บทที่ 380 : เข้าใจความคิด คุณสมบัติการซื้อ

เห็นได้ชัดว่าซุยเฮ็งเข้าใจแล้วว่าพวกเขากำลังซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่

พระและนักพรตรู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันทีและรีบอธิบาย

“ ท่านประมุขเซียน ท่านเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร” พระหยวนคูกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “ มันเป็นเพราะเราไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงโจมตีพวกเราอย่างสุดกำลัง”

“ ท่านประมุขเซียน เรื่องมันเป็นแบบนี้ เราไม่เคยเข้าใจโลกภายนอกอย่างลึกซึ้งเลย” ฟางเหอกล่าวเสริม “ ในตอนที่เราระดมพลังของเต๋าสวรรค์เพื่อต่อต้านผู้ฝึกตนจากต่างแดน เราก็แทบจะไม่สามารถรับรู้สถานการณ์ของอีกฝ่ายได้เลย”

“ สิ่งเดียวที่เรามั่นใจได้ก็คือผู้ฝึกตนเหล่านี้ดูเหมือนจะกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะโจมตีพื้นที่ดวงดาวของพวกเรา ทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี มันก็ราวกับว่าพวกเขากำลังทุ่มเททั้งชีวิตให้กับมัน พวกเขาจะใช้วิธีการทั้งหมดของพวกเขาและแม้แต่เผาแหล่งพลังชีวิตของพวกเขา”

“ ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงเดาว่ามันจะต้องมีเหตุผลแน่นอนว่าทำไมพวกเขาถึงต้องโจมตีเราด้วยทุกสิ่งที่มี อาจเพราะทรัพยากรของโลกภายนอกนั้นมีน้อยเกินไป หรือไม่ก็พื้นที่ดวงดาวของเรามีสมบัติที่พวกเขาต้องการ”

“ พวกมันทำกันขนาดนั้นเลยหรอ?” ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้

ภายใต้สถานการณ์ปกติ ความสามารถในการทำให้ใครบางคนยอมเผาพลังชีวิตตัวเองเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างได้นั้นก็มักจะหมายความว่าพวกเขามักจะไม่สามารถหลีกหนีจากความตายได้หากพวกเขาไม่ยอมเผาพลังชีวิตของพวกเขา

แบบนี้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่เรียกว่าโลกภายนอก?

แล้ว

ท้ายที่สุด แม้ว่าผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์เหล่านี้จะยังข้ามสามขอบเขตย่อยของขอบเขตบันไดสวรรค์แรกได้แล้ว แต่พวกเขาก็เกือบจะเทียบเท่าได้กับจุดสูงสุดของขอบเขตรวมวิญญาณเท่านั้น

ความแข็งแกร่งดังกล่าวเพียงพอแล้วที่จะครอบครองโลกนับไม่ถ้วนในพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้

“ จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ มันย่อมมีวิกฤตที่คาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ”

ซุยเฮ็งถอนหายใจในใจ แต่จากภายนอก เขาก็มองไปที่ฟางเหอและหยวนคูอย่างสงบและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ พวกเจ้าสองคนต้องการให้ข้าช่วย งั้นข้าก็มีคำถาม อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ข้าจะปกป้องพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้ด้วย?”

ตามทฤษฎีแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาปกป้องที่นี่เลย

แม้ว่าพื้นที่ดวงดาวนี้จะถูกรุกรานโดยผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วน แต่เขาก็ยังสามารถหลบหนีได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ

นี่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

หลังจากทะลวงผ่านไปยังขอบเขตก่อเกิดวิญญาณแล้ว ร่างกายภายในของเขาก็เป็นเหมือนดั่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

ภายใต้สถานการณ์ปกติ มันก็เป็นทั้งภายลวงตาและความเป็นจริง

แต่ตราบใดที่เขารวมมันเข้ากับเคล็ดวิชาพันลานน้อย เขาก็จะสามารถเก็บกาแล็กซีของจริงเอาไว้ในจุดฝังเข็มและรักษากฎการทำงานเอาไว้ตามปกติได้

มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

อย่างไรก็ตาม หากผู้ฝึกตนจากต่างแดนมาเพื่อเผา ฆ่า และปล้นสะดมจริงๆ เขาก็จะยังคงโจมตีพวกมันแน่

ในอีกด้านหนึ่ง หงฟู่กุ่ยและเจียงฉีฉีก็ยังไม่ทราบที่อยู่ และพวกเขาก็อาจยังอยู่ในพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ซุยเฮ็งจะเพิกเฉยต่อพวกเขา

ในทางกลับกัน หากเขาวิ่งหนีไปเช่นนี้ สภาพจิตใจของเขาก็จะได้รับผลกระทบด้วย

เหตุผลที่เขาถามเช่นนี้ก็เพื่อต้องการจะดูทัศนคติที่แท้จริงของพวกเขา

“ นี่…”

“ คือ….”

คำถามของซุยเฮ็งทำให้ทั้งสองนิ่งงัน

พวกเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้จริงๆ

เขาต้องการเหตุผลหรอไม่?

หากเหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์บุกเข้ามา พวกเขาก็จะปล้นทรัพยากรทั้งหมดและสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างแน่นอน มันจะนำความยากลำบากและอันตรายมาสู่เหล่าผู้ฝึกตนของที่นี่

ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ทั่วไปจะไม่ต้องการให้ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์จากที่อื่นมาปล้นทรัพยากรของพวกเขาอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกครั้งที่พวกเขาต้องการจะบุกทะลวงประตูสวรรค์ พวกเขาก็จะต้องใช้สมบัติและทรัพยากรจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาสองคนก็เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตจ้าวสวรรค์เท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะนิ่งงันกับคำถาม แต่พวกเขาก็ปรับความคิดในทันทีและไม่ได้แสดงความสงสัยใดๆ ออกมา

“ ตราบใดที่ท่านประมุขเซียนเต็มใจที่จะดำเนินการ ข้าก็ยินดีจะจ่ายในทุกราคา” ฟางเหอกล่าวอย่างเคร่งขรึม

พื้นที่ดวงดาวแห่งนี้มีมรดกของเขาและร่องรอยที่ผู้อาวุโสของเขาทิ้งไว้ มันเป็นสถานที่ที่เพื่อนศิษย์และญาติพี่น้องของเขาเคยอาศัยอยู่ มันเป็นสถานที่ที่เขาต้องปกป้อง

เขายินดีจะจ่ายทุกราคาเพื่อแลกกับความปลอดภัยของมัน

“ ข้าเองก็ยินดีจะจ่ายทุกราคา” พระหยวนคูกล่าว แต่เขาก็กล่าวด้วยเหตุผลที่แตกต่างจากฟางเหอ

ท่านเป็นพุทธมามกะที่เก่งกาจ เขาบริสุทธิ์และไม่มีความรู้สึกส่วนตัวมาเจือปน

เหตุผลที่เขาต้องการจะปกป้องพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้เอาไว้ก็เพื่อที่เขาจะได้กลับชาติมาเกิด

ตราบเท่าที่ดินแดนแสงพุทธบริสุทธิ์ยังคงอยู่ แม้แต่ตัวเขาเองเมื่ออายุขัยหมดลงก็จะยังมีโอกาสที่จะได้กลับมาจุติและกลับมาจากนิพพานได้

อย่างไรก็ตาม หากโลกภายนอกเกิดรุกรานเข้ามาได้ ดินแดนแสงพุทธบริสุทธิ์ก็น่าจะถูกทำลายลง และเขาก็จะไม่มีโอกาสเกิดใหม่อีกต่อไปและจะตายลงอย่างสมบูรณ์

แน่นอนว่าเขาต้องต่อต้านมันทุกวิถีทาง

“ การตอบแทนของพวกเจ้านั้นไร้ประโยชน์สำหรับข้า” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และจ้องมองไปที่พวกเขาสองคน เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ อย่างไรก็ตาม ข้าก็เข้าใจแล้ว เชิญออกไปได้”

ทันทีที่เขาพูดจบ ฟางเหอและหยวนคูก็รู้สึกถึงพลังที่น่ารังเกียจอย่างมาก ราวกับว่ากฎทั้งหมดบนโลกกำลังมุ่งเป้ามาที่พวกเขา

ในช่วงเวลาต่อมา พวกเขาสองคนและศิษย์ที่พวกเขาพามาก็ถูกบีบออกจากอาณาจักรราชันสุริยันและปรากฏตัวขึ้นในความว่างเปล่าของจักรวาลภายนอก

“ นี่มันพลังอะไรกัน!”

“ น่าเหลือเชื่อ…”

ฟางเหอและหยวนคูอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนก็ไม่สบายใจมากและไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ซุยเฮ็งหมายถึงอะไร

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่กล้าอยู่นานและรีบกลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา

พวกเขาวางแผนที่จะหารือกันถึงวิธีที่จะทำให้ประมุขเซียนผู้นี้พึงพอใจได้เมื่อพวกเขากลับมาอีกครั้ง

หลังจากที่พระและนักพรตออกไปแล้ว มันก็เหลือเพียงซุยเฮ็ง, ฮุ่ยฉีและห้องโถงที่ว่างเปล่าเท่านั้น “ นายท่าน สองคนนี้เป็นอะไรกัน” ฮุ่ยฉีงงงวย เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ พวกเขาจะมาขอความช่วยเหลือมือเปล่าได้อย่างไร?”

เขาไม่เข้าใจวิธีการขอความช่วยเหลือของทั้งสองเลย

“ มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมือเปล่าหรือไม่ ไม่ว่าจะยังไง พวกเขาก็ไม่สามารถให้สิ่งที่ข้าต้องการได้อยู่ดี” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และยิ้ม “ อันที่จริง แม้ว่าข้าจะไม่มีเหตุผลที่จะต้องปกป้องพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้ แต่ข้าก็จะไม่นั่งเฉยและไม่ทำอะไรเกี่ยวกับการบุกรุกแน่”

“ ข้าถามพวกเขาเพราะข้าต้องการจะเห็นความคิดของพวกเขา ความคิดของนักพรตนั้นบริสุทธิ์มากและไม่เลวเลย ส่วนพระรูปนั้นเองก็เห็นแก่ตัวมาก แต่ตราบใดที่เขาเต็มใจที่จะต่อต้านการบุกรุก มันก็ยังเป็นสิ่งที่ดี”

“ ท่านมีเมตตามากจริงๆ” ฮุ่ยฉีกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“ มันก็เป็นแค่ความคิด” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และยิ้ม “ บนเส้นทางแห่งการฝึกตน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำตามหัวใจของเจ้า มิฉะนั้นมันก็จะเกิดปัญหาได้ง่าย “ ต่อไป ข้าจะอยู่อย่างสันโดษชั่วระยะเวลาหนึ่ง ถ้าสองคนนี้มาอีกช่วงนี้ก็ขอหนังสือโบราณมาจากพวกเขาก็ได้ ด้วยวิธีนี้ พวกเขาก็จะสบายใจและจะไม่รบกวนเจ้าอีก”

“ ครับท่าน” ฮุ่ยฉีโค้งคำนับ จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าซุยเฮ็งได้หายตัวไปแล้ว

….

หลังจากออกจากพระราชวังต้าโจวแล้ว ซุยเฮ็งก็กลับไปที่โลกถ้ำสวรรค์

ที่จริงแล้วพื้นที่ของโลกถ้ำสวรรค์นั้นก็ไม่ได้ใหญ่นัก

มันด้อยกว่าพื้นที่ที่เขาสร้างขึ้นมาโดยวิชาพันลานน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็มีกฎที่สมบูรณ์แบบมาก มันไม่ต่างจากโลกภายนอกเลย

นี่เป็นสิ่งที่ซุยเฮ็งไม่สามารถทำได้

เขายืนอยู่บนท้องฟ้าและมองลงมาที่แผ่นดิน ทะเล เกาะ และชั้นหมอกที่ปกคลุมเกาะและขอบทะเล

จากนั้น เขาก็ลงไปดูพื้นที่ฝึกตนและกระท่อมสำหรับผู้เริ่มต้น พวกมันเต็มไปด้วย "พืชผล" ทุกชนิดแล้ว

ซุยเฮ็งโบกแขนเสื้อเบาๆ และกำจัดภูเขาแห่ง "พืชผล" ออก เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ ฉันสงสัยจังว่าสถานที่แห่งนี้จะมีลักษณะอย่างไรหลังจากอัพเกรดแพ็คเกจระบบเสร็จแล้ว”

คราวนี้เขากลับมาที่โลกถ้ำสวรรค์เพื่อทำสองสิ่ง

หนึ่งคือการอัพเกรดแพ็คเกจระบบ และอีกอันคือการแลกเปลี่ยนกับเวลาในการอ่านเคล็ดวิชาเซียนและรับเอาแนวคิดการฝึกตนขอบเขตก่อเกิดวิญญาณมา”

“ หลังจากอัพเกรดแพ็คเกจแล้ว เคล็ดวิชาเซียนก็น่าจะถูกอัพเกรดด้วย” ซุยเฮ็งมีความคาดหวังเล็กน้อยและคิดกับตัวเองว่า “ หากระบบมีมโนธรรม มันก็คงจะถึงเวลาที่จะแสดงวิธีการฝึกตนเฉพาะให้มันเห็นแล้ว”

เคล็ดวิชาเซียนขั้นต้นนั้นมีเพียงแนวคิดการฝึกตนและไม่มีวิธีการฝึกตนที่เฉพาะเจาะจง เขาจำเป็นต้องศึกษาและหาวิธีการฝึกฝนพวกมันด้วยตัวเอง

นี่เป็นเรื่องยากเล็กน้อยจริงๆ

“ ระบบ อัพเกรดแพ็คเกจ” ซุยเฮ็งพูดด้วยเสียงต่ำ

[ สวัสดีโฮสต์ผู้มีเกียรติ! คุณได้เปิดใช้งานแพ็คเกจระบบการฝึกตนเซียนแล้ว ระบบจะให้บริการคุณอย่างสุดความสามารถและจะปกป้องเส้นทางสู่การเป็นเซียนของคุณ! ]

[ หากต้องการอัพเกรดแพ็กเกจ โปรดซื้อบริการเสริมดังต่อไปนี้! ]

[ การอัพเกรดแพ็คเกจการฝึกตนแบบรอบด้าน: อัพเกรดฟังก์ชั่นที่มีอยู่ทั้งหมด มอบประสบการณ์การบริการที่ดีขึ้นและให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ราคาซื้อ: 1,000,000,000 คะแนน คุณสมบัติการซื้อ: ขอบเขตก่อเกิดวิญญาณ ]

[ ยินดีด้วย! คุณใช้ 1,000,000,000 คะแนนสำเร็จแล้ว! ]

[ เริ่มอัพเกรดแพ็คเกจ…]