แม้ว่าในเมืองหลวงจะมีเขตห้ามบิน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเนซาริโอ้ที่เปรียบได้กับผู้กล้าระดับเหนือสามัญของเผ่าพันธุ์ทั่วไป มันจึงสามารถเพิกเฉยต่อสิ่งนั้นได้
อย่างไรก็ตาม เพราะเมืองหลวงไม่ใช่สถานที่ทั่วไป โจวโจวจึงไม่อยากหยาบคายเกินไปและไม่อยากทำให้ทุกคนตื่นตระหนก ดังนั้นเขาจึงบอกให้เนซาริโอ้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าและคอยสังเกตตำแหน่งของเขาในเมืองหลวงเอาไว้
มันจะได้ไม่สายเกินไปที่จะช่วยเขาถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา
…
ณ ทางเข้าของเมืองหลวง
เมื่อโจวโจว อู๋ซิน และซีฉือมาถึง พวกเขาก็เห็นยามคนหนึ่งคอยอยู่แล้ว
เมื่อเขาเห็นพวกโจวโจว เขาก็ลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะรีบเดินเข้ามา
“ท่านคือเจ้าตะวันสาดแสงใช่ไหม?”
สายตาของเขามองไปมาระหว่างโจวโจวและอู๋ซิน
อู๋ซินได้กลับคืนสู่วัยหนุ่มอีกครั้ง ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่คนเก่าคนแก่ เขาก็คงจะไม่สามารถจำอู๋ซินในตอนนี้ได้
สำหรับซีฉือ ในฐานะศพไร้หน้า เขาจึงไม่พบว่ามันแปลกอะไร
ในโลกนี้ มันมีผู้คนในระดับเหนือสามัญมากมายที่มีความสามารถในการควบคุมมอนสเตอร์แห่งหมอก
บ้างก็สามารถควบคุมได้อย่างชั่วคราว และบ้างก็สามารถควบคุมได้อย่างถาวร
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ประหลาดใจอะไรที่เห็นว่ามีมอนสเตอร์แห่งหมอกอยู่ข้างๆ พวกเขาด้วย
“ข้าเอง”
โจวโจวพูดออกมา
“ฝ่าบาทรออยู่นานแล้ว ตามข้ามาได้เลยขอรับ”
ทหารยามมองไปยังโจวโจวอยู่นานก่อนที่จะพยักหน้า จากนั้นเขาก็นำทางพวกเขา
เขานึกถึงรูปลักษณ์ของโจวโจวก่อนที่อีกฝ่ายจะมาถึง แต่รูปลักษณ์และบรรยากาศของโจวโจวก็ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่เขาได้รับพรสวรรค์—ลักษณ์สวรรค์สรรค์สร้าง ดังนั้นเขาจึงจำอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ชั่วขณะ และสามารถยืนยันได้เมื่อโจวโจวพูดออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน ณ วังหลวง
ภายในห้องนอนของหลี่ย่า เมื่อโจวโจวและคนอื่นๆ มาถึง พวกเขาก็เห็นชายชราคนหนึ่งที่มีผมเผ้าและหนวดเคราสีขาวนั่งอยู่ข้างๆ โลงศพคริสตัลและมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ภายใน
เขาคือราชาองค์ปัจจุบันแห่งอาณาจักรออโรร่า หลี่หยวนกัน!
เมื่อเห็นเช่นนี้ อู๋ซินที่อยู่ข้างๆ โจวโจวก็ตัวสั่น
“ฝ่าบาท!”
เขาเอ่ยปากออกมา
หลังจากพูดเช่นนี้ออกไป เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาหยาบคายไปหน่อย เขาคุกเข่าให้โจวโจวด้วยความละอายใจ
เจ้านายที่แท้จริงของเขาอยู่ข้างๆ แล้วเขากล้าเรียกคนอื่นว่าฝ่าบาทได้ยังไง?
โจวโจวส่ายหัวและเอื้อมมือออกไปประคองอู๋ซินขึ้นมา
“ท่านรับใช้ราชาผู้นี้มาหลายสิบปีแล้ว ท่านอาจจะดูเหมือนราชาและข้ารับใช้ แต่จริงๆ แล้วพวกท่านดูเหมือนพี่น้องกันซะมากกว่า ท่านเรียกเขาว่าฝ่าบาทออกมาทันทีเมื่อเห็นเขาแล้วจะยังไง? ข้าไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักความเป็นมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้หรอก”
เขาพูดออกมา
เขายังเชื่อใจลูกน้องที่ภักดีจนตายมาก ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ตำหนิอู๋ซินกับแค่คำว่า ‘ฝ่าบาท’
“ขอบคุณขอรับท่านลอร์ด!”
อู๋ซินกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
ในเวลานั้นเอง เมื่อหลี่หยวนกันได้ยินเสียงของอู๋ซิน เขาก็หันมามองอีกฝ่ายแบบสั่นๆ ด้วย
“เจ้าคือน้องอู๋งั้นเหรอ?”
เสียงของเขาแหบแห้ง
ในเวลานี้ ดวงตาของเขาก็สลัวและไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยริ้วรอยและจุดด่างดำ มันดูไม่เหมือนกับราชาที่ฉลาดและใจดีอย่างที่ประชาชนร่ำลือเลย
“ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?”
ร่างกายของอู๋ซินสั่นอีกครั้งและเขาก็อดถามไม่ได้
“ฮี่ๆ น้องอู๋ เจ้าเด็กลงเยอะเลย ดีจริงๆ ดีจริงๆ… เมื่อข้าเห็นเจ้า ข้าก็นึกถึงวันเวลาที่พวกเราสองคนได้ขี่ม้าด้วยกันเลย ตอนนั้นพวกเราช่างฮึกเหิมจริงๆ แค่กๆ…”
เสียงของหลี่หยวนกันอ่อนแรงมาก ราวกับว่าแค่มีสายลมเบาๆ พัดมา เสียงนี้ก็อาจจะลอยหายไปได้
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไอออกมาเบาๆ เขาอ่อนแอมากจริงๆ
เขาอ่อนแอมากจนแทบจะไม่มีแรงไอแล้ว
“ฝ่าบาท ท่านกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
โจวโจวขมวดคิ้ว
เขาจะไม่สามารถบอกได้ยังไงว่าราชาแห่งอาณาจักรออโรร่าผู้นี้นั้นร่อแร่มากแล้ว?
อย่างไรก็ตาม ตามความเข้าใจก่อนหน้านี้ของเขา แม้ว่าราชาหลี่หยวนกันจะแก่มากแล้ว แต่เขาก็ยังเต็มไปด้วยพลัง มิฉะนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถจัดการกับหลายๆ เรื่องในทุกวันนี้ได้
“ข้าเพิ่งส่งพลังออโรร่าทั้งหมดของข้าเข้าไปในร่างกายของลูกสาวของข้า ข้าอยากให้เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและเรียกข้าว่า… ท่านพ่อ”
หลี่หยวนกันพึมพำ
พลังออโรร่า?
มันคืออะไรกัน?
โจวโจวสับสน
ในเวลานั้นเอง อู๋ซินก็เดินเข้ามาและอธิบายเบาๆ
“ท่านลอร์ด พลังออโรร่าคือพลังงานต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งอาณาจักรออโรร่า อย่างไรก็ตาม มันก็มีชาวออโรร่าที่มีสายเลือดบริสุทธิ์มากเท่านั้นที่จะสามารถใช้งานพลังงานนี้ได้ และแก่นพลังออโรร่าก็คืออายุขัยของเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งอาณาจักรออโรร่า องค์ราชาคงอยากจะมอบอายุขัยของเขาให้กับองค์หญิงหลี่ย่าเพื่อชุบชีวิตเธอ”
เมื่อถึงจุดๆ นี้ อู๋ซินก็ถอนหายใจออกมา
“แต่เธอก็ตายไปแล้ว การกระทำของเขาจะไปมีประโยชน์อะไร?”
“เจ้าคงจะเป็นเจ้าตะวันสาดแสง โจวโจว คนที่ลูกสาวของข้าพูดถึงอยู่บ่อยๆ ใช่ไหม? รูปลักษณ์แห่งมังกรและฟีนิกซ์ ความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์… ไม่แปลกใจเลยที่ลูกสาวของข้าชอบเจ้ามากขนาดนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่ลูกสาวของข้าตายไปแล้ว…”
ในเวลานั้นเอง หลี่หยวนกันก็มองไปที่โจวโจวและพูดออกมา
หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็เซและล้มลงกับพื้นเพราะอ่อนแรง
“ทั้งชีวิตข้ามีลูกชาย 4 คน และลูกสาวอีก 1 คน พวกเขาทุกคนล้วนตายตกในสงคราม แต่ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ สงคราม… มันนำพาอะไรมาให้พวกเราบ้าง?”
เขาพึมพำกับตัวเอง
โจวโจวไม่ได้ตอบ
สำหรับหลี่หยวนกัน เขามีคำตอบให้ตัวเองแล้วและไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตอบคำถามแทนเขา
เขาเดินไปอย่างเงียบๆ และเดินไปข้างๆ โลงศพคริสตัล เขามองไปยังร่างที่หลับใหลอยู่ในโลงศพคริสตัลและรู้สึกสมเพชและเกลียดชังสงครามขึ้นมาในทันใด
แต่แล้วยังไง?
เขาเป็นเพียงหนอนที่น่าสมเพชที่มีส่วนร่วมในสงครามเท่านั้น
ทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้ก็คือการดูแลตัวเอง คนที่เขารัก และคนที่รักเขาเท่านั้น
ถ้าเป็นไปได้ เขาก็คงจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งจนเขาสามารถยุติสงครามนี้ที่จะส่งผลต่อเผ่าพันธุ์ทั้งหมดในอนาคตได้!
และจากนั้น… เขาก็จะกลับมาที่บ้านเกิดที่เขาคิดถึงอยู่ตลอด
“ฝ่าบาท มอบศพของหลี่ย่าให้ข้าด้วยเถอะ ข้าสามารถชุบชีวิตของเธอได้”
โจวโจวพูดออกมาในทันใด
หลี่หยวนกันเงียบไปชั่วขณะ
“จริงเหรอ?!”
หลี่หยวนกันตัวสั่นในขณะที่เขาเดินมาตรงหน้าของโจวโจวและคว้าไหล่ของเขาเอาไว้
“ข้าได้ชุบชีวิตผู้คนมามากมายแล้ว ถ้าฝ่าบาทไม่เชื่อข้า ท่านก็สามารถส่งคนไปดูที่ดินแดนของข้าได้เลย หลี่ย่าคือสหายของข้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เธอตายไปทั้งแบบนี้แน่ๆ”
โจวโจวพูดออกมา
หลี่หยวนกันมองไปที่เขา
ในทันใดนั้นเอง เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงของเขาดังก้องไปทั่ววัง
เขาไม่ได้ดูเหมือนชายแก่ที่ใกล้ตายอีกแล้ว
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็หยุดหัวเราะ
หลี่หยวนกันมองดูฝนตกปรอยๆ ข้างนอก
ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจ
“เจ้าตะวันสาดแสง ถ้าเจ้าสามารถชุบชีวิตลูกสาวของข้าและล้างแค้นให้เธอได้ ข้าจะยกอาณาจักรออโรร่าทั้งหมดให้กับเจ้า! เป็นยังไง?!”
ดวงตาสีเหลืองสลัวของเขาจ้องมองโจวโจวเหมือนเสือและหมาป่า