[การกลายพันธุ์ทหารระดับ 6 ต้องใช้พลังเวทย์ 250 แต้ม ท่านต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?]

เสียงแจ้งเตือนที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู

หลิน ยู มองไปต้นวิลโลว์ที่พริ้วไหวท่ามกลางสายลมตรงหน้าเขา เขาเลือกที่จะยืนยัน

ทันใดนั้น

ต้นวิลโลว์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยลำแสง ลำต้นหดลงอย่างรวดเร็ว กิ่งก้านของมันค่อยๆเปลี่ยนไป

หลังจากผ่านไปประมาณ 7 หรือ 8 วินาที ต้นวิลโลว์ที่สูงกว่า 10 เมตรกลายเป็นดอกไม้ที่มีใบปกคลุม

[ชื่อ : ดอกไม้กังวาน]

[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]

[ระดับ : ระดับ 6 (อัพเกรดตามระดับของดินแดน)]

[ความแข็งแกร่ง : ? ? ?]

[ร่างกาย : ? ? ?]

[ความว่องไว : ? ? ?]

[วิญญาณ : ? ? ?]

[สกิล : แปลงกาย , เสียงสื่อสาร (ดอกไม้ที่สามารถส่งเสียงออกมาได้ ยิ่งไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้พลังธรรมชาติมากขึ้น) , คลื่นเสียงสังหาร (คลื่นเสียงที่ปลดปล่อยออกมาจะทำลายล้างศัตรูโดยรอบทั้งหมด) ]

[หมายเหตุ : คุณจะได้ยินเสียงของมันก่อนที่จะเห็นตัวมัน มันเป็นพืชที่ใช้เสียงเป็นหลัก]

เป็นอยากที่ หลิน ยู คิดไว้

หลังจากต้นวิลโลว์กลายพันธุ์ มันได้กลายพันธุ์เป็นทหารประเภทใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ ต้นวิลโลว์นี้มันคล้ายกับต้นไม้แห่งปัญญาคือมันมีเงื่อนไขในการอัพเกรด

ต้นไม้แห่งปัญญานั้นไม่สามารถอัพเกรดได้ ส่วนต้นวิลโลว์นั้นมันจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับต้นไม้วิญญาณได้ห่างใช้ความสามารถกลายพันธุ์กับมัน

แต่นั่นไม่ใช่ข่าวร้าย

เนื่องจากระดับของมันจะเพิ่มขึ้นตามระดับของดินแดน ดังนั้นจึงไม่สามารถสะสมค่าประสบการณ์ได้ หากดินแดนอยู่ระดับไหน ระดับมันก็จะแค่นั้น บางทีมันจะอาจจะเป็นประโยชน์ในอนาคต

ด้วยสกิลของทหารตัวใหม่นี้แปลกประหลาดจริง มันดูคล้ายๆกับโทรศัพท์มือถือ?

ด้วยความอยากรู้ของ หลิน ยู เขาจึงลองใช้มันดู เขาสามารถส่งเสียงออกไปได้จริงๆ

มันใช้งานได้แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร เมื่อทหารเหล่านี้มีจำนวนมากขึ้น เขาก็นำมันมาไว้ใช้ในการสื่อสารได้

เช่นเดียวกับสกิล คลื่นเสียงสังหารนี้มันเป็นสกิลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

แต่ด้วยระดับของมันที่เป็นเพียงระดับ 6 เท่านั้น ทำให้ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ เขาจึงส่งมันกลับไปก่อน

จากนั้นเขาก็อัญเชิญต้นวิลโลว์ออกมาและมาการกลายพันธ์มันต่อไป

หวืด

เกิดเป็นแสงสว่างวาบ เป็นต้นฝ้ายที่สามารถผลิตฝ้ายได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

เหมือนกันกับตัวก่อนมันสืบทอดสกิลแปลงกายมา

หลิน ยู งงอย่างมาก ทำไมเขาถึงไม่ได้รับสกิลจุติวิญญาณหลังจากผ่านการกลายพันธุ์มา 2 ครั้ง เป็นได้ไหมสกิลนี้ไม่สามารถใช้กับทหารพืชตัวอื่นได้

เพื่อยืนยันความคิดนี้ เขาจึงลองอัญเชิญต้นวิลโลว์ออกมาและกลายพันธุ์มันหลายครั้ง

ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิม พวกมันทั้งได้รับการสืบทอดสกิลแปลงกาย มันทหารอีกหลายประเภทให้เขาได้เห็น

เห็นได้ชัดว่าสกิล จุติวิญญาณนั้นมีความเฉพาะในการเลือกทหารของมันมาก

มันจำกัดเฉพาะทหารพืชที่ความเกี่ยวข้องทางวิญญาณอย่างต้นวิลโลว์เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้

แน่นอนว่าทหารพืชเหล่านี้ แตกต่างออกไป

หลิน ยู ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล้มเลิกแผนการที่จะกลายพันธุ์ต่อไป อัญเชิญต้นวิลโลว์ออกมาอีกต้น จากนั้นก็ยังไปพืชเพราะปลูกหลายตัวที่อยู่ในดินแดน

มันมีเหตุผลหลังจากที่ผ่านไปนาน ทหารเหล่านี้น่าจะอัพเกรดเป็นระดับ 7 ได้แล้ว มันไม่มีเหตุผลที่พวกเขาทั้งหมดยังอยู่ระดับ 6 อยู่

มันทำให้เขางงอย่างมาก

เขาเปิดดูข้อมูลของเหล่าพืชเพราะปลูกดู

[ชื่อ : ฟักทองหรรษา]

[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา ]

[ระดับ : ระดับ 6 (Max)]

[ความแข็งแกร่ง : 50]

[ร่างกาย : 200]

[ความว่องไว : 250]

[วิญญาณ : 250]

[สกิล : การปกป้องของพืชพรรณ , ระเบิด , หว่านเมล็ด ]

[หมายเหตุ : ฟักทองที่แปลกประหลาด เมล็ดที่มันหว่านออกไปมันจะกลายเป็นฟักทองปกติ]

ระดับเต็มแล้ว?

หลิน ยู หยุดลงชั่วคราว

ไม่แปลกใจเลยที่เขาบอกว่าทำไมทหารเหล่านี้ไม่ถึงอัพเกรดซักที เพราะระดับของมาถึงจุดสูงสุดแล้ว

คงจะแปลกเกินไปหากมันก้าวไปสู่ระดับ 9 หรือ 10 สำหรับกองกำลังเพาะปลูกเหล่านี้ เขาคงไม่ต้องเอาพวกมันไปโจมตีหรอก

เขานึกภาพไม่ออกจริงๆ เขาไม่ได้ใส่ใจที่จะศึกษามันอีกต่อไป

หลังจากหาอะไรกินพลางดูช่องแชทไปอีกซักพัก เขาก็เข้าไปพักผ่อนในบ้านต้นไม้

....

....

ไม่กี่วันต่อมา

หลิน ยู ที่ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเดินทางไปมาระหว่างดินแดนกับเมืองหลัก วิ่งรวบรวมแก่นแท้ดินแดนระดับ 7

พื้นที่เขตแดนกลางไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

ในทุกๆ 3 ถึง 5 วัน มันจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น มันได้ดึงดูดให้ราชันจำนวนมากไปรวมตัวกันที่นั้น

ทุกครั้งที่มีการต่อสู้ เขาก็หาโอกาศในกับลอบโจมตีราชันระดับ 7 ของอีกฝ่ายเสมอ

เขาร่วมมือกับ จี้ หยุนซวง สนับสนุนชิง ถัง

แม้ว่าราชันจากโลกหยวนซา จะคอยระวังทหารพืชของเขามากขึ้น แต่พวกเขาก็สามารถฉวยโอกาศนี้รวบรวมแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 ได้ถึง 10 อันหลังจากที่ผ่านไปเพียงครึ่งเดือน

"เอาละ -"

"พอก่อนก็แล้วกัน..."

หลิน ยู ถอนหายใจออกมาเมื่อมองไปยังแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 ที่กระเป๋ามิติของเขา

หลังจากที่ได้ต่อสู้มาหลายวัน ในที่สุดเขาก็สามารถอำลาสนามรบได้ชั่วคราว ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางมาที่นี้อีกซักพัก

ต่อไปก็เหลือเพียงแค่เก็บค่าประสบการณ์ของ ชิง ถัง

ตราบใดที่เขาเก็บค่าประสบการณ์ของมันเต็ม มันก็สามารถอัพเกรดสู่ระดับ 8 ได้ทันที ความแข็งแกร่งของมันต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน ดูเหมือนความพยายามที่ผ่านมาของเขาจะไม่สูญเปล่าแล้ว

"การต่อสู้จบแล้ว ไปจากที่นี้กันเถอะ"

ในเวลานี้ เสียงของ จี้ หยุนซวง ก็ดังออกมาจากด้านข้าง

หลังจากที่ได้ร่วมทีมกันมา เธอและ หลิน ยู ก็ได้รู้จักกันมากขึ้น พวกเขาค่อยๆกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด

หลิน ยู เหลือบมองเธอ พยักหน้าและพูดว่า "งั้นพวกเรากลับไปที่เมืองหลักกันก่อน แก่นแท้ดินแดนของฉันครบแล้ว ฉันยังไม่จำเป็นต้องมาที่นี้อีกในตอนนี้"

"แล้วเมื่อไหร่นายจะกลับมาอีกครั้ง?" จี้ หยุนซวงถามด้วยความประหลาดใจ

"มันอาจจะยังไม่ใช่เร็วๆนี้ มันอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน"

"อืม นั้นมันก็นานอยู่นะ แล้วเรา...จะมีโอกาสร่วมทีมกันอีกไหม?" จี้ หยุนซวง ถามอย่างลังเล

"แน่นอน ต้องมีแน่นอน" หลิน ยู ยิ้มออกมา

เขาและ จี้ หยุนซวงประสานงานกันได้เป็นอย่างดี การที่พวกเขาสามารถสังหารราชันระดับ 7 ได้หลายต่อหลายครั้งต้องยกความดีความชอบเหล่าทูตสวรรค์ของเธอ

ไม่อย่างนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรวบรวมแก่นแท้ดินแดนได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้

จี้ หยุนซวง ดีใจทันทีที่ได้ยินคำตอบของเขา

จากนั้นพวกเขาก็ออกจากพื้นที่เขตแดนกลางพร้อมกับราชัน คนอื่นๆมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองหลัก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ หลิน ยู คิดไม่ถึงนั้น

ขณะที่เขาได้แยกตัวกับ จี้ หยุนซวง และเดินทางถึงแท่นเทเลพอร์ตแล้ว จู่ๆ ก็มีร่างๆหนึ่งปรากฏตัวขวางทางเขาเอาไว้

"องค์ชายสาม?"

หลิน ยู มองไปยังบุคคลตรงหน้าโดยไม่คาดคิด เขาคือ ฉินลี่ องค์ชายสามแห่งจักรวรรดิโถงสวรรค์

"ใช่แล้วนี้ฉันเอง ฉันมารอนานอยู่นี้นานแล้ว"

เขาตอบพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนในหน้า ฉิน ลี่ เดินเข้ามาหา หลิน ยู พร้อมกับคนรับใช้อีกหลายคน

ตอนนี้ หลิน ยู รู้สึกมึนงงและถามขึ้น "องค์ชายสามกำลังรอข้าอยู่งั้นเหรอ มีธุระอะไรสำคัญหรือไม่?"

การที่ ฉิน ลี่ ออกมารออยู่ตรงนี้ด้วยตัว มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน

อยากที่คิดไว้

ฉิน ลี่ มองไปยังรอบๆก่อนกระซิบที่ข้างหูเขา "มีภารกิจลับ หลังจากที่ทำสำเร็จ นายจะได้รับแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 10 อัน คะแนนเกียรติยศอีก 100000 แต้ม นายสนใจไหม"

"ท่านว่ายังไงนะ!?"

ดวงตาของหลิน ยู เบิกกว้าง เขาจ้องมองไปที่ ฉิน ลี่

อย่างไรก้ ฉิน ลี่ นั้นไม่ได้บอกข้อมูลอะไรเขาเพิ่มเติม

"ที่นี้มีคนเยอะเกินไป ดังนั้นไปที่ลานของฉันก่อน"

"ได้ ไปกันเลย!"

หลิน ยู พยักหน้าอย่างแข็งขัน

แก่นแท้ดินแดนระดับ 7 10 อันบวกกับคะแนนเกียรติยศ 100000 แต้ม รางวัลที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แม้แต่ตัวเขาก็ไม่สามารถต้านทานมันได้

ในไม่ช้า เขาก็ฉิน ลี่ ไปที่รถม้า ด้วยเสียงตะโกนของคนขับ รถม้าก็เคลื่อนตัวออกไป