ตอนที่ 298

บทที่ 298: สระหมื่นพิษที่มีชีวิต

“ สระหมื่นพิษ?” ซุยเฮ็งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยเสียงต่ำ “ ข้าจำได้ว่าสระหมื่นพิษน่าจะเป็นหนึ่งในรากเหง้าของตำหนักกาฬโรค?”

“ ถูกต้อง” หลันตาพูดพร้อมกับพยักหน้า “ ตามบันทึก สระหมื่นพิษก็เป็นหนึ่งในสองมรดกต้นกำเนิดที่นำมาจากดาวแม่โดยตำหนักกาฬโรคเมื่อ 120,000 ปีก่อน มันมีความลึกลับสูงมาก”

“ ด้วยเหตุนี้เอง ท่านเจ้าสำนักจึงได้ฝึกตนอยู่ในสระหมื่นพิษและทำความเข้าใจรูนเต๋ากับสิ่งต่างๆ ภายในนั้นเพื่อที่จะพยายามทะลวงไปสู่ขอบเขตปราชญ์”

“ ยิ่งไปกว่านั้น เราก็ยังมีเคล็ดวิชาเฉพาะตัวมากมายที่สามารถฝึกฝนได้ด้วยความช่วยเหลือของน้ำในสระหมื่นพิษเท่านั้น ตอนนี้สระหมื่นพิษมีพฤติกรรมแปลกๆ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถรับน้ำนั่นได้อีกต่อไป และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เคล็ดวิชาของพวกเราทั้งหมดก็จะพิการ”

“ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความต่อเนื่องของมรดกของเรา มันเร่งด่วนจริงๆ ข้าไม่มีทางเลือกและทำได้เพียงเข้ามารบกวนความสงบสุขของท่านประมุขเซียนเพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน”

“ ครั้งหนึ่ง ข้าเคยสัญญากับจูคังเซิงเอาไว้ว่าหากตำหนักกาฬโรคประสบปัญหาใดๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ข้าก็จะไปช่วยเขาเอง” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม “ ข้าไม่ใช่คนที่ชอบผิดสัญญา ดังนั้นข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง”

“ ขอบพระคุณท่านประมุขอมตะ ขอบพระคุณ!” หลันตาขอบคุณเขาอย่างตื่นเต้นและโค้งคำนับซ้ำๆ

“ ไปกันเถอะ” ซุยเฮ็งยืนขึ้น

….

ในช่วงหลายหมื่นปีที่ผ่านมา หลังจากการสู้รบหลายครั้ง ตำหนักกาฬโรคก็ได้เหินห่างจากบริเวณที่อารยธรรมตั้งอยู่

จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าตำหนักกาฬโรคจะยังคงเป็นหนึ่งในสามสำนักเซียนของดาวชงหยาง แต่มันก็ตั้งอยู่ในส่วนลึกของภูเขาในถิ่นทุรกันดารทางตอนใต้

มันมีต้นไม้นับไม่ถ้วนอยู่รอบๆ และมีการก่อตัวเป็นแถวแปลกๆ มันแทบจะไม่มีร่องรอยของอารยธรรมมนุษย์เลย

ถ้าไม่มีใครสักคนคอยชี้ทาง แม้แต่ปราชญ์ก็ยังหลงทางได้

พวกเขาสองคนเดินผ่านทางเดินแคบและชื้นไปอย่างราบรื่น จากนั้นทุกอย่างก็ชัดเจน ราวกับว่าพวกเขาได้มาถึงโลกใบใหม่แล้ว มีดอกไม้และพืชแปลกๆ อยู่ทุกหนทุกแห่ง และมันก็ยังมีต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่าน

กลางป่ามีตำหนักสูงตระหง่านและงดงาม

มันคือตำหนักกาฬโรค

ในอดีต มีศิษย์มากมายที่มาและไปจากตำหนักกาฬโรค

นี่เป็นเพราะตำหนักกาฬโรคนั้นเทียบเท่ากับสมบัติระดับสูงมาก การฝึกตนข้างๆ มันจะให้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่ว่างขนาดใหญ่รอบๆ ตำหนักจึงว่างเปล่า

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันก็ไม่มีใครอยู่ในรัศมีสิบกิโลเมตรใกล้กับตำหนักกาฬโรค พวกเขาทั้งหมดล้วนซ่อนตัวอยู่ห่างไกล

ในขณะนี้ ตำหนักกาฬโรคก็ได้ถูกห่อหุ้มไปด้วยหมอกหลากสีสันที่แผ่กระจายเป็นระยะทางเจ็ดถึงแปดกิโลเมตร

ยิ่งไปกว่านั้น หมอกนี้ก็ยังเป็นพิษอย่างเห็นได้ชัด

ต้นไม้ที่ปลูกไว้หน้าตำหนักต่างก็เหี่ยวเฉาจนตายไปหมดแล้ว

ทันทีที่หลันตาปรากฏตัวขึ้น ศิษบ์จำนวนมากของตำหนักกาฬโรคก็รีบเข้ามา มันมีทั้งชายและหญิง เทพลึกลับ, เซียนทองและเซียนอนันต์ทอง

“ ผู้อาวุโสหลันตา ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว หมอกในสระหมื่นพิษยิ่งแพร่กระจายหนักมากขึ้นไปอีกแล้ว”

“ ใช่แล้ว แม้แต่เซียนทองก็ยังไม่สามารถต้านทานหมอกของสระหมื่นพิษได้ในตอนนี้ ถ้าเทพลึกลับไท่อี้เผลอสูดหายใจเข้าไป พวกเขาก็จะเป็นลมในทันที”

“ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ท่านจากไป กระบี่กาฬโรคพิษก็ยังดูเหมือนจะถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่ง มันถูกปลดออกจากฝักและลอยอยู่ในห้องโถงของตำหนักกาฬโรค”

คนที่พูดล้วนเป็นเซียนอนันต์ทอง

หมอกที่ปกคลุมตำหนักกาฬโรคได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ก็มีแต่จะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ

ในขณะนี้ มีคนสังเกตเห็นซุยเฮ็งและอดไม่ได้ที่จะถามหลันตาว่า “ ผู้อาวุโสหลันตา นี่คือ..?”

จูคังเซิงไม่ได้ประกาศการมีอยู่ของซุยเฮ็ง เพราะแบบนี้เอง คนจากตำหนักกาฬโรคจึงไม่ทราบการมีอยู่ของซุยเฮ็ง

“ นี่คือผู้อาวุโสซุย แม้แต่เจ้สำนักก็ยังเคารพเขาในฐานะเซียนผู้สูงส่ง” หลันตาแนะนำซุยเฮ็งสั้นๆ ก่อนจะโค้งคำนับด้วยความเคารพ “ ท่านเซียนผู้สูงส่ง โปรดช่วยตำหนักกาฬโรคของเราด้วย”

ทุกคนที่อยู่ในนั้นตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้และมองไปที่ซุยเฮ็ง

แม้แต่เจ้าสำนักก็ยังนับถือเขาในฐานะเซียนผู้สูงส่ง?!

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัย?

“ ตามข้าไปดูก่อน” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและจ้องมองไปที่หมอกหลากสี เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “ หมอกนี้ไม่ธรรมดาเลย”

ภายใต้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขา แก่นแท้ของหมอกนี้ก็เกิดจากการผสมผสานของกฎต่างๆ

อย่างไรก็ตาม รูนเต๋าเหล่านี้ก็ไม่หนาแน่นนัก พวกมันเป็นเพียงออร่าอันเบาบางราวกับว่าพวกมันเป็นออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างอันยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ดี จริงๆ แล้วมันก็ง่ายมากที่จะแก้ปัญหาการแพร่กระจายของหมอก

เขาแค่ต้องค้นหาตัวการหลักและปิดผนึกมัน

อย่างไรก็ตาม ซุยเฮ็งก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ เขากำลังสนใจความจริงที่ว่ามันมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก พลังแห่งกฎที่มีจิตวิญญาณ นี่เป็นลักษณะเฉพาะที่ชัดเจนมากของผู้ฝึกตนขอบเขตรวมวิญญาณ

หากหมอกนี้แผ่กระจายออกมาจากสระหมื่นพิษ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสระหมื่นพิษมีแก่นแท้เทียบเท่ากับขอบเขตรวมวิญญาณหรอ?

นี่เป็นการพูดเกินจริงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ตามบันทึกของตำหนักกาฬโรค แม้แต่จุดสูงสุดของตำหนักกาฬโรค มันก็ยังไม่มีผู้สร้าง แบบนี้แล้วพวกเขาได้รับสมบัติที่เทียบเท่ากับขอบเขตรวมวิญญาณมาจากที่ใดกัน?

ซุยเฮ็งงงงวยและเดินตรงไปที่ตำหนักกาฬโรค

หลันตาเดินตามหลังมาอย่างไม่รีรอ

“ ผู้อาวุโสระวังตัวด้วย” มีคนรีบเตือนด้วยเป็นห่วง หลันตาไม่รู้ว่าพิษของหมอกได้ทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบประโยค หมอกหลากสีก็เริ่มสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ซุยเฮ็งเดินเข้าไปในหมอก หมอกรอบตัวเขาก็สลายไปในทันที

“ อะไรกัน? นี่มันวิธีการแบบไหนกัน!”

เหล่าศิษย์ต่างก็ตกใจมาก พวกเขาเคยพยายามสลายหมอกกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

ถึงอย่างนั้น เนื่องจากแก่นแท้ของหมอกนี้แข็งแกร่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงแค่มองดูเท่านั้น

“ ท่านเซียนผู้สูงส่งนั้นทรงพลังจริงๆ” หลันตาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา เธอเองก็เคยพยายามที่จะกระจายหมอก แต่มันก็ไม่มีประโยชน์

“ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ

สำหรับเขาแล้ว ตราบใดที่เขาระงับจิตวิญญาณของกฎเหล่านี้ลง เขาก็จะสามารถรวบรวมและกระจายกฎเหล่านี้ออกไปได้อย่างง่ายดาย

ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังต้องไปที่สระหมื่นพิษเพื่อดู

ทั้งสองคนมาถึงตำหนักกาฬโรคอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ก้าวผ่านประตูหน้า—

เคล้ง!

พร้อมกับเสียงกระบี่ หมอกพิษได้รวมตัวกันในทันทีและกลายเป็นแสงกระบี่สีเขียวที่ฟันลงมาจากท้องฟ้าอย่างกะทันหัน

“ มันคือกระบี่กาฬโรคพิษ!” หลันตาอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขารีบใช้กำลังพยายามหยุดมัน

“ ฮึ่ม…” แต่ในขณะนี้ ซุยเฮ็งก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

ในช่วงเวลาถัดมา แสงกระบี่สีเขียวก็พังทลายลง ณ จุดนั้น มันเปลี่ยนเป็นเศษแสงจำนวนนับไม่ถ้วนที่กระจัดกระจายและออร่าแห่งกาฬโรคอันไร้ที่สิ้นสุดก็สลายไป

จากนั้นกระบี่ยาวสามฟุตที่มีแสงสีเขียวก็ตกลงมาจากท้องฟ้า หลังจากสั่นเบาๆ สองครั้ง แสงก็หรี่ลง

“ มันถูกควบคุมโดยจิตวิญญาณในหมอกและขับไล่ทุกคนที่คิดจะกระจายหมอกออกไป” ซุยเฮ็งชำเลืองมองไปที่กระบี่กาฬโรคพิษและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ มันยังไม่เสียหาย แต่อาจใช้เวลาหลายพันปีในการฟื้นฟู”

“ ขอบพระคุณท่านเซียนผู้สูงส่ง” หลันตาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม

เธอกลัวจนตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเหตุใดกระบี่จึงโจมตีพวกเธออย่างกะทันหัน แต่สิ่งนี้ก็อธิบายได้ดีมาก

หากซุยเฮ็งลงมือจริง อย่าว่าแต่กระบี่เลย แม้แต่ทั้งตำหนักเขาก็ยังสามารถทำลายได้

ตอนนี้เขาทำให้กระบี่กาฬโรคพิษพิการเท่านั้น มันนับเป็นความเมตตาที่ยิ่งใหญ่แล้วจริงๆ

ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็มาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของตำหนักกาฬโรคซึ่งเป็นที่ตั้งของสระหมื่นพิษ

พวกเขาอยู่ในห้องโถงที่ว่างเปล่า ตรงกลางมีสระน้ำกว้าง 30 ฟุต น้ำข้างในเรืองแสงด้วยแสงหลากสีและหมอกก็โผล่ลอยออกมา

“ เรียนท่านเซียนผู้สูงส่ง นี่คือสระหมื่นพิษ” หลันตาชี้ไปที่สระน้ำ “ โดยปกติแล้ว สระน้ำก็จะเรืองแสงและไม่ได้ปล่อยหมอกพิษออกมา”

“ สิ่งนี้…” สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซุยเฮ็งแผ่กระจายออกไป เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสระหมื่นพิษ เขาขมวดคิ้วในทันที “ นี่คือสมบัติต้นกำเนิดของตำหนักกาฬโรคของเจ้าหรอ?”

“ ใช่แล้ว” หลันตาพยักหน้า เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ซุยเฮ็งจึงถามเรื่องนี้

“ ใช้ได้” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรอีก เขากลับเดินเข้าไปใกล้สระหมื่นพิษทีละก้าวและมองลงไปที่ด้านล่าง ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดว่า “ สระหมื่นพิษนี้ไม่ใช่วัตถุที่ไม่มีชีวิต”

“ อะไรนะ?!” หลันตาตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอพูดโดยไม่รู้ตัวว่า “ มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

สระหมื่นพิษซึ่งเป็นสมบัติต้นกำเนิดที่สืบทอดกันมานานนับไม่ถ้วนเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างงั้นหรอ?

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ถ้าไม่ใช่เพราะซุยเฮ็งเป็นคนพูดเอง เธอก็คงจะโต้กลับไปแล้ว

“ มันได้รับผลกระทบจากบางสิ่งบางอย่าง อิทธิพลนี้ทำให้มันฟื้นคืนชีวิตของมันขึ้นมาได้” ซุยเฮ็งจ้องมองไปที่น้ำในสระหมื่นพิษ และดวงตาของเขาก็ค่อยๆ อาบไปด้วยแสงสีทอง ราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นภาพลวงตาทั้งหมดได้

ในเวลาเดียวกัน จากมุมมองของเขา น้ำหลากสีสันของสระหมื่นพิษก็ใส และโลกที่กว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ก็สะท้อนอยู่ภายใน