ตอนที่ 226 : พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญ – วิหารอัศวิน!

“นี่คือลำเนาผู้พิฆาตมังกรงั้นเหรอ… น่าสนใจ”

โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อย

เขาคิดถึงสมรภูมิแห่งลอร์ดในทันที

เขาไปถึงอันดับเหนือสามัญขั้นสูงบนสมรภูมิแห่งลอร์ดแล้ว

ลอร์ด 99% ที่เขาจะพบต่อไปคงจะเป็นลอร์ดจากเผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดระดับสูงเป็นแน่!

เนื่องจากสายเลือดระดับสูงของพวกเขา พวกเขาจึงทรงพลังมากๆ บนสมรภูมิและสามารถไต่อันดับได้อย่างง่ายดาย

โจวโจวถือว่าพัฒนาได้ดีมากแล้ว ลอร์ดคนอื่นได้เรียกเขาว่าเป็นลอร์ดอันดับหนึ่งของลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน แต่มันก็ยังยากที่เขาจะต่อสู้กับคนที่มีสายเลือดระดับสูงในระดับนี้

ยกตัวอย่างเช่นลอร์ดจากเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้าที่เขาเพิ่งเจอมา

เขาควบคุมพลังเทวะที่อยู่ในสมรภูมิด้วยการพึ่งพาสายเลือดจิตวิญญาณเทพเจ้าของเขาและแทบจะกวาดล้างพวกเขาได้เพียงลำพัง!

โจวโจวจำมันได้ดี

นอกจากนี้เขายังเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความยากลำบากของสายเลือดเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ต้องเผชิญกับสายเลือดที่ผิดปกติเหล่านี้

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สู้ต่อ แต่เขาได้วางแผนที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งในโลกแห่งความเป็นจริงก่อนที่จะไปไต่อันดับอีกครั้ง

เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดลำเนาผู้พิฆาตมังกรที่สามารถใช้รับมือกับสายเลือดระดับสูงได้

โจวโจวคันไม้คันมือขึ้นมา เขาอยากจะลองไปสู่ในสมรภูมิแห่งลอร์ดซะตั้งแต่ตอนนี้เลยเพื่อดูว่าลำเนาผู้พิฆาตมังกรนั้นจะมีประสิทธิภาพสักแค่ไหน

“ไว้ค่อยลองดีกว่า ไม่งั้นฉันอาจจะเสียโควต้าการคืนชีพไปก็ได้ถ้าฉันแพ้!”

โจวโจวตัดสินใจ จากนั้นเขาก็มองดูพรสวรรค์แห่งลอร์ดอันสุดท้าย

[พรสวรรค์แห่งลอร์ด: วิหารอัศวิน (ระดับเหนือสามัญ)]

[วิหารอัศวิน: ดินแดนของท่านจะมีวิหารอัศวินที่ผู้เชี่ยวชาญประเภทอัศวินทุกคนจะถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์! สถานที่แห่งนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกสอนที่ดีที่สุดในการบ่มเพาะผู้เชี่ยวชาญประเภทอัศวิน มีที่ปรึกษาอัศวินที่ทรงพลังซึ่งสั่งสอนได้เก่ง และแม้แต่มรดกผู้กล้าประเภทอัศวินที่มีค่าที่สุด มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการบ่มเพาะอัศวิน]

[เอฟเฟกต์สิ่งปลูกสร้าง — การปกป้องของเทพอัศวิน: เมื่อลอร์ดและกองกำลังของลอร์ดออกไปล่ามอนสเตอร์แห่งหมอก พวกเขาจะพบกับมอนสเตอร์แห่งหมอกที่มีโอกาสเล็กน้อยที่จะดรอปใบเปลี่ยนอาชีพอัศวิน สัญญาสัตว์พาหนะ วรยุทธ์วิญญาณศึก อุปกรณ์สวมใส่เฉพาะตัวของอัศวิน สมบัติเฉพาะสำหรับอัศวิน พิมพ์เขียวสิ่งปลูกสร้างพิเศษของอัศวิน หนังสือรับสมัครผู้ฝึกสอนอัศวิน และไอเท็มอื่นๆ]

“วิหารอัศวิน?”

โจวโจวเลิกคิ้วขึ้น

สิ่งปลูกสร้างพิเศษอีกแล้วเหรอ?

เขาเรียกสองพี่น้องมนุษย์แมวที่อยู่ในห้องข้างๆ เข้ามาและบอกให้พวกเธอส่งคนไปหาตำแหน่งของวิหารอัศวิน

ในไม่ช้า ทั้งสองก็กลับมา

“รายงานท่านลอร์ด ข้าพบตำแหน่งของวิหารอัศวินแล้ว”

อาลีย่าพูดด้วยสีหน้างงๆ

“เจ้าเป็นอะไร?”

โจวโจวมองเธอที่กำลังสับสน

“ท่านลอร์ด วิหารอัศวินที่ท่านพูดถึงนั้นงดงามและยิ่งใหญ่มาก! ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี ท่านคงต้องไปดูด้วยตัวเองแล้วเจ้าค่ะ”

อาลีย่ากล่าว

แอทลีย์ที่อยู่ข้างๆ เธอก็พยักหน้าซ้ำๆ

“งั้นก็ไปดูกันเถอะ”

โจวโจวเองก็สงสัย

อะไรมันจะขนาดนั้น?

สองพี่น้องมนุษย์แมวพยักหน้า จากนั้นพวกเขาสามคนก็เดินออกไปจากที่พำนักของลอร์ดและเดินไปยังวิหารอัศวิน

ครู่ต่อมา โจวโจวก็มองดูสิ่งปลูกสร้างตรงหน้าของเขา

อาคารนี้สูงประมาณ 10-15 ชั้น ประตูสีทองที่อยู่ตรงข้ามนั้นสูง 30 เมตรและกว้าง 7-8 เมตร

มันดูไม่เหมือนกับประตูทางเข้าเลย แต่ดูเหมือนประตูที่ให้เทพเจ้าร่างสูงใหญ่คอยข้ามผ่านไป

กำแพงของอาคารหลักเป็นสีขาวและสีทอง ที่ด้านบนสุดของอาคารมียอดแหลมสีทองเรียงเป็นทิวแถวดูเคร่งขรึมและงดงามมาก

อัศวินคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะสีเงินและถือหอกกำลังยืนเฝ้าวิหารอัศวินอยู่ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและดวงตาของเขาเป็นประกาย

เมื่อโจวโจวบินขึ้นไปดูสิ่งปลูกสร้าง เขาก็เงียบไป

วิหารอัศวินแห่งนี้กินพื้นที่ประมาณยี่สิบส่วนของเมืองตะวันสาดแสง (ภายในกำแพงเมือง) ซึ่งกินพื้นที่เกือบห้าล้านตารางเมตร

ในเวลานี้ สุดท้ายเขาก็เข้าใจสิ่งที่สองพี่น้องมนุษย์แมวรู้สึกเมื่อพวกเธอเข้ามารายงานเขา

วิหารอัศวินนี่เกินเบอร์จริงๆ!

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งปลูกสร้างพิเศษที่มาพร้อมกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญ เขาก็เข้าใจขึ้นมาเล็กน้อย

โจวโจวบินลงมาและเห็นอัศวินในชุดเกราะสีดำอันดุดันพร้อมกับมีดวงตาสีแดงอ่อนกำลังเดินออกมาจากวิหารอัศวิน

“สวัสดี ข้าคือนายเหนือของวิหารอัศวิน ชื่อของข้าคือไป่เหอ โปรดดูแลข้าด้วยในอนาคต”

ไป่เหอยื่นมือขวาออกมาและหัวเราะ

โจวโจวอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปจับกับอีกฝ่ายก่อนที่จะปล่อยมือ

เขาเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ

นี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นชาวพื้นเมืองจับมือกันหลังจากมาถึงทวีปจื้อเกา

เขามองไปที่อีกฝ่าย จากนั้นก็มีข้อมูลของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นมา

[ลูกน้อง: ไป่เหอ (ผู้กล้า)]

[สมญานามผู้กล้า: ราชาอัศวินอเวจี]

[ระดับ: ระดับโชคชะตาผู้กล้าระดับเทพแท้จริง]

[ดินแดน: วิหารอัศวิน]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเทพแท้จริงขั้นต้น]

[ความสามารถโดยรวม: ?]

[สายเลือด: ?]

[ทักษะ: ?]

[ความภักดี: ไม่มี (อีกฝ่ายไม่ใช่ลูกน้องในดินแดนของท่าน)]

[ศักยภาพ: ระดับเทพอาวุโสขั้นกลาง]

[ประวัติผู้กล้า: ?]

โจวโจวอึ้ง

เขามองไปที่อัศวินผู้นี้อย่างว่างเปล่า

ระดับโชคชะตาผู้กล้าระดับเทพแท้จริง???

ระดับเทพแท้จริงขั้นต้น???

นี่มัน…

เทพแท้จริง!

ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามในหน้าต่างข้อมูลของเขา

ที่ระดับเงินขาวขั้นกลาง โจวโจวรู้สึกว่ามันคงเป็นเพราะพรสวรรค์แห่งลอร์ดของเขาที่ทำให้เขาสามารถเห็นความแข็งแกร่งและศักยภาพของเทพแท้จริงได้

มิฉะนั้นเขาก็คงจะไม่เห็นอะไรเลย

นอกจากนี้มันยังเห็นได้จากความจริงที่ว่าดินแดนของอีกฝ่ายคือวิหารอัศวิน ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่ใช่ลูกน้องของเขา

นั่นก็สมเหตุสมผลดี

พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญจะทำให้ได้ลูกน้องระดับเทพแท้จริงมาเป็นลูกน้องได้ยังไง?

มันเป็นไปไม่ได้เอาซะเลย

ดินแดนของเขาน่าจะเป็นแค่ที่ตั้งของวิหารอัศวินของพี่ใหญ่ผู้นี้เท่านั้น

“ถ้าท่านลอร์ดมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีในอนาคต ท่านก็สามารถส่งพวกเขามาหาข้าได้ พวกเราจะบ่มเพาะพวกเขาให้เป็นอัศวินที่ดีเอง แน่นอน สำหรับค่าบริการ พวกเราจะมอบส่วนลด 20% ให้แก่ท่านเอง”

ไป่เหอยิ้ม

โจวโจวพยักหน้า

เขาสามารถบอกได้ พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญวิหารอัศวินนี้น่าจะมอบโอกาสให้เขาในการติดต่อกับฝ่ายใหญ่ๆ เช่นนี้และไม่ได้ครอบครองมัน

ถ้าเขาอยากจะได้มัน โจวโจวก็เดาว่ามันน่าจะเป็นไปได้เมื่อเขาเลื่อนระดับพรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้เป็นระดับเทวะแล้วเท่านั้น

แต่มันก็เป็นแค่ความเป็นไปได้เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

“ข้ายังมีเรื่องต้องไปทำอีก ดังนั้นข้าขอตัวก่อนนะ ไว้พวกเราค่อยหาโอกาสคุยกันเมื่อข้าว่าง ข้ารู้สึกเหมือนว่าท่านเป็นสหายเก่าของข้าเลย”

ไป่เหอยิ้ม

เมื่อพูดถึงเพื่อนเก่า แววตาที่ซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นครู่หนึ่งแต่ก็กลับมาเป็นปกติในทันที โจวโจวจึงไม่ได้สังเกตเห็นมันเลย

เขาแค่งงเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายพูดถึงอะไร

อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็ไม่ได้ถามอะไรอีกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะพูดอะไรต่อ

“งั้นไว้คุยกันคราวหน้าละกัน”

เขาพูดอย่างจริงจัง

เขาไม่กล้าที่จะไม่ระวังคำพูดเมื่อเผชิญหน้ากับพี่ใหญ่ระดับเทพแท้จริงแบบนี้

ไป่เหออึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพยักหน้าก่อนที่จะจากไป