บนสมรภูมิ สนามรบเงียบลงเมื่อโจวโจวปรากฏตัวต่อหน้าทหารทั้งสองฝ่ายโดยไม่เป็นอันตรายอะไรเลย
ขวัญกำลังใจของทหารของโจวโจวพุ่งทะยานขึ้น พวกเขาทุกคนคำรามออกมาและต่อสู้กับทหารของกองทัพพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์
ส่วนขวัญกำลังใจของทหารจากพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์นั้นก็จมดิ่งลงทันที
ผู้กล้าของพวกมันได้ใช้ไพ่ตายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนั้นออกไปแล้ว แต่ราชาตะวันสาดแสงกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยเหรอ?
พวกมันจะสามารถต่อสู้ในศึกนี้กับราชาผู้น่าพรั่นพรึงผู้นี้ที่สามารถสังหารผู้กล้าของพวกมันตามอำเภอใจได้ยังไง?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ขวัญกำลังใจของพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์ก็ลดลงทันที
ผู้กล้าจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ก็สังเกตเห็นสิ่งนี้ แต่ในเวลานี้ พวกมันก็ไม่สนใจความรู้สึกของทหารทั่วไปอีกแล้ว
พวกมันมองไปยังโจวโจวราวกับว่าพวกมันกำลังมองไปยังกระบี่อาญาสิทธิ์ที่กำลังจ่ออยู่ที่ลำคอของพวกมัน ซึ่งสามารถปลิดชีพของพวกมันได้ทุกเมื่อ
มันไม่มีทางต่อสู้ในศึกนี้ต่อไปได้แล้ว
ในเวลานั้นเอง ผู้กล้าหลายคนก็ได้คิดที่จะหลบหนีแล้ว
ผู้กล้าร่างสูงคนหนึ่งที่มีหนวดสองข้างบนหัวของมันและมีผิวกายเป็นสีเขียวได้มองไปยังนักเวทคนหนึ่งอย่างจริงจังหลังจากที่มันสลายเวทมนตร์ระดับเหนือสามัญขั้นสูงอย่างมหาทอร์นาโดไปได้แบบฉิวเฉียว ซึ่งคนที่ปลดปล่อยเวทมนตร์นั้นออกมาก็คือราชาวายุม่ายหลุน
มันตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
นั่นคือในฐานะผู้กล้าที่มีความต้านทานต่อเวทมนตร์ระดับเพชร แต่มันก็ไม่สามารถเอาชนะจอมเวทธาตุลมระดับเหนือสามัญขั้นสูงผู้นี้ได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว
จอมเวทธาตุลมผู้นี้บรรลุความสำเร็จในขอบเขตของเวทมนตร์ธาตุลมที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ
ด้วยความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย มันน่าจะสามารถต่อสู้กับผู้กล้าระดับมหากาพย์ขั้นต้นบางส่วนได้เลย
อย่างน้อยที่สุด มันก็เป็นเรื่องง่ายที่อีกฝ่ายจะปกป้องตัวเอง
เวทมนตร์ธาตุลมเป็นรองแค่เวทมนตร์ธาตุชีวิตและเวทมนตร์มิติเท่านั้นในแง่ของการปกป้องตัวเอง
มันมองดูสถานการณ์ในสนามรบอีกครั้ง และหัวใจของมันก็หดเกร็ง
สถานการณ์บนสมรภูมิตรงหน้าของมันน่ากลัวมากจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้กล้าจากต่างเผ่าพันธุ์เช่นพวกมัน
พวกมันต้องรับมือกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้าในขณะที่ต้องคอยระวังหอกมรณะของราชาผู้น่าพรั่นพรึงบนท้องฟ้า มันคงจะสุดยอดแล้วถ้าพวกมันจะสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งออกมาได้สัก 70-80% ในสถานการณ์เช่นนี้
สุดท้ายมันก็ตัดสินใจได้หลังจากเห็นผู้กล้าอีกคนถูกราชาตะวันสาดแสงสังหาร
หลังจากเปิดใช้งานคัมภีร์อันหนึ่ง พลังมิติอันหนาแน่นก็ปะทุออกมา ก่อตัวขึ้นเป็นประตูมิติที่มีพลังดูดที่ไม่มีที่สิ้นสุดด้านหลังมัน จากนั้นก็ดูดมันเข้าไปในรอยแยกมิตินั้น
ผู้กล้าต่างเผ่าพันธุ์หลายคนอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่ดวงตาของพวกมันจะเปล่งประกายขึ้นมา
เหล่าผู้กล้าจากต่างเผ่าพันธุ์พากันหยิบไพ่ตายที่ใช้ในการหลบหนีออกมาและหนีไปจากสมรภูมิทีละคน
หลังจากผ่านไปไม่นาน มันก็มีผู้กล้า 7-8 คนหลบหนีไปแล้ว
“ไล่ตามพวกมันไป แต่ไม่ต้องไล่ตามไกลนัก ถ้าตามไม่ทันก็ปล่อยพวกมันไป”
ในขณะที่ผู้กล้าของอาณาจักรตะวันสาดแสงลังเลที่จะไล่ตามไป โจวโจวก็ส่งข้อความเสียงมาให้ทันที
“ขอรับฝ่าบาท!”
“เจ้าค่ะฝ่าบาท!”
…
ไป่อี้และผู้กล้าคนอื่นๆ รับคำสั่ง
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า โจวโจวมองไปยังเหล่าผู้กล้าที่กำลังหลบหนีไปด้วยสีหน้าเย็นชา
พวกมันอยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไปงั้นเหรอ พวกมันเห็นเขาเป็นตัวอะไรกัน?
“หนีไปให้พ้นก็แล้วกัน สำหรับผู้กล้าพวกนี้ที่ก่อตั้งพันธมิตรกันได้รวดเร็วขนาดนี้ อาณาจักรเบื้องหลังของพวกมันคงจะอยู่ไม่ไกลจากดินแดนของฉันเท่าไรแน่ๆ ไว้ฉันจะไปคิดบัญชีกับพวกมัน เมื่อฉันจัดการกับอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอนและอาณาจักรไททันเสร็จ!”
โจวโจวคิดอย่างเย็นชา
ในช่วงเวลาต่อมา ขวัญกำลังใจของทหารต่างเผ่าพันธุ์ก็แหลกสลายไปหมดสิ้นเพราะการหลบหนีไปของผู้กล้าของพวกมัน
สำหรับขวัญกำลังใจของกองทัพตะวันสาดแสง มันก็เพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด และพวกเขาก็ช่วงชิงความได้เปรียบทั้งหมดบนสมรภูมิมาได้
ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของโจวโจวและยอดฝีมือของอาณาจักรและการบุกอย่างต่อเนื่องของทหาร ทหารจากต่างเผ่าพันธุ์ก็ลดจำนวนลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ผู้กล้าจากต่างเผ่าพันธุ์ก็เริ่มตายไปทีละคนๆ ด้วย!
สุดท้าย ในขณะที่ผู้กล้าคนแรกจากต่างเผ่าพันธุ์เริ่มสูญเสียจิตใจที่จะต่อสู้และทรุดตัวลง สิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะมีผลกระทบแบบโดมิโน่
ทหารต่างเผ่าพันธุ์จำนวนมากเริ่มยอมจำนน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง การต่อสู้บนสมรภูมิก็สงบลง
การต่อสู้ของทหารหลักสิบล้านคนได้สิ้นสุดลงแล้ว อาณาจักรตะวันสาดแสงได้รับชัยชนะมาโดยแลกกับความตายของทหารกว่าสี่ล้านคน (รวมทหารสองล้านคนที่ได้รับมาจากการใช้ยุยงแปรพักตร์) และมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าห้าล้านคน
“หมอและนักบวช เริ่มการรักษาได้! ไม่ต้องประหยัดคริสตัลเทวะศรัทธา ใช้พวกมันให้เต็มที่เลยเพื่อชุบชีวิตทหาร!”
โจวโจวสั่ง
ทหารเหล่านี้ได้ตายไปในการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ดวงวิญญาณของพวกเขายังไม่ได้ไปที่ยมโลกเลย ดังนั้นในทางทฤษฎีแล้ว พวกเขาก็ยังไม่ได้ตายจริงๆ แต่สามารถชุบชีวิตได้ด้วยคาถาชุบชีวิตขั้นต้น
คาถาชุบชีวิตขั้นต้นต้องใช้คริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตตั้งมั่น 10 อันเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเท่านั้น มันจึงไม่จำเป็นต้องใช้คริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์ที่ล้ำค่าเลย
“ขอรับฝ่าบาท!”
สาวก 3,000 คน นักบวช 3,000 คน แม่ชี 3,000 คน พาลาดินแห่งชีวิต 10,000 คน และหมอ 50,000 คนก็ก้าวเข้ามาบนสมรภูมิและเริ่มทำการรักษาและชุบชีวิตทหาร
โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นภาพฉากนี้
เขามีคริสตัลเทวะศรัทธาระดับต่ำอยู่เป็นจำนวนมากมาย ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอะไรที่จะชุบชีวิตทหารนับล้านคน
นอกจากนี้เขายังได้สังหารมอนสเตอร์แห่งหมอกไปเกือบ 20 ล้านตัว ดังนั้นคริสตัลสีชาดที่ดรอปออกมาก็จะต้องมากกว่าจำนวนที่ได้ใช้ไปแน่ๆ
“ด้วยการฟื้นคืนชีพอย่างต่อเนื่องแบบนี้ วันหนึ่งทหารของฉันคงจะเป็นยอดฝีมือแน่ๆ หลังจากผ่านศึกไปสักร้อยหรือพันครั้ง!”
โจวโจวเต็มไปด้วยความคาดหวัง
จนถึงตอนนี้ มันยังไม่เคยมีทหารของเขาตายจริงๆ สักคนด้วยการมีอยู่ของคาถาชุบชีวิตขั้นต้น
บางทีคงมีแค่เขาที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดเป็นจำนวนมากที่จะสามารถทำสิ่งที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ได้
ถึงกระนั้นเขาก็ยังตระหนักได้ถึงปัญหาข้อหนึ่ง
“มันมีนักบวชทั้งหมดแค่ 19,000 คน เมื่อเทียบกับกองทัพสิบล้านคนของฉันแล้วก็ถือว่ามันมีจำนวนน้อยไปหน่อย”
โจวโจวครุ่นคิด
เมื่อในอนาคตเขามีชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชรเพียงพอ เขาก็จะอัพเกรดพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับแพลตตินั่มขาวอย่างที่พักพิงของเทพีแห่งชีวิต
มิฉะนั้นด้วยจำนวนนักบวชที่มีน้อยนิดแบบนี้ มันคงจะจำกัดการชุบชีวิตทหารของเขาในอนาคตเป็นอย่างมาก
เขาอาจจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ถ้าเขาอัพเกรดพรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจสมรภูมิและมองไปยังข้อความแจ้งเตือนของเขา
ข้อความแจ้งเตือนใหม่ปรากฏขึ้นมาหลังจากเขาสังหารผู้กล้าคนที่หกไป
ในเวลานั้น เขากำลังตรวจสอบความสามารถต่างๆ ของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจพวกมันเท่าไร แต่ตอนนี้ที่เขาว่างแล้ว เขาจึงสามารถเปิดมันขึ้นมาดูได้
[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านสะสมประวัติผู้กล้าเพียงพอแล้ว ท่านสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อทิ้งรอยประทับแห่งโชคชะตาของท่านเอาไว้ได้ในสายธารแห่งกาลเวลาและหลอมโชคชะตาผู้กล้าของท่านในระดับมหากาพย์—ลอร์ดเทพสงครามขึ้นมาได้!]
[ท่านต้องการหลอมโชคชะตาผู้กล้าระดับมหากาพย์—ลอร์ดเทพสงครามอย่างเป็นทางการหรือไม่?]
“โชคชะตาผู้กล้าระดับมหากาพย์—ลอร์ดเทพสงคราม?”
โจวโจวเลิกคิ้วขึ้น