หนงเฉิงหลินถอนสายตากลับมาและเปิดกระดานสนทนา ในไม่ช้าเขาก็พบว่ามีลอร์ดเป็นจำนวนมากพบเรื่องนี้แล้ว
นอกจากนี้ มันยังมีลอร์ดรู้เรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป
[โอ้พระเจ้า เจ้าตะวันสาดแสงได้รับยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์ไปแล้ว!]
[ยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์ทรงพลังเกินไปแล้ว มันส่งผลต่อลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินทุกคนเลยเหรอ?]
[จู่ๆ ฉันก็อยากพัฒนาการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และการเพาะพันธุ์ขึ้นมาเลย]
[ในฐานะมืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านฟาร์มและขายอาหาร ฉันจะลุยทันที! ขอบคุณมากพี่ตะวันสาดแสง! พี่ตะวันสาดแสง ผมจะรักพี่ไปตลอด!]
[เข้าใจแล้ว ฉันจะไปหาเกษตรกรมาเพิ่มเดี๋ยวนี้แหละ]
[ตามที่คาดไว้เลย แม้จะมาที่ทวีปจื้อเกาก็ยังต้องทำนาเหมือนเดิม]
[แน่นอน มันไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของชาวจีนไปแล้ว]
[ฉันอยากเพิ่มเพื่อนกับพี่ตะวันสาดแสงจริงๆ ฉันจะมอบอาหารพิเศษในท้องถิ่นของฉันให้กับเขาหลังจากที่ฉันปลูกพวกมันเสร็จ (หัวสุนัข)]
…
“ฉันไม่คิดว่าฉันจะเป็นแค่คนเดียวที่ติดหนี้บุญคุณพี่ตะวันสาดแสงนะ”
หนงเฉิงหลินอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเขาเห็นลอร์ดเหล่านี้พูดคุยกัน
หลังจากมองดูอยู่สักพัก เขาก็ปิดกระดานสนทนาและส่งคำขอเป็นเพื่อนไปหาเจ้าตะวันสาดแสง สุดท้ายเขาก็กลับไปทำฟาร์มต่อ
…
ณ เมืองตะวันสาดแสง ในที่พำนักของลอร์ด
โจวโจวเองก็กำลังดูสิ่งที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันบนกระดานสนทนา
ส่วนใหญ่พวกเขากำลังพูดคุยกันถึงเขาและกระบี่ซวนหยวน
บางส่วนก็สงสัยว่าเขาไปได้กระบี่ซวนหยวนมาจากไหน
บางส่วนก็สนใจเรื่องข้อมูลของกระบี่ซวนหยวน
มันยังมีคนสงสัยว่าโจวโจวจะสามารถปกป้องยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์นี้ได้ไหม พวกเขาอยากให้เขาส่งมอบยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์นี้และมอบให้สุดยอดลอร์ดที่มีพันธมิตรคอยดูแลมัน
โจวโจวไม่สนใจความเห็นเช่นนี้
หลังจากดูอยู่สักพัก หลิงเอ๋อร์ก็ส่งข้อความมาหาเขา
[เจ้าโอสถวิญญาณ: พี่ หนูเพิ่งรู้ว่าความสามารถของกระบี่ซวนหยวนก็ส่งผลต่อสวนสมุนไพรเทวะของหนูด้วย]
หลิงเอ๋อร์พูดด้วยความประหลาดใจ
ดวงตาของโจวโจวเปล่งประกายขึ้นมา
ส่วนสมุนไพรเทวะคือสิ่งปลูกสร้างพิเศษที่ช่วยเพิ่มความเร็วการเติบโตของสมุนไพร ซึ่งมันก็อยู่ในอิทธิพลของกระบี่แห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วยงั้นเหรอ?
เขาคิดอยู่ชั่วขณะ
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างนั้น
บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน สมุนไพรก็ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของพืชเศรษฐกิจพิเศษ
โจวโจวพึงพอใจมาก
สวนสมุนไพรเทวะของหลิงเอ๋อร์คือหนึ่งในแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของเขา
มันย่อมเป็นการดีที่สุดที่กระบี่แห่งความอุดมสมบูรณ์จะส่งผลต่อมันด้วย
จากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันสักพักก่อนที่จะจบบทสนทนา
ครู่ต่อมา ไป่อี้ก็เข้ามารายงาน
กองทัพตะวันสาดแสง 30000 คนได้เตรียมสู้ศึกแล้ว ในเวลานั้น พวกเขาก็ตั้งแถวอยู่นอกประตูเมืองและพร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อ
“รอก่อน ข้าจะไปยังวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิก่อนและขอพรแห่งบรรพบุรุษ จากนั้นพวกเจ้าค่อยออกเดินทาง”
โจวโจวยืนขึ้นและพูดออกมา
“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”
ไป่อี้กล่าวออกมาด้วยความเคารพ
โจวโจวพยักหน้ารับ
จากนั้นเขาก็เดินออกจากที่พำนักของลอร์ดและเดินตรงไปยังวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิ
เขาเดินไปที่ศาลเจ้าของซุนซือเหมี่ยวและหลู่ปัน และมองไปยังแท่นบูชาบรรพบุรุษ
จากนั้นเขาก็อึ้งไป
นี่เป็นเพราะเขาพบว่าขีดจำกัดสูงสุดของแท่นบูชาได้เปลี่ยนจาก ‘เครื่องบูชาที่มีค่าตั้งแต่แกนหมอกระดับเงินขาวลงมา 10 ชิ้น’ เป็น ‘เครื่องบูชาที่มีค่าตั้งแต่แกนหมอกระดับเงินขาวลงมา 50 ชิ้น’
“มันเป็นเพราะระดับของวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิได้เพิ่มขึ้นตามระดับของดินแดนของฉันงั้นเหรอ ดังนั้นมูลค่าของเครื่องบูชาจึงเพิ่มขึ้นไปด้วย”
เขาเดาแต่ก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมัน
จะแกนหมอกระดับเงินขาว 10 ชิ้น หรือ 50 ชิ้นก็ไม่ได้ต่างอะไรสำหรับเขา
เขาวางแกนหมอกระดับเงินขาว 50 ชิ้นลงไปบนแท่นบูชา
“ฉันสงสัยจังว่าเอฟเฟกต์ของพรแห่งบรรพบุรุษจะเพิ่มขึ้นด้วยไหม?”
ในไม่ช้า แท่นบูชาก็เปล่งแสงขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นแกนหมอกระดับเงินขาว 50 ชิ้นก็หายไป และก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา
[ท่านได้รับพรแห่งบรรพบุรุษ: การฟื้นฟูการบาดเจ็บทางกายภาพ (ระดับเงินขาว)!]
[การฟื้นฟูการบาดเจ็บทางกายภาพ (ระดับเงินขาว): เพิ่มความเร็วการฟื้นฟูของอาการบาดเจ็บทางกายภาพของลูกน้อง 50% ระยะเวลา: 8 ชั่วโมง]
โจวโจวดีใจมาก มันเพิ่มขึ้นจริงๆ!
มันต้องรู้ว่าเดิมทีวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิระดับเงินขาวขั้นต้นสามารถเพิ่มความเร็วการฟื้นฟูของอาการบาดเจ็บทางกายภาพได้แค่ 5% เท่านั้น!
แต่ในตอนนี้มันได้เพิ่มขึ้นเป็น 50% ซึ่งก็คือสิบเท่าจากเดิม!
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาของมันก็ลดลงจาก 24 ชั่วโมงเป็น 8 ชั่วโมง
โจวโจวไม่ได้ประหลาดใจเลย
เขาได้รู้มาจากลอร์ดคนอื่นบนกระดานสนทนาแล้วว่าระยะเวลาของพรแห่งบรรพบุรุษไม่ได้คงอยู่ได้ 24 ชั่วโมงเสมอไป
บางครั้งพรจะมอบเอฟเฟกต์ที่ทรงพลังให้แต่ก็จะมีระยะเวลาที่สั้นลง
เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ขอพรจากบรรพบุรุษก่อนการท้าประลองในสมรภูมิแห่งลอร์ด
กลับกัน เขาได้เลือกที่จะมายังวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิเพื่อขอพรก่อนออกไปพิชิตภูมิภาคอื่นๆ
ในสมรภูมิแห่งลอร์ด ความตายนั้นไม่ใช่การตายจริงๆ พวกเขาสามารถฟื้นคืนชีพได้ด้วยตราคืนชีพและตราคืนชีพดินแดน
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าพวกเขาต้องตาย พวกเขาก็จะต้องตายจริงๆ
ถ้าเขาจะคืนชีพทหารพวกนั้น เขาก็จะต้องใช้คาถาชุบชีวิตขั้นต้นของที่พักพิงหรือคาถาชุบชีวิตขั้นสูงเลย
นั่นมันมีราคาสูงเกินไป โจวโจวจึงไม่อยากเสียเงินไปเปล่าๆ ทั้งแบบนั้น
ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความแข็งแกร่งในการต่อสู้เพิ่มเติมที่ได้รับจากพรแห่งบรรพบุรุษในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่ในสมรภูมิแห่งลอร์ด
โจวโจวหยุดคิดเกี่ยวกับมัน
เขาเดินออกมาจากวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิและไปหาเจิ้งฝูกุ่ยกับคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็สร้างค้างคาวโลหิตตัวหนึ่งขึ้นมา
“อีกสักพัก ค้างคาวโลหิตตัวนี้จะมาแทนที่ข้าและไปยังอาณาจักรอันเดดกับเจ้า ข้าสามารถเห็นสถานการณ์ในฝั่งของเจ้าผ่านค้างคาวโลหิตตัวนี้ได้และแม้แต่ถ่ายทอดความคิดของข้าได้ด้วย เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะใช้มันเป็นหู นอกจากนี้อย่าลืมพานักโบราณคดีคนนั้นไปด้วย”
โจวโจวกล่าว
ด้วยนิสัยของเขา เขาย่อมไม่เสี่ยงแม้ว่าจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะตาย
ดังนั้นเขาย่อมไม่ไปที่อาณาจักรอันเดดด้วยตัวเองแน่ๆ
ทักษะร่างค้างคาวโลหิตของเขาสามารถใช้สร้างค้างคาวโลหิตและใช้พวกมันเป็นร่างแยกของเขาได้
ดังนั้นโจวโจวจึงเกิดไอเดียนี้ขึ้นมา
“ขอรับท่านลอร์ด!”
เจิ้งฝูกุ่ยกล่าวด้วยความเคารพ
โจวโจวพยักหน้ารับ
เขาเหลือบมองค้างคาวโลหิตบนไหล่ของเขา
ค้างคาวโลหิตกระพือปีกของมันและบินไปที่รถม้าที่อยู่ด้านหลังเจิ้งฝูกุ่ย
“งั้นข้าไปหากองทัพก่อนละกัน”
โจวโจวกล่าว
“ขอรับ ข้าก็จะไปหานักโบราณคดีคนนั้นด้วยเลย”
เจิ้งฝูกุ่ยกล่าว
โจวโจวพยักหน้ารับ
จากนั้นเขาก็แยกทางกับเจิ้งฝูกุ่ยและเดินไปที่ประตูเมือง
เขามองไปที่ไป่อี้ อู๋ซิน เนซาริโอ้ มาริส และกองทัพตะวันสาดแสงกว่า 30,000 คนที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ในเวลานั้นเอง พวกเขาก็เตรียมพร้อมสู้ศึกอย่างเต็มที่แล้ว
โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เขากล่าวคำพูดง่ายๆ และไม่เสียเวลาต่ออีก เขาออกเดินทางไปพร้อมกับกองทัพตะวันสาดแสง
อีกด้านหนึ่ง ณ ภูมิภาคระดับเงินขาว ดินแดนรกร้างฝุ่นผง ดินแดนของเจ้าพายุ
ยานลำหนึ่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งกิโลเมตรปรากฏขึ้นจากอากาศเบาบางบนค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล
ภายในยานลำนี้มีมิติส่วนตัวอยู่
เจ้าอัศวิน ลอร์ดดินแดนรอง 121 คนของเขา และทหารอีกกว่า 40,000 คนอยู่ข้างในนี้
เจ้าอัศวินมองไปที่พายุทรายข้างนอกและขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ที่นี่ไกลจากดินแดนของเจ้าตะวันสาดแสงแค่ไหน?”
เขามองไปยังเจ้าพายุ
“พวกเราจะบินตรงไปทางทิศตะวันตกและไปถึงภูมิภาคระดับเงินขาวที่มีชื่อว่าที่ราบป่าเฉา ซึ่งเป็นภูมิภาคของเจ้าตะวันสาดแสงแล้ว ส่วนเมืองตะวันสาดแสงก็อยู่ถัดออกไปอีก”
เจ้าพายุกล่าว
เจ้าอัศวินพยักหน้าและสั่งให้พวกเขามุ่งหน้าต่อไปภายใต้สายตาแห่งความคาดหวังของทุกคน