“พวกเรา… แบ่งปันพรสวรรค์แห่งลอร์ดกันได้ด้วยเหรอ?”
ปากของหลิงเอ๋อร์อ้าออกเล็กน้อย
ปากของเธอเปิดกว้างยิ่งขึ้นเมื่อเธอเปิดรายละเอียดของพรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้ขึ้นมาดูและเห็นความสามารถของมัน
ความคิดแรกที่ปรากฏขึ้นในหัวของเธอทันทีก็คือ ช่างเป็นพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่ทรงพลังจริงๆ!
ความคิดที่สองก็คือ นี่คือเหตุผลว่าทำไมพี่ของฉันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้งั้นเหรอ?
“เธอเห็นพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่ถูกแบ่งปันไปแล้วใช่ไหม?”
โจวโจวถามเมื่อเขาได้เห็นสีหน้าของเธอ
“ค่ะๆ หนูเห็นแล้ว พี่ ช่างบังเอิญจริงๆ! พรสวรรค์แห่งลอร์ดอันนี้เป็นสิ่งที่ดินแดนของหนูต้องการที่สุดจริงๆ!”
หลิงเอ๋อร์กล่าวอย่างมีความสุข
เธออาจจะเด็ก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องการพัฒนาดินแดน
หลิงเอ๋อร์รู้ดีว่าแม้ว่าเธอจะมีข้อได้เปรียบอย่างมากในการเร่งการเพาะปลูกสมุนไพร แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดอ่อนในด้านความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของดินแดนของเธอเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของดินแดนของเธอนั้นถือว่าไม่เลวเลยในบรรดาลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหลายของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน เนื่องจากเธอได้ผู้ลี้ภัยมาจากที่อื่น ควบคู่ไปกับใบเปลี่ยนอาชีพทหารที่เธอได้รับมาจากโจวโจว
อย่างไรก็ตาม นี่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะปกป้องพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับตำนานของเธอได้
ลอร์ดที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยอาจสามารถทำลายดินแดนของเธอได้เลย
ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของดินแดนของเธอจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในอนาคตด้วยพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่โจวโจวแบ่งปันให้!
แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับพรสวรรค์ของลอร์ดที่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ระดับแนวหน้า แต่อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะปกป้องดินแดนของเธอได้ ตราบใดที่เธอไม่ได้ริเริ่มที่จะยั่วยุพวกเขา
ดังนั้นเธอจึงรู้สึกประหลาดใจมากๆ
“นี่อาจจะเทียบกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับตำนานของเธอไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วง พรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้จะแข็งแกร่งขึ้นแน่ๆ ในอนาคต”
โจวโจวยิ้มอย่างมีเลศนัย
หลิงเอ๋อร์กะพริบตา
เธอไม่เข้าใจความหมายของโจวโจวเลย
ทำไมพรสวรรค์แห่งลอร์ดถึงจะแข็งแกร่งขึ้นมาได้อีก?
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้ถามอะไรโจวโจวต่อเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีท่าทีที่จะอธิบายอะไรเพิ่ม
หลังจากนั้นโจวโจวและหลิงเอ๋อร์ก็กลับไปยังเมืองตะวันสาดแสง จากนั้นเขาก็ชวนให้หลิงเอ๋อร์มาไต่อันดับด้วยกัน
ในขณะที่เขากดจัดอันดับก็มีข้อความปรากฏขึ้นมา
[หมายเหตุสมรภูมิแห่งลอร์ด:]
[เนื่องจากในปัจจุบัน ระดับของดินแดนของลอร์ดทั่วไปยังต่ำมาก ดังนั้นท่านอาจจะไม่สามารถหาตราดินแดนระดับสูงได้]
[เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการบรรลุวัตถุประสงค์พื้นฐานของกิจกรรม การแลกเปลี่ยนสินค้าจากร้านค้าสมรภูมิระดับสูงขึ้น]
[ลอร์ดทุกคนที่อยู่ตั้งแต่อันดับบรอนซ์เขียวขึ้นไปไม่จำเป็นต้องใช้ตราดินแดนเพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้าในร้านค้าสมรภูมิ แต่สามาระใช้แต้มสมรภูมิเพื่อแลกเปลี่ยนแทนได้]
[แต้มสมรภูมิจะได้มาจากการขายตราดินแดนระดับใดก็ได้หรือการเอาชนะคู่ต่อสู้ในการท้าประลอง]
[ร้านค้าสมรภูมิของท่านได้รับการอัพเดต!]
โจวโจวอึ้ง จากนั้นเขาก็เข้าใจและพยักหน้าเล็กน้อย
นี่จะช่วยให้พวกเขาแลกเปลี่ยนสินค้าจากร้านค้าสมรภูมิได้ง่ายขึ้นจริงๆ
เขาเปิดร้านค้าสมรภูมิขึ้นมาดู
[1: ทหารพื้นฐานระดับเหล็กดำขั้นต้นที่สามารถกำหนดได้ 100 คน (คงเหลือซื้อได้: 10) – ราคา: 5 แต้มสมรภูมิ]
[2: ผู้เชี่ยวชาญสายอาชีพพื้นฐานระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้นที่สามารถกำหนดได้ 10 คน (คงเหลือซื้อได้: 10) – ราคา: 5 แต้มสมรภูมิ]
[3: ตราคืนชีพระดับบรอนซ์เขียว (เฉพาะสำหรับสมรภูมิแห่งลอร์ด) (คงเหลือซื้อได้: 10) – ราคา: 5 แต้มสมรภูมิ]
[4: ตราคืนชีพดินแดนระดับบรอนซ์เขียว (เฉพาะสำหรับสมรภูมิแห่งลอร์ด) (คงเหลือซื้อได้: 10) – ราคา: 15 แต้มสมรภูมิ]
[5: อันดับ +1 (ระดับบรอนซ์เขียว) (คงเหลือซื้อได้: 1) – ราคา: 25 แต้มสมรภูมิ]
[6: การ์ดรีเซ็ตประตูอัญเชิญ (คงเหลือซื้อได้: 10) – ราคา: 1 แต้มสมรภูมิ]
…
เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวโจวจึงได้แลกเปลี่ยนตราดินแดนระดับบรอนซ์เขียวที่เหลือ 2 อัน และตราดินแดนระดับเหล็กดำที่เหลือ 3 อันเป็นแต้มสมรภูมิทันที
ตราดินแดนระดับเหล็กดำ 1 อันสามารถแลกเป็นแต้มสมรภูมิได้ 1 แต้ม และตราดินแดนระดับบรอนซ์เขียว 1 อันสามารถแลกเป็นแต้มสมรภูมิได้ 5 แต้ม
หลังจากแลกเปลี่ยนพวกมันไปหมดแล้ว เขาก็มีแต้มสมรภูมิอยู่ทั้งหมด 13 แต้ม
จากนั้นเขาก็กดเริ่มการท้าประลอง
[กำลังจับคู่กับคู่ต่อสู้ของท่าน…]
[การจับคู่เสร็จสมบูรณ์!]
[เข้าสู่สมรภูมิ!]
อึดใจต่อมา ร่างของโจวโจวและหลิงเอ๋อก็พร่ามัวขึ้นก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาพบว่าตัวเองอยู่ในสมรภูมิโบราณเมื่อมองเห็นสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง
มันมีซากศพมากมายจากหลายเผ่าพันธุ์อยู่บนสมรภูมิแห่งนี้
พวกมันดูเหมือนจะตายมานานแล้วด้วย
แม้ว่าจะมีซากศพมากมายในสนามรบ แต่มันก็มีเพียงกลิ่นเน่าเปื่อยบางๆ เท่านั้น
ในเวลานี้ โจวโจวกำลังยืนอยู่บนกำแพงเมืองและมองออกไปไกลๆ
เขาเห็นปราสาทสีเลือดเกือบเหมือนกันสองหลังทางทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขา
อย่างไรก็ตาม อันหนึ่งก็มีขนาดใหญ่กว่า ในขณะที่อีกอันมีขนาดเล็กกว่า
ในเวลานั้นเองก็มีข้อความปรากฏขึ้นมา
[ท่านได้เข้าสู่สมรภูมิระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น!]
[คู่ต่อสู้ของท่านและท่านได้รับการสุ่มให้เข้าสู่สมรภูมิระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น—ที่ราบแห่งความตาย!]
[คู่ต่อสู้ของท่านคือ: 1. ลอร์ดแวมไพร์ – ลอร์ดแอนเดอร์สัน (อันดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น)! 2. ลอร์ดแวมไพร์ – ลอร์ดเทอเนอร์ (อันดับเหล็กดำขั้นกลาง)!]
[เงื่อนไขการเอาชนะศัตรู: สังหารกองกำลังของศัตรูทั้งหมดภายในเวลา 24 ชั่วโมง!]
[หากเกินเวลาที่กำหนด ทั้งสองฝ่ายจะได้รับผลการต่อสู้เป็นลบ อันดับ-1!]
[ท่านมีเวลา 10 นาทีในการจัดเตรียมกองกำลัง!]
[เวลาคงเหลือ: 9 นาที 59 วินาที]
[หมายเหตุพิเศษ 1: เนื่องจากท่านเลือกตั้งทีม ท่านจึงได้พบกับทีมที่มีจำนวนลอร์ดเท่ากับท่าน]
[หมายเหตุพิเศษ 2: ท่านจะได้รับแต้มสมรภูมิตามจำนวนลอร์ดฝ่ายศัตรูที่สามารถสังหารได้]
[หมายเหตุพิเศษ 3: ท่านและเพื่อนร่วมทีมสามารถสื่อสารทางโทรจิตกันได้ในสมรภูมิแห่งลอร์ดโดยไม่จำกัดระยะทาง]
ลอร์ดแวมไพร์งั้นเหรอ?
ศัตรูเก่าจริงๆ
โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเขาเห็นหมายเหตุพิเศษอันที่สอง
นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้รับแต้มสมรภูมิมากกว่าการประลองแบบเดี่ยวงั้นเหรอ?
งั้นเขาและหลิงเอ๋อร์ก็เป็นทีมที่เหมาะสมกันจริงๆ
ไม่ มันน่าจะมีอีกสักคน เพราะมันตั้งทีมได้สูงสุดถึง 3 คน
ในการต่อสู้แบบสามต่อสาม แต่ละคนจะได้รับแต้มสมรภูมิมากยิ่งขึ้นตราบใดที่พวกเขาชนะ
เขาคิดอยู่ชั่วขณะแต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครเข้าร่วมด้วย
ทันใดนั้นเอง…
[พี่ ได้ยินหนูไหม?]
เสียงที่ไม่สบายใจของหลิงเอ๋อร์ดังขึ้นในใจของเขา
[ได้ยินๆ]
โจวโจวตอบกลับในใจทันที
[ดีจังที่พี่อยู่ด้วย]
น้ำเสียงของหลิงเอ๋อร์ดูผ่อนคลายขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงของโจวโจว
โจวโจวมองไปรอบๆ
ในไม่ช้าเขาก็เห็นเมืองโอสถวิญญาณอยู่ไกลออกไปทางซ้ายมือ
[พี่ อีกฝ่ายคือลอร์ดแวมไพร์ พวกเราจะเอายังไงกันดี? พี่บอกหนูมาได้เลย]
เธอคิดไว้แล้วก่อนที่จะมา จุดประสงค์หลักของเธอในการท้าประลองนี้ก็คือการฟังคำสั่งของโจวโจวตลอดเวลาและไม่สร้างปัญหา
[ทิ้งทหารไว้เฝ้าเมืองสักหน่อย แล้วส่งกองทหารที่เหลือออกมา]
[หลังจากที่เริ่มศึก ให้กองทัพของเธอตามหลังกองทัพตะวันสาดแสงของพี่ไปและฆ่าศัตรูซะ]
โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและพูดออกมา
เนื่องจากเขาเลือกที่จะท้าประลองร่วมกันกับหลิงเอ๋อร์ เขาจึงไม่มีทางให้เธอออกหน้าเด็ดขาด เขาจะบอกให้เธอยืนอยู่ข้างหลังและไม่ต้องสร้างปัญหา จากนั้นเขาก็จะพาเธอไปสู่ชัยชนะเอง
[ได้ค่ะ!]
หลิงเอ๋อร์ตกลงในทันทีและเริ่มเตรียมกองทัพของเธอ
โจวโจวเองก็เริ่มเตรียมตัวด้วยเมื่อเห็นเช่นนี้
เขาเหลือทหาร 5,864 คนไว้ในดินแดนเพื่อคอยป้องกันเมือง จากนั้นเขาก็อัญเชิญทหารที่เหลือ 15,000 คน รวมทั้งไป่อี้ อู๋ซิน เนซาริโอ้ มาริส และกำลังรบระดับสูงทั้งหมดมา
จากนั้นคนเหล่านี้ก็เริ่มตั้งแนวป้องกันบนกำแพงเมือง
ในระหว่างนี้ โจวโจวก็เห็นค้างคาวโลหิตเป็นจำนวนมากที่บินออกมาจากดินแดนของศัตรู และบินวนอยู่เหนือเมืองตะวันสาดแสงและเมืองโอสถวิญญาณ
โจวโจวรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ร่างค้างคาวโลหิตเพื่อสอดแนวพวกเขา
“ฮึ่ม! ไสหัวไปให้พ้น!”
เขามองไปที่ค้างคาวโลหิตเหล่านี้ที่กำลังเฝ้าสังเกตพวกเขาอย่างไม่เกรงกรัวและแค่นเสียงออกมาในทันใด
อึดใจต่อมา แรงกดดันจากสายเลือดวิสเคานต์แวมไพร์ก็ปะทุออกมาจากร่างของเขาในทันทีและแผ่เข้าใส่เหล่าค้างคาวโลหิตในพริบตา
ความกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกมันทันทีเมื่อค้างคาวโลหิตเหล่านี้สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากสายเลือดนี้
พวกมันอยากที่จะหลบหนี
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การสะกดข่มของสายเลือดแวมไพร์ระดับสูง พวกมันจึงไม่อาจหลบหนีไปได้ด้วยซ้ำ พวกมันระเบิดออกเป็นหมอกเลือดขนาดใหญ่กลางอากาศทันที
ในเวลาเดียวกัน ในดินแดนของลอร์ดแอนเดอร์สันและลอร์ดเทอเนอร์
ในเวลานั้นเอง ลอร์ดแวมไพร์ทั้งสองคนที่กำลังใช้แวมไพร์ระดับต่ำที่พวกเขาสร้างขึ้นและใช้ร่างค้างคาวโลหิตเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของฝ่ายมนุษย์ฝั่งตรงกันข้าม ในเวลานั้น จู่ๆ แวมไพร์ระดับต่ำเหล่านี้ก็เผยความหวาดกลัวออกมาผ่านแววตาของพวกมัน
หลังจากนั้นร่างกายของพวกมันก็ระเบิดออกมาเป็นหมอกโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมกับเสียงดังปัง
ภาพฉากนี้ทำให้ลอร์ดแอนเดอร์สันและลอร์ดเทอเนอร์อึ้งไปในทันที
Kaimah - ทรานสเลท (กลุ่มลับอ่านล่วงหน้า)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved