ตอนที่ 372 : ยุยงแปรพักตร์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับโจวโจว (2)

มันเป็นหน้าที่ของทหารที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าลอร์ดของพวกเขาต้องการทำอะไร พวกเขาแค่สนใจที่จะทำและไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

จากนั้นพวกเขาก็กระโดดขึ้นไปบนขอบกำแพงภายใต้การจ้องมองอย่างตกตะลึงของทหารคนอื่นๆ ของเมืองสายน้ำหิมะ พวกเขาก็กระโดดลงไปจากกำแพงเมืองที่สูงกว่าร้อยเมตรทันที

ตู้ม!

ทหารระดับแพลตตินั่มขาว 500 คนพุ่งลงมาที่พื้น

ทหารบางคนใช้ร่างกายของพวกเขาเพื่อต้านทานต่อแรงปะทะจากการตกลงมาตรงๆ

แต่ก็มีบางส่วนที่ควบคุมพลังงานธาตุลม ธาตุสายฟ้า ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุดิน และร่อนลงมาบนพื้นเบาๆ

ชั่วขณะหนึ่ง ทหารและมอนสเตอร์แห่งหมอกจำนวนมากบนสมรภูมิก็มองมายังทหารลึกลับกลุ่มนี้ที่มาถึงสนามรบอย่างกะทันหัน

ทหาร 500 คนไม่สนใจสายตาของพวกเขา พวกเขาพุ่งออกไปข้างหน้าทันที

ภายใต้ระบบคะแนนความดีความชอบ ทักษะและวิธีการที่หลากหลายของพวกเขานั้นเกินขอบเขตของทหารทั่วไปมานานแล้ว

อาจกล่าวได้ว่าถ้าไม่รวมกับทักษะประจำอาชีพที่พวกเขามีอยู่แล้ว แต่ละคนก็มีทักษะอื่นๆ อีกไม่น้อยกว่า 10-20 ทักษะซึ่งได้แลกเปลี่ยนมาจากระบบความดีความชอบ

ทักษะเหล่านี้ มันเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายได้ทุกประเภทแล้ว!

เป็นธรรมดาที่มันจะรวมถึงสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ด้วย!

ดังนั้นในสายตาของทหารคนอื่นๆ จากเมืองสายน้ำหิมะ ทหาร 500 คนนี้จึงเป็นเหมือนกับทหารเทพที่จุติลงมาจากท้องฟ้า!

ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของเขาเท่านั้นที่น่ากลัว!

แต่พวกเขายังมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์ได้ทุกประเภทด้วย

มันสุดยอดเกินไปแล้ว

พวกเขากระทั่งเห็นทหารที่ใช้หน้าไม้ แต่เมื่อมอนสเตอร์แห่งหมอกเข้ามาใกล้และต้องการต่อสู้ระยะประชิด เขาก็คว้าหน้าไม้และธนูทิ้งไปบนพื้น จากนั้นเขาก็หยิบกระบี่สีขาวราวกับหิมะออกมาจากเอว ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นเกราะหินสีขาวอมเทาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ต่อสู้ระยะประชิดกับมอนสเตอร์แห่งหมอก สุดท้ายเขาก็ฟันมันจนตาย

จากนั้นเขาก็หยิบหน้าไม้ขึ้นมาและยิงลูกศรออกไปอีกครั้ง

อืม…

ในฐานะทหารหน้าไม้พิษ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกศัตรูลอบโจมตี มันสมเหตุสมผลมากเลยใช่ไหมที่เขาต้องเรียนรู้ทักษะกระบี่วายุคลั่งไว้โจมตีสวนกลับและยังต้องเรียนรู้ทักษะเกราะศิลาไว้คอยปกป้องตัวเอง?

บนกำแพงเมืองสายน้ำหิมะ เมื่อหลี่หยวนกันและจางเจ้อเห็นการต่อสู้ของทหาร 500 คน พวกเขาก็มองหน้ากันทันที

พ่อหนุ่มคนนี้ร่ำรวยยิ่งนัก

เขาได้หนังสือทักษะมาฟรีๆ งั้นเหรอ?

ทั้งสองพึมพำอยู่ในใจ

ทหารพวกนี้ แม้แต่หลี่หยวนกันที่เป็นผู้ปกครองอาณาจักรก็ยังไม่สามารถบ่มเพาะพวกเขาขึ้นมาได้ เพราะเขาไม่ได้มีหนังสือทักษะมากมายขนาดนี้ให้เหล่าทหารได้เรียนรู้

ในเวลานั้นเอง พวกเขาก็เห็นโจวโจวชูมือขวาขึ้นมา

พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับทองคำเหลือง: ยุยงแปรพักตร์—เปิดใช้งาน!

ตู้ม!

ความผันผวนที่มองไม่เห็นซึ่งมีเพียงโจวโจวเท่านั้นที่มองเห็นได้ได้แผ่กระจายเข้าหามอนสเตอร์แห่งหมอกสองล้านตัวรอบๆ เมืองสายน้ำหิมะ

อึดใจต่อมา ร่างของมอนสเตอร์แห่งหมอกกว่า 200,000 ตัวก็แข็งค้างไป จากนั้นแววตาของพวกมันก็เปลี่ยนไป พวกมันเริ่มแสร้งทำเป็นสู้พรางถอยพรางอย่างเงียบๆ

มันยังเห็นได้ชัดว่ามอนสเตอร์แห่งหมอกมากกว่าหนึ่งในสิบได้หยุดโจมตีกะทันหัน

ไม่เพียงแต่ผู้กล้าสีชาดสองคนที่อยู่ในแนวหลังเท่านั้นที่จะอึ้งไป แต่บนกำแพงเมืองสายน้ำหิมะ หลี่หยวนกันและจางเจ้อที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ก็อึ้งไปด้วย

“ทำไมการโจมตีของศัตรูถึงอ่อนกำลังลง? เกิดอะไรขึ้น?”

ทั้งคู่อึ้งไป

จากนั้นพวกเขาก็คิดบางสิ่งขึ้นมาและเห็นไปมองโจวโจวที่ยืนอยู่หน้ากำแพงเมืองในทันใด

ความคิดที่ไม่น่าเชื่อปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา

‘เป็นฝีมือของเขาเหรอ?’

แต่เขาแค่ยกมือขึ้นเท่านั้นเอง??

อีกด้านหนึ่ง หลังจากโจวโจวเปิดใช้งานยุยงแปรพักตร์แล้ว เขาก็มองไปยังรายละเอียดพรสวรรค์แห่งลอร์ด

[หมายเหตุ: ท่านเปิดใช้งานพรสวรรค์แห่งลอร์ด ยุยงแปรพักตร์!]

[ยุยงแปรพักตร์แสดงผล!]

[รายละเอียดพรสวรรค์แห่งลอร์ด: มอนสเตอร์แห่งหมอกระดับเหล็กดำ 124,765 ตัว ระดับบรอนซ์เขียว 57,912 ตัว ระดับเงินขาว 31,632 ตัว ระดับทองคำเหลือง 18,231 ตัว ระดับแพลตตินั่มขาว 5,712 ตัว ระดับเพชร 112 ตัว และระดับเหนือสามัญ 5 ตัวได้ทรยศต่อฝ่ายของตัวเองและกลายเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีของท่าน!]

โจวโจวมองดูด้วยความตื่นเต้น

ก่อนที่เขาจะมา เขาได้ประมาณการครั้งใหญ่ไว้ในใจแล้ว และรู้ว่าคราวนี้เขาสามารถทำให้เกิดการแปรพักตร์ได้ประมาณเท่าไร

อย่างไรก็ตาม เมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ เขาก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

นี่คือมอนสเตอร์แห่งหมอกทั้งหมด 241,369 ตัว!

กองทัพตะวันสาดแสงและกองทัพมอนสเตอร์ของเขามีจำนวนรวมแค่ประมาณ 220,000 คนเท่านั้น!

การใช้ยุยงแปรพักตร์ครั้งนี้ทำให้เขาได้รับทหารมามากกว่าที่เขามีอยู่แล้วซะอีก

บ้าไปแล้ว!

“การที่ตื่นตีสามมาใช้ยุยงแปรพักตร์ไม่ได้สูญเปล่าเลยจริงๆ!”

โจวโจวดีใจมาก

การเดินทางมาอาณาจักรออโรร่าครั้งนี้ไม่ได้สูญเปล่าจริงๆ

หลังจากเขากลับไปที่ดินแดน เขาก็จะไปที่ฟาร์มมอนสเตอร์ต่อ เมื่อเวลานั้นมาถึง กองทัพของเขาก็จะมีทหารเกินกว่าห้าแสนคน!

จำนวนทหารขนาดนี้เท่ากับครึ่งหนึ่งของกองทัพอาณาจักรทั่วๆ ไปแล้ว

“ฉันเข้าใกล้ความแข็งแกร่งของอาณาจักรขั้นต้นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”

โจวโจวคิด

ในไม่ช้า ทหาร 500 คนก็กระโจนกลับขึ้นมาบนกำแพงเมือง

“รายงานท่านลอร์ด ภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว!”

พวกเขากล่าวออกมาด้วยความเคารพ

“ดีมาก”

โจวโจวยิ้มและพยักหน้า

“เจ้าตะวันสาดแสง เจ้าทำอะไรงั้นเหรอ?”

ในเวลานั้นเอง เสียงอันประหลาดใจของหลี่หยวนกันก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา

หลังจากได้ยินคำพูดของฝ่าบาท จางเจ้อจึงรู้ว่าชายหนุ่มที่ไม่ธรรมดาผู้นี้คือประเด็นร้อนในการสนทนาเมื่อเร็วๆ นี้—เจ้าตะวันสาดแสง

ในฐานะลอร์ดแห่งดินแดน การที่อีกฝ่ายมีชื่อเสียงมากขนาดนี้ในอาณาจักรของเขาได้ ดูจากลักษณะแล้ว มันต้องมีเหตุผลแน่นอน

จางเจ้อถอนหายใจ

“เป็นฝีมือของข้าเอง นี่คือความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้าได้พูดถึง อย่างไรก็ตาม ข้าก็สามารถใช้มันได้วันละครั้งเท่านั้น ถ้าจะใช้มันอีก มันต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ซะก่อน ถ้าฝ่าบาทต้านทานพวกมันได้จนถึงวันพรุ่งนี้ ข้าก็สามารถมาใช้มันได้อีก”

โจวโจวกล่าว

ไม่ว่ายังไง เขาก็อยากจะตัด ‘ขนแกะ’ ดีๆ แบบนี้อีกสักสองสามครั้ง

“ไม่มีปัญหา ข้าได้ลอบส่งข่าวไปยังอาณาจักรไททันและอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกมันน่าจะลงมือในวันนี้ ด้วย ‘ความช่วยเหลือ’ ของพวกมัน มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะต้านทานไว้จนถึงวันพรุ่งนี้”

หลี่หยวนกันอดหัวเราะไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

เขาไม่เคยคิดเลยว่าศัตรูตัวฉกาจของเขาจะกลายมาเป็นผู้กอบกู้อาณาจักรของเขา

“งั้นช่วยเปิดใช้งานค่ายกลข้ามมิติให้กับข้าด้วย ข้าจะกลับไปพร้อมกับลูกน้องแล้ว”

โจวโจวกล่าว

“ได้สิ”

หลี่หยวนกันพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจเท่าไร

เขาอยากให้ชายหนุ่มคนนี้อยู่ด้วยจริงๆ เพราะอีกฝ่ายได้ทำให้เขาประหลาดใจได้หลายเรื่องเลย

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่ถูกจัดขึ้นโดยเจตจำนงสูงสุดก็ไม่อาจดูแคลนได้เหมือนกัน เขาจึงไม่อาจล้มแผนการของเจ้าตะวันสาดแสงได้

จากนั้นเขาก็สั่งให้หลายๆ เมืองเปิดใช้งานค่ายกลข้ามมิติ ไม่ว่าพวกเขาจะผ่านไปทางไหน พวกเขาก็จะสามารถผ่านไปโดยไม่มีปัญหา

เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวโจวก็กล่าวลาทั้งสองคนและเดินลงไปจากกำแพงเมืองจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไปที่ค่ายกลข้ามมิติ แต่เขาได้ออกจากเมืองสายน้ำหิมะและบินไปยังพื้นที่ที่ว่างเปล่าแทน

ณ ดินแดนรกร้างว่างเปล่านอกเมืองสายน้ำหิมะ

มอนสเตอร์แห่งหมอก 240,000 ตัวที่ถูกทำให้แปรพักตร์ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว

พวกมันมีผู้นำคือมอนสเตอร์แห่งหมอกระดับเหนือสามัญอันทรงพลัง 5 ตัว!

“คาราวะท่านลอร์ด!” x5

เมื่อโจวโจวและคนอื่นๆ ปรากฏตัวขึ้น มอนสเตอร์แห่งหมอกระดับเหนือสามัญทั้งห้าก็กล่าวแสดงความเคารพทันที

“การเดินทางราบรื่นไหม? ผู้กล้าสีชาดทั้งสองสังเกตเห็นการหนีทัพของพวกเจ้าไหม?”

โจวโจวถาม

“มันเป็นไปด้วยดีขอรับ และเพราะราชามารสี่กรกับปีศาจศพวิญญาณเหมันต์กำลังขยายแนวรบอยู่ พวกเราจึงพอหลบสายตาของพวกมันได้และออกมาจากสมรภูมิด้านหลังเมืองสายน้ำหิมะ ดังนั้นพวกมันจึงยังไม่สังเกตเห็นการถอนตัวของพวกเราในตอนนี้ แต่ผ่านไปสักพักพวกมันก็คงจะรู้ตัวกันเอง”

รองแม่ทัพมังกรหายนะปีศาจสามหัวระดับเหนือสามัญขั้นกลางกล่าวด้วยความเคารพ

มันคือมอนสเตอร์แห่งหมอกที่แข็งแกร่งที่สุดจากมอนสเตอร์แห่งหมอกระดับเหนือสามัญทั้งห้าตัว

นอกจากนี้มันยังเป็นผู้นำในตอนนี้ด้วย

โจวโจวพยักหน้ารับ

มันจะเสียเวลาไม่ได้แล้ว ได้เวลาต้องไปแล้ว

ด้วยลูกน้องใหม่กว่า 200,000 คนนี้ ฉันน่าจะปลอดภัยขึ้นใช่ไหมถ้าฉันเข้าร่วมในสมรภูมิสุดท้าย?

โจวโจวคิดกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ตั้งสมาธิ

ยานบินสีดำลำหนึ่งได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

มันคือภูตทมิฬ!

เมื่อวานเมื่อเขาวางแผนที่จะใช้ยุยงแปรพักตร์ เขาก็ได้บอกให้เหวินหยาเดินทางมาที่นี่แล้วเพื่อเตรียมการไว้สำหรับเรื่องนี้

“เหวินหยา พาพวกเราทุกคนเข้าไปในยานบินและกลับไปยังเมืองสายน้ำหิมะ”

โจวโจวสั่ง

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

เสียงของเหวินหยาดังขึ้นในใจของโจวโจว

จากนั้นมันก็นำทุกคนเข้าไปในยานบินและกลับไปยังเมืองสายน้ำหิมะ จากนั้นมันก็ใช้ค่ายกลข้ามมิติเพื่อกลับไปยังเมืองตะวันสาดแสง