ชีกั๋วกวงเห็นอาชีพของหลินอี้อย่างรวดเร็ว

นักเวทธรรมดาๆ คนหนึ่ง

เหมือนกับเขาเลย

ไม่ใช่อาชีพหายาก

ในทันใดนั้น เขาก็รู้สึกนับถือหลินอี้ขึ้นมา

ในฐานะนักเวทธรรมดา เขาย่อมรู้ดีว่าเสียเปรียบอาชีพหายากหรืออาชีพแปลกประหลาดอื่นๆ มากแค่ไหน

อาชีพพวกนั้นล้วนมีข้อได้เปรียบติดตัวมาแต่กำเนิด

หากมองไปทั่วดาวสีน้ำเงิน คนที่สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ 7 ขึ้นไปได้ ล้วนเป็นอาชีพหายากแทบทั้งสิ้น บางคนถึงขั้นเป็นอาชีพในตำนาน

ชีกั๋วกวงที่มีความสำเร็จในวันนี้ได้ ล้วนมาจากความพยายามและการต่อสู้ดิ้นรนของตัวเอง!

นับตั้งแต่กลายเป็นผู้ปลุกอาชีพมาจนถึงตอนนี้ พูดถึงโชคดีแล้ว เขาก็เคยเจอบ้าง

แต่ส่วนใหญ่แล้ว ยังคงเป็นความพยายาม

ตลอด 80 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ได้พยายามพัฒนาตัวเอง

"แค่ 30 วันสั้นๆ สามารถมีเลเวลถึง 42 ได้ คงต้องเจอโชคพิเศษอะไรสักอย่างแน่ๆ" มีคนพูดขึ้น

ตอนนี้ชีกั๋วกวงกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจหลินอี้

เขาพูดว่า "แม้จะมีโชคพิเศษ ก็ไม่ควรปฏิเสธความพยายามและความขยันของเขา!"

"แค่โชคพิเศษอย่างเดียว ไม่มีทางเลเวลถึงระดับนี้ได้แน่นอน!"

หลี่หยวนจิ้งก็พยักหน้าเห็นด้วย "เด็กหนุ่มคนนี้ไม่เลว ต้องทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าแน่ๆ!"

ในชั่วขณะนั้น ทั้งผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานการศึกษามณฑลตงเจียงในศูนย์จัดสอบ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงบางส่วนของสมาคมผู้ปลุกอาชีพที่นำโดยชีกั๋วกวง ต่างมองหลินอี้ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

อย่างน้อยพวกเขาก็ยอมรับว่า เมื่ออายุเท่ากับหลินอี้ พวกเขาไม่มีทางเลเวลถึงระดับนี้ได้

เขาขยันมากเกินไปแล้ว!

ถ้าหลินอี้รู้ว่าคนพวกนี้คิดไปเองแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไง

ฉันไม่ใช่ ฉันไม่มี ฉันแค่เป็นคนขี้เกียจตัวหนึ่งเท่านั้น!

หลี่หยวนจิ้งไม่ลืมว่าซุนเหลียงยังรออยู่ว่าจะจัดการกับกรณีพิเศษของหลินอี้อย่างไร

หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง หลี่หยวนจิ้งก็พูดขึ้น "ครั้งล่าสุดที่เจอผู้เข้าสอบที่เก่งขนาดนี้ ก็เมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อวันนี้เจออีกครั้ง ก็ให้เขาเป็นกรณีพิเศษแล้วกัน"

"เปิดระดับความยากที่เคยมีมาก่อนอีกครั้งเถอะ"

คนอื่นๆ ที่ได้ยินต่างตกใจ

"รองผู้อำนวยการหลี่ ระดับความยากนั้น เคยเกิดอุบัติเหตุมากมายมาก่อน!"

"สำหรับผู้เข้าสอบพวกนี้ มันยากเกินไป ไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาร่างกายและจิตใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณเคยพูดไว้เองเมื่อก่อนหรอกหรือ!"

หลี่หยวนจิ้งส่ายหน้า "ยุคสมัยต่างกันแล้ว สำหรับเขา ระดับฝันร้ายก็เป็นเรื่องง่ายเกินไป"

"ระดับความยากที่เรากำหนดไว้ ล้วนออกแบบมาสำหรับระดับหนึ่ง ตอนนี้มีคนระดับสองปรากฏตัว การทดสอบพวกนั้นก็ไม่มีความหมายมากนัก"

"แน่นอน เพื่อความยุติธรรม ให้แจ้งสนามสอบทั้ง 22 แห่งของเราทั่วเทียนไห่ เปิดระดับความยากนรกพร้อมกัน"

ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลี่หยวนจิ้งได้ยินแล้วต่างรู้สึกขนหัวลุก

พวกเขาย่อมรู้ดีว่าระดับความยากนรกนั้นเป็นอย่างไร

พูดง่ายๆ คือด่านสุดท้ายของการทดสอบภาคปฏิบัติจะเปลี่ยนจากดันเจี้ยนธรรมดา เป็นดันเจี้ยนพิเศษที่ถูกพลังแห่งห้วงลึกแทรกซึม

เหมือนกับการทดสอบพิเศษของแต่ละอาชีพ นอกจากความยากจะพุ่งสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้เด็กใหม่ป้ายแดงเหล่านี้ได้เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายแห่งห้วงลึกที่โหดเหี้ยมอีกด้วย

"รองผู้อำนวยการครับ ถ้าเปิดระดับความยากห้วงลึก คนที่ไม่มีฉายาห้วงลึกพิเศษก็จะไม่สามารถเลือกได้..."

หลี่หยวนจิ้งโบกมือ "งั้นก็ให้พวกเขาแสดงฉายาห้วงลึกของตัวเองสิ คนที่ไม่มีฉายาห้วงลึกก็ไม่สามารถเลือกระดับความยากนรกได้"

"อ้อ เพิ่มเงื่อนไขอีกข้อ ต้องมีป้ายทองเป็นอย่างน้อยถึงจะเลือกระดับความยากนรกได้"

"ถ้าเด็กหนุ่มอายุ 42 คนนั้นไม่เคยผ่านการทดสอบพิเศษมาก่อน ไม่มีฉายา ก็ให้เขาเลือกระดับฝันร้ายแทนแล้วกัน ไม่มีทางเลือกอื่น"

หลี่หยวนจิ้งตัดสินใจแล้ว

ทุกคนทำได้แค่ปฏิบัติตาม

ซุนเหลียงรับคำสั่งแล้วรีบออกไปทันที

วิ่งกลับไปที่ทางออกหมายเลข 1 อีกครั้ง ซุนเหลียงแจ้งเรื่องการเพิ่มระดับความยากนรกและกฎการเลือกใหม่ให้ทุกคนทราบ

"ทุกท่าน เนื่องจากมีการเพิ่มระดับความยากนรก ผู้เข้าสอบที่ลงทะเบียนและเลือกระดับความยากไปแล้ว จะมีโอกาสเลือกระดับความยากใหม่อีกครั้ง!"

"แต่ผมต้องเตือนทุกท่านว่า ระดับความยากนรกนั้นอันตรายมาก อาจถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้!"

"การเลือกระดับความยากนี้ จำเป็นต้องลงนามในสัญญายอมรับความเสี่ยง ชีวิตและความตายเป็นความรับผิดชอบของตัวเอง!"

"นอกจากนี้ การทดสอบด่านสุดท้ายของระดับความยากนี้ จำเป็นต้องเข้าไปในดันเจี้ยนพิเศษที่ถูกพลังแห่งห้วงลึกแทรกซึม จึงต้องมีฉายาแห่งห้วงลึกถึงจะเข้าได้ ผู้เข้าสอบที่ไม่มีฉายาจะไม่สามารถสมัครได้!"

"ตอนนี้ ผู้เข้าสอบที่ต้องการเปลี่ยนระดับความยาก กรุณายกมือขึ้น!"

ทางเข้าหมายเลข 1 มีผู้เข้าสอบเพียง 20 กว่าคน

การเปลี่ยนระดับความยากไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก มีเวลาเพียงพอ

ดังนั้นซุนเหลียงจึงทำตามกฎมาก่อนได้ก่อน ให้ผู้เข้าสอบที่ลงทะเบียนเสร็จแล้วเลือกระดับความยากใหม่ก่อน

ทันใดนั้น ซุนเหลียงก็เห็นมือสามคนยกขึ้น

หลานรั่วอี้สาวน้อยยกมือขวาขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ในเวลาเดียวกัน จ้าวไคและเพื่อนข้างๆ ที่เลเวลขึ้นเป็น 29 เหมือนกัน ก็ยกมือขึ้นด้วย

ซุนเหลียงไม่ได้แปลกใจมากนัก

สามคนนี้คือผู้เข้าสอบที่มีเลเวลสูงสุดสามอันดับแรก

อีกทั้งจ้าวไคและชายอีกคนหนึ่งล้วนเป็นอาชีพหายาก

ส่วนหลานรั่วอี้นั้นยิ่งเป็นอาชีพที่หาได้ยากยิ่ง

พวกเขามีความมั่นใจพอที่จะท้าทายระดับความยากนรก

"ทั้งสามท่าน กรุณาสวมใส่ฉายาแห่งห้วงลึกของท่าน หลังจากยืนยันแล้ว ผมจะปรับระดับความยากของท่านเป็นระดับนรก!"

ทันใดนั้น หลินอี้ก็เห็นตัวอักษรสีดำห้าตัวปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของทั้งสามคน รวมถึงหลานรั่วอี้

"ผู้ท้าทายแห่งห้วงลึก"!

ฉายาส่วนใหญ่ได้มาจากการทำภารกิจพิเศษสำเร็จ หรือผ่านดันเจี้ยนพิเศษ

โดยปกติแล้วจะถูกซ่อนไว้

จะแสดงออกมาก็ต่อเมื่อผู้ปลุกอาชีพเลือกที่จะสวมใส่เท่านั้น

อย่างเห็นได้ชัดว่า ฉายาผู้ท้าทายแห่งห้วงลึกนี้ไม่ได้สวยงามน่ามอง ดังนั้นหากไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากสวมใส่

แต่ในตอนนี้

การมีฉายานี้ถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมาก

นั่นหมายความว่าพวกเขาเคยผ่านการทดสอบพิเศษของอาชีพมาแล้ว และได้เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายแห่งห้วงลึกมาก่อน

เมื่อเทียบกับคนรุ่นเดียวกัน จุดเริ่มต้นของพวกเขาต่างกันโดยสิ้นเชิง

จ้าวไคยังคงรู้สึกติดใจหลินอี้อยู่บ้าง

แม้จะไม่ได้มีความแค้นอะไรมากมาย

แต่คำพูดก่อนหน้าของเขา รวมถึงเลเวล 42 ที่หลินอี้แสดงออกมา ก็ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ตัวเองดูน่าอายต่อหน้าเทพธิดาในดวงใจ ยิ่งทำให้เขาโมโห

ตอนนี้เขาจ้องมองหลินอี้

มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้หวังดี

เลเวลสูงแล้วยังไง

ถ้าไม่ผ่านการทดสอบอาชีพ ก็ยังเลือกระดับความยากนรกไม่ได้อยู่ดี!

ระดับความยากนั้นเชื่อมโยงโดยตรงกับคะแนนที่จะได้รับ

แม้แต่ระดับฝันร้ายของเธอจะได้คะแนนเต็ม ก็อาจจะสู้คะแนนสูงของระดับนรกไม่ได้!

ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หลินอี้

รวมถึงซุนเหลียงด้วย

จริงๆ แล้วหลินอี้งงมาตั้งแต่ซุนเหลียงบอกให้สวมใส่ฉายาแล้ว

เฮ้ย อึดอัดจัง!

ฉายานี่มันสวมใส่ยังไงนะ?

เขาไม่เคยสวมใส่ฉายามาก่อนเลย

"เอ่อ อาจารย์ครับ ผมอยากถามหน่อยว่า ฉายานี้สวมใส่ยังไงครับ?" หลินอี้ได้แต่ฝืนถามออกไป

จ้าวไคที่อยู่ข้างๆ รู้สึกดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ

ฮึ! แกล้งทำ! แกล้งทำต่อไปสิ!

แกไม่มีชัดๆ ไม่ใช่ไม่รู้วิธีสวมใส่สินะ!