“ดูเหมือนว่าพวกมันจะเตรียมตัวไว้แล้ว”
โจวโจวมองไปยังเมืองแม่น้ำยมโลกและพูดออกมาเบาๆ
จากการสังเกตของเขา มันมีพวกต่างเผ่าพันธุ์ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัวอยู่ภายในเมืองแม่น้ำยมโลก
ในอดีต กองกำลังทหารเช่นนี้คงจะถือได้ว่าเป็นกองกำลังทหารของทั้งอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน
ถ้าเป็นในสถานการณ์ปกติ มันก็คงจะเป็นเพราะพวกมันรู้ว่าเขาจะมาที่นี่ ดังนั้นจึงมาดักรอไว้แต่เนิ่นๆ
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่น่าจะใช่แบบนั้น
นี่เป็นเพราะโจวโจวได้ตัดสินใจเริ่มสงครามจากที่นี่ในเสี้ยวนาทีสุดท้าย
เพราะงั้นมันคงมีเพียงความเป็นไปได้เดียวเท่านั้นก็คือฟลอยด์คาดไว้นานแล้วว่าเขาจะนำกองทัพมาโจมตี ดังนั้นอีกฝ่ายจึงได้จัดทัพใหญ่ให้คอยมารับศึกอยู่ที่ชายแดนของอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน
แค่ในเมืองแม่น้ำยมโลกเพียงอย่างเดียวก็มีคนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ประจำการอยู่ถึง 5 ล้านตัว!
ในเวลาเดียวกัน เมืองแม่น้ำยมโลกก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ว่ายานบินของอาณาจักรตะวันสาดแสงซ่อนอยู่ในมิติ เพราะทหารจำนวนมากจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้พุ่งออกมาจากประตูเมือง บินออกมาจากเมือง หรือไม่ก็มุดดินออกมา…
ในพริบตา ทั้งผืนฟ้าและผืนดินของเมืองแม่น้ำยมโลกก็เต็มไปด้วยทหารจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ เป็นจำนวนมากมาย
พวกมันมองไปยังโจวโจวและคนอื่นๆ อย่างระแวดระวังราวกับว่าพวกมันพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ
นี่ยังไม่จบ
โจวโจวพบว่าแสงจากค่ายกลข้ามมิติของเมืองแม่น้ำยมโลกสว่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทหารจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ เป็นจำนวนมากได้เดินออกมาจากค่ายกลข้ามมิติแบบไม่ขาดสาย จากนั้นพวกมันก็เพิ่มจำนวนของกองกำลังที่อยู่ที่นี่ขึ้นเรื่อยๆ
หกล้าน… เจ็ดล้าน… แปดล้าน… เก้าล้าน!
ในชั่วพริบตา จำนวนทหารจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ก็มารวมตัวกันอยู่ที่เมืองแม่น้ำยมโลกถึง 10 ล้านตัว
นี่ยังไม่จบ
มันยังคงมีทหารจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ เดินออกมาจากค่ายกลข้ามมิติเรื่อยๆ
โจวโจวไม่ได้หวาดกลัวเลย เขากลับยิ้มออกมาเบาๆ แทน
เขาบอกให้เหวินหยานำราตรีประดับดาวออกจากการพรางตัวและปรากฏขึ้นตรงหน้าของทหารต่างเผ่าพันธุ์เหล่านี้อย่างเปิดเผย
จากนั้นเขาก็บอกให้ซวีอัน เกาเฉียว และซื่อซวนเถียนออกมาจากยานบินและลอยอยู่บนท้องฟ้า พวกเขามองลงไปที่มอนสเตอร์จากต่างเผ่าพันธุ์
“เจ้าคือราชาตะวันสาดแสงงั้นเหรอ?”
เสียงๆ หนึ่งพูดอย่างสงบนิ่ง เสียงนี้เต็มไปด้วยความจองหอง
“ฟลอยด์?”
โจวโจวมองไปที่มัน
จากนั้นสายตาของเขาก็มองไปยังทหารเผ่าพันธุ์ต่างๆ กว่า 10 ล้านตัวที่อยู่รอบๆ มัน
“ไม่เกินไปหน่อยเหรอ”
เขาพูดออกมา
“ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าเลย พวกเราจะไว้ชีวิตของเจ้าก็ได้นะถ้าเจ้ายอมมอบยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์อย่างดาวนำโชคมาให้กับพวกเราและยอมสละสถานะลอร์ดของเจ้าซะ มิฉะนั้นที่แห่งนี้จะกลายเป็นหลุมฝังศพเจ้าและคนของเจ้า!”
ฟลอยด์มองมาที่โจวโจวและพูดออกมา
หลังจากพูดจบ มันก็โบกมือ
ตัวตนที่แผ่ออร่าของผู้กล้า 23 คนพุ่งออกมาจากพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์และมาหยุดอยู่ข้างหลังของฟลอยด์
พวกมันมองมาที่โจวโจวด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป มันมีทั้งความร้อนใจ ความเย็นชา สีหน้าแปลกๆ หรือไม่ก็ความโลภ
“เจ้าจะมามัวพูดอะไรมากกับมัน? ฆ่ามันซะและชิงยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์มาจากมันก็พอ”
“เสื้อคลุมที่มันสวมซึ่งแผ่ออร่าของจักรพรรดิออกมาก็ไม่เลวเลย ไว้ข้าจะชิงมันมาเอง”
“กระบี่นั่นดูเหมือนจะเป็นยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์ด้วยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนมันจะเป็นยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์กับเผ่าพันธุ์ของพวกเรา แต่มันก็ไม่เลวเลยที่จะสะสมเอาไว้”
“ช่างเป็นร่างกายของมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ… ข้าอยากได้ร่างกายของมัน”
“มันน่าจะมีลักษณ์สวรรค์สรรค์สร้าง… ช่างเป็นร่างกายชั้นยอดที่มีค่าจริงๆ”
…
พวกมันพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
เมื่อดูจากท่าทีของพวกมัน พวกมันก็ถือว่าโจวโจวได้ตกอยู่ในกำมือของพวกมันแล้ว
“เจ้าเห็นไหม? พวกเขาต่างก็เป็นผู้กล้า ทุกคนคือตัวตนที่สามารถฝากชื่อทิ้งไว้ในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ตัวเองได้! เจ้าไม่มีทางชนะได้หรอก ยอมจำนนตั้งแต่เนิ่นๆ ซะจะได้ไม่เจ็บตัวนัก”
ฟลอยด์พูดอย่างใจเย็น
มันรู้ว่าราชาตะวันสาดแสงมีทหารประมาณสิบล้านคน
ถ้าพวกมันต่อสู้กัน แม้ว่ามันจะมั่นใจ 100% ว่าจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่มันก็น่าจะเสียหายหนักไปด้วย
ดังนั้นมันจึงอยากจะลดความเสียหายลงให้มากที่สุดด้วยวิธีนี้
โจวโจวมองไปที่มันอย่างใจเย็น
พวกมันคิดว่าเขาโง่รึยังไง?
ถ้าเขากล้าทำแบบนั้น เขาคงจะตายเร็วยิ่งกว่าเดิมแน่
นอกจากนี้ ตอนนี้มันยังไม่แน่นอนด้วยว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะด้วย
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาและปล่อยให้ทหารทุกคนลอยออกมาจากยานบินผ่านระบบกองทัพ
เมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของฟลอยด์ก็มืดลงไป
จากนั้นมันก็โบกมือขวาของมัน
อึดใจต่อมา ลูกศร กระสุนปืนใหญ่ เวทมนตร์ระยะไกล และการโจมตีระยะไกลทุกชนิดก็พุ่งเข้าหายานบิน
มันต้องการฉวยโอกาสจากจังหวะนี้เพื่อโจมตีทหารของโจวโจว
เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็พลิกมือขวาและบาเรียแสงที่เปล่งแสงสีขาวและดำก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
มันคือไอเท็มที่เขาได้รับมาจากอาณาจักรทาฮัน—บาเรียตะวันจันทราสวรรค์!
อึดใจต่อมา โจวโจวก็โยนบาเรียตะวันจันทราสวรรค์ขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากนั้น บาเรียตะวันจันทราสวรรค์ก็ขยายขนาดขึ้นในทันใด ในพริบตา มันก็ปกคลุมท้องฟ้าและปกคลุมพื้นที่รัศมี 10 กิโลเมตร โดยโอบล้อมโจวโจว ยานบิน และทหารทั้งหมดเอาไว้
การโจมตีระยะไกลหลายสิบล้านอันจากฝั่งของฟลอยด์ปะทะเข้าใส่บาเรียตะวันจันทราสวรรค์
สุดท้ายพวกเขาก็อึ้งไป
หลังจากที่การโจมตีนับสิบล้านอันปะทะเข้ากับบาเรียตะวันจันทราสวรรค์ พวกมันก็ทำให้ชั้นบาเรียกระเพื่อมเล็กน้อยเท่านั้น
พวกมันไม่อาจทำให้เกิดรอยแยกขึ้นบนบาเรียได้ด้วยซ้ำ!
เมื่อผู้กล้าจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ทั้ง 23 คนเห็นเช่นนี้ พวกเขาก็พากันขมวดคิ้ว
พวกเขาเองก็โจมตีด้วย แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็คือผู้กล้าระดับมหากาพย์ขั้นต้นเท่านั้น แม้ว่าการโจมตีของพวกเขาจะมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่พวกมันก็ไม่อาจทำอะไรบาเรียตะวันจันทราสวรรค์ที่สามารถต้านทานการโจมตีในระดับตำนานขั้นต้นได้
“นี่มัน… สมบัติประจำอาณาจักรทาฮัน… บาเรียตะวันจันทราสวรรค์งั้นเหรอ?”
ฟลอยด์ที่เฝ้ามองการต่อสู้อยู่ข้างๆ จดจำบาเรียแสงนี้ได้ทันที สีหน้าของมันมืดลงทันที
มันเป็นศัตรูกับอาณาจักรทาฮันมานับร้อยปี ดังนั้นมันจึงรู้ข้อมูลพวกนี้
มันแค่ไม่คาดคิดว่าราชาตะวันสาดแสงจะไม่เก็บสมบัติเช่นนี้ไว้ปกป้องดินแดน แต่นำมาใช้ในสมรภูมิด้วย
มันโบกมือเพื่อหยุดการโจมตีที่ไร้ประโยชน์ของเหล่าทหาร
…
ในเวลาเดียวกัน โจวโจวก็มองไปยังพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์ที่อยู่เบื้องล่างซึ่งหยุดโจมตีไปแล้วและแค่นเสียงออกมา
“เสร็จแล้วเหรอ ตาข้าบ้าง”
เขาเรียกหลิงเอ๋อร์ หนงเฉิงหลิน และลอร์ดอีก 15 คนที่มีผลงานดีที่สุดในพันธมิตรดาราออกมา จากนั้นพวกเขาก็ใช้ยุยงแปรพักตร์กับเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ด้านล่าง
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา
[โปรดเลือกฝ่ายของลอร์ดที่ท่านต้องการใช้ยุยงแปรพักตร์]
[1: อาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน!]
[2: อาณาจักรไททัน!]
[3: อาณาจักรรังภูตผี!]
[4: อาณาจักรโรต้า!]
[5: อาณาจักรจิตวิญญาณอัคคี!]
…
โจวโจวไม่ลังเลและเลือกอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนที่เป็นตัวเลือกแรกทันที