกมือหนึ่งของเขาได้อุ้มเซียนมนุษย์ที่บาดเจ็บสาหัสทั้ง 10 คนเอาไว้

จากนั้นเขาก็ลงมาจากท้องฟ้า

….

ภายในสำนักงานว่าการ

ไม่ว่าจะเป็นเจิงหนานซุน, จางชูหมิง, หลิวอี้หยุน, ฮุ่ยฉี, เฉินตง, หลิวหลี่เต๋าและคนอื่นๆ ต่างก็ยังคงตกตะลึงอย่างมาก

ฉากการต่อสู้บนท้องฟ้าเมื่อกี้นั้นน่าเหลือเชื่อเกินไป ลมพายุและหมู่เมฆพัดว่อนและแสงสว่างก็ส่องวาบไปทั่วทุกที่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังต่อสู้กันบนท้องฟ้า แต่มันก็ได้สร้างผลกระทบที่รุนแรงจนมาถึงเบื้องล่าง

นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำได้จริงๆ หรอ?

นี่เป็นพลังของเซียนปฐพีอย่างงั้นหรอ?

เมื่อผู้รับใช้สุดแกร่งปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับเหล่าเซียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาก็รู้สึกว่าจิตใจของพวกเขากำลังเต้นแรง

เซียนปฐพีและเซียนมนุษย์ 10 คน!

ในมือของผู้รับใช้สุดแกร่ง พวกมันก็เหมือนกับฝูงเป็ดไก่และห่านที่เขานำกลับมาจากข้างนอก

มันดูไร้ค่ามาก!

“ ปรมาจารย์ปู่แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่เนี่ย?” เจิงหนานซุนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เขาแข็งแกร่งเกินไป!

บู้มมมม!

พยัคฆ์ขาวถูกโยนลงมาแทบเท้าเบื้องหน้าของซุยเฮ็งขณะที่เซียนมนุษย์อีก 10 คนยังคงอยู่ในมือของมัน

ในขณะนี้ คนที่ยืนอยู่ข้างซุยเฮ็งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหวังตงหยางและอีกสองคน

ในขณะนี้ หวังตงหยางก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

เขามองดูพยัคฆ์ขาวที่บาดเจ็บหนักบนพื้นด้วยความเหลือเชื่อ

อัจฉริยะจากสำนักเซียนฝึกอสูรถูกจับแล้วจริงหรอ!

ซุยเฮ็งสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของหวังตงหยางและหัวเราะเบาๆ “ อะไรกัน? เจ้ารู้จักเด็กคนนี้หรอ?”

หวังตงหยางรีบพูดอย่างถ่อมตนว่า “ ท่านเซียนผู้สูงส่ง เด็กคนนี้เป็นบุตรบุญธรรมของเจ้าสำนักแห่งหนึ่งในเก้าสำนักเซียน สำนักเซียนฝึกอสูร พ่อแม่ของเขาเองก็ยังเป็นผู้อาวุโสของสำนัก ตัวตนของเขานั้นไม่ธรรมดา…”

หลังจากที่ซุยเฮ็งได้ยินคำพูดของหวังตงหยาง เขาก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพูดกับพยัคฆ์ขาวว่า “ ในเมื่อเจ้ามีภูมิหลังเช่นนี้ เจ้าก็น่าจะรู้สินะว่าคราวนี้มันมีคนกี่คนที่ลงมาจากโลกสูญสวรรค์?”

“ ฮึ่ม!” พยัคฆ์ขาวแค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมาและไม่ตอบใดๆ

บู้มมมมม!

ในขณะนี้ เสียงฝีเท้าหนักก็ดังขึ้น มันคือผู้รับใช้สุดแกร่งที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ จากระยะไกล มันค่อยๆ เข้าใกล้พยัคฆ์ขาวทีละก้าว

เมื่อพยัคฆ์ขาวได้ยินเสียงนี้และเห็นฉากนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ เขาถอนหายใจยาวและพูดว่า “ ข้าจะบอกเดี๋ยวนี้แหละ”