บทที่ 144 : ประกาศๆ ใบแจ้งตายมาส่งแล้ว!
แน่นอนว่าพวกเขาต้องขับไล่เขาก่อน
ตอนนี้ หวังตงหลินก็ไม่ได้อยู่ในเฟิงโจวอีกต่อไป เขากลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลหวัง
เขาเอนกายอยู่บนเก้าอี้โยกและอาบแดดอย่างสบายอารมณ์
หวังฉิงหมิงเดินเข้ามาพร้อมกับชา
เขาเป็นลูกชายคนโตของหวังฮัวอี้และไม่ว่างอยู่ตลอดทั้งปี
และเมื่อภัยพิบัติซุยเฮ็งได้ผ่านพ้นไป เขาก็ได้ถูกเรียกตัวกลับมาเป็นผู้นำตระกูล
เขาเข้ากันได้ดีกับหวังตงหลินในทุกวันนี้
ท้ายที่สุดแล้ว หวังตงหลินในปัจจุบันก็ไม่ได้มีมาดของทูตสวรรค์จากโลกเบื้องบนอีกต่อไป
“ ท่านทูตสวรรค์ มีบางสิ่งที่ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจ” หวังฉิงหมิงรินชาและถามด้วยความเคารพว่า “ ข้าสงสัยว่าข้าควรจะพูดดีหรือไม่”
“ พูดมาเถอะ” หวังตงหลินตอบอย่างเป็นกันเอง เขารับชาและโยกเก้าอี้ต่อไปอย่างสบายอารมณ์
“ ทำไมท่านถึงต้องทำงานหนักขนาดนี้เพื่อผู้ว่าการรัฐเฟิงโจวด้วย?” หวังฉิงหมิงลดเสียงลงและถาม
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขาก็รู้ว่ามันมีเหตุผลที่ทำให้ทูตสวรรค์จากโลกเบื้องบนตรงหน้าเขาสร้างกองกำลังพันธมิตรขนาดใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏขึ้นมา และนั่นก็ไม่ใช่เพื่อฆ่าซุยเฮ็ง แต่มันกลับเป็นการกระทำโดยเจตนาภายใต้คำสั่งของซุยเฮ็ง
ถึงอย่างนั้น คำสั่งนี้มีจุดประสงค์อะไร?
“ ทำไมน่ะหรอ?” หวังตงหลินหัวเราะเมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ เขาหยุดโยกเก้าอี้และจิบชา เขาพูดกับหวังฉิงหมิงว่า “ เจ้าไม่ได้ประสบกับเหตุการณ์ในวันนั้น ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่เจ้าจะไม่เข้าใจว่าพลังของราชาสวรรค์ทรงพลังเพียงใด”
“ และทำไมข้าถึงรับใช้ราชาสวรรค์น่ะหรอ? นั่นก็เพราะมันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นสุนัขของราชาสวรรค์ยังไงล่ะ!”
ณ จุดนี้ เขาก็หยุดพูดและมองออกไปในระยะไกล เขายิ้มอย่างมีนัยยะและพูดต่อว่า “ มันแตกต่างจากสุนัขข้างถนน เพราะมันรับประกันได้ว่าเราจะไม่ถูกคนรุมทุบตีจนตายอย่างน่าอนาถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเจ้านายของเราเอง”
….
ข่าวที่ว่ากองทัพนับล้านกำลังจะโจมตีเฟิงโจวและสังหารซุยเฮ็งได้แพร่กระจายไปถึงยังเขตฉางเฟิงแล้ว
สิ่งนี้ทำให้ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกไม่สบายใจและหวาดกลัว
ไม่ต้องพูดถึงแค่สามัญชนเลย แม้แต่ขุนนางในเมืองบางคนก็ยังเริ่มตื่นตระหนก บางคนถึงกับเริ่มหาทางหนี
ซุยเฮ็งเห็นทั้งหมดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
ผู้คนที่เขาคุ้นเคยยังคงรวมตัวกันอยู่รอบตัวเขา
ฮุ่ยฉี, หลิวหลี่เต๋า, เฉินตง, จางซูหมิงและคนอื่นๆ ล้วนเป็นผู้ติดตามที่มั่นคงของซุยเฮ็ง
หลิวอี้หยุนยังนำผู้ฝึกตนขอบเขตเทพทั้งสี่ของสำนักเซียนอรุณมายังเมืองฉางเฟิง
พวกเธอต้องการจะช่วยปรมาจารย์ปู่ของพวกเธอ
นี่เป็นผลให้การเปิดสำนักครั้งใหญ่ของสำนักเซียนอรุณล่าช้าลงไปเช่นกัน
เจิงหนานซุนและจูฉิงวางแผนที่จะโจมตีจากด้านหลังของกองกำลังพันธมิตร
ซูเฟิงอันรีบมาจากศาลากระบี่ยู่หัวโดยหมายจะมาช่วย
อู๋หยินเองก็ก้าวออกมาจากกองหนังสือ
….
ในสำนักงานว่าการ
คนกลุ่มใหญ่นี้กำลังรวมตัวกันและมองไปที่ซุยเฮ็ง
แม้ว่าพวกเขาจะมีกันหลายคน แต่มันก็มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ
“ ท่านผู้ว่าการ พวกเราจะสู้ศึกนี้อย่างไร” ในฐานะแม่ทัพ เฉินตงตั้งคำถามนี้เป็นตัวแทนของทุกคน
“ ใครบอกว่าเราจะทำการศึกกัน?” ซุยเฮ็งถามแทนที่จะตอบ เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ สิ่งที่เรียกว่า 'กองกำลังพันธมิตรสยบซุย' กล่าวกันว่ามีสองล้านคน และเราก็ไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้”
ทุกคนมองหน้ากัน สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร
ไม่ไปสงคราม?
“ ท่านผู้ว่าการ ท่านหมายจะฆ่าผู้นำของคนพวกนั้นหรอ?” เฉินตงถามด้วยความสงสัย
“ ไม่ มันไม่มีประโยชน์ที่จะฆ่าพวกมัน” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และยิ้ม “ เรายังต้องโจมตีหัวใจหลักของพวกมัน เราต้องทำให้พวกมันรู้สึกกลัว หลิวหลี่เต๋า เจ้านำสิ่งที่ข้าขอให้เจ้าเตรียมมาก่อนหน้านี้มาด้วยหรือเปล่า?”
“ ข้าเอามาแล้วท่านผู้ว่าการ” หลิวหลี่เต๋าก้าวไปข้างหน้าในทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขาหยิบกองแท่งไผ่ออกมาจากแขนเสื้อแล้วส่งมันให้กับซุยเฮ็งด้วยความเคารพ
“ นี่แหละ” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและวางกองแท่งไผ่ในมือของเขาลงเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็น ชื่อของผู้นำกองกำลังพันธมิตรเขียนอยู่บนนั้น
มันมีทั้งหมด 27 คน
“ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ข้าจะสุ่มจับฉลากแท่งไผ่สามแท่งเพื่อเลือกสามบุคคลที่โชคดีที่สุดที่จะได้ลิ้มรสชาติกระบี่ของราชาสวรรค์หงหวู่”
“ แต่ท่านผู้ว่าการ สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากค่ายทหารไปไกลกว่าหนึ่งพันลี้ได้” เฉินตงถามด้วยความสงสัย “ ถ้าเราทำตามวิธีนี้ ท่านจะไม่ต้องเดินทางเกือบ 3,000 ลี้ในทุกๆ วันเอาหรอ?”
“ ข้าไม่จำเป็นต้องเดินทางก็ได้” ซุยเฮ็งส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ “ การส่งกระบี่บินไปเสียบผู้คนที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งพันลี้นั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
ในเวลาเดียวกัน กระบี่หงหวู่ที่อยู่ข้างๆ เขาก็ลอยขึ้นและบินวนไปมาในทันที
มันเหมือนกับเด็กที่กำลังเต้นรำอย่างมีความสุข
ทุกคนเงียบลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พวกเขามองไปที่กระบี่ยาวที่กำลังร่ายรำไปมาอย่างอิสระในอากาศและเงียบลงอีกครั้ง
แน่นอนว่าเป็นเพราะความรู้ของพวกเขาตื้นเขินเกินไป เขาไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่ากระบี่บินในตำนานจะสามารถฟันศีรษะคนที่อยู่ห่างออกไปนับพันลี้ได้...
แต่ใครจะคิดล่ะ?
ตำนานเช่นนี้สามารถกลายเป็นความจริงได้!
มันไร้สาระเกินไป!
“ ยังไงก็ตาม มันก็คงจะไม่ดีแน่ถ้าพวกเขาตายโดยไม่มีเหตุผล”
ซุยเฮ็งดูเหมือนจะคิดอย่างอื่นขึ้นได้และทันใดนั้นเขาก็พูดกับหลิวหลี่เต๋าว่า “ รองหลิว ทำไมเจ้าไม่ไปที่ค่ายของกองกำลังพันธมิตรในนามของข้าและบอกพวกเขาให้ชัดแจ้งล่ะว่าข้าจะเริ่มตีหัวพวกเขาทีละคน”
“ เอ่อ?!” หลิวหลี่เต๋าตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาเกือบจะลืมหายใจ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงพยักหน้า “ ตามท่านบัญชา ข้าจะทำตามคำสั่งของท่าน”
“ อย่าทำหน้าเหมือนกับว่าข้ากำลังส่งเจ้าไปเผชิญหน้ากับความตายสิ” ซุยเฮ็งหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ หากพวกมันกล้าที่จะทำร้ายเจ้า เจ้าก็เพียงแค่ต้องตะโกนว่า 'ท่านผู้ว่าการช่วยข้าด้วย' ขึ้นไปบนฟ้าดังๆ แล้วจากนั้นความช่วยเหลือก็จะลงมาหาเจ้าเอง”
เมื่อเร็วๆ นี้แสงแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดก็ได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เขาได้ค้นพบวิธีการร่ายเวทมนตร์จากระยะไกล
ครั้งนี้เขาสามารถลองดูได้
“ ขอบคุณท่านผู้ว่าการ!” หลิวหลี่เต๋าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่เขาก็ยังตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ ข้าขอรายชื่อของคนเหล่านี้เพื่อเอาไปเขียนเป็นใบแจ้งตายก่อนจะนำมันไปประกาศที่ค่ายของพวกมันได้ไหม?”
“ ใบแจ้งตาย?” ซุยเฮ็งตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นและพูดว่า “ แน่นอน”
….
ในมณฑลฉางซิง เฟิงโจว
สถานที่แห่งนี้ถูกยึดครองโดยกองกำลังพันธมิตรสยบซุย สำนักงานเทศมณฑลกลายเป็นสถานที่สำหรับผู้นำหลายคนเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ
แม้จะเป็นการประชุมแต่มันก็ยังเป็นการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์
ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวของอีกฝ่าย
ในฐานะหนึ่งในผู้นำของหยูโจว เสิ่นหยูก็อยู่ในสำนักงานเทศมณฑลด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะโต้เถียง
ในขณะนี้ เขาก็กำลังมองซ้ายขวา หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
เขามองดูคนเหล่านี้ที่ยังไม่ได้โค่นเฟิงโจวและสังหารซุยเฮ็งแต่ก็ได้เริ่มหารือกันแล้วว่าพวกเขาจะต้องการยึดครองเขตใด เมืองใด แม่น้ำสายใด และแม้กระทั่งวิธีการแบ่งสรรดินแดนบนภูเขา
เสิ่นหยูได้สาปแช่งหวังตงหลินไปแล้ว 800 ครั้งในใจของเขา เขารู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากการได้ขึ้นเรือโจรสลัด
และเขาก็ไม่สามารถกระโดดออกมาได้อีกต่อไป!
“ รายงาน!”
ในขณะนี้ เสียงของผู้ส่งสารก็ดังขึ้นข้างนอก
การโต้เถียงกันในสำนักงานหยุดลงในทันที
“ ทูตของผู้ว่าการรัฐเฟิงโจวซุยเฮ็งได้มาขอเข้าเฝ้า!”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved