ตอนที่ 360

บทที่ 360 ตัวอ่อนวิญญาณบรรลุความสมบูรณ์แบบ

ด้วยความหวาดกลัวในออร่าของซุยเฮ็ง สำนักเซียนทั้งหมดบนดาวราชันสุริยันจึงส่งหนังสือของพวกเขาไปอย่างเชื่อฟัง

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะรับยาปราชญ์จากอีกฝ่าย พวกเขาหวังเพียงว่า ซุยเฮ็งจะไม่โจมตีพวกเขา

ท้ายที่สุด ฉากการตายของจ้าวเต๋าก็ยังคงสดใหม่อยู่ในความทรงจำของพวกเขา

มันทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ซุยเฮ็งก็ย่อมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

เขาจะรับหนังสือมาเปล่าๆ ได้อย่างไร? นั่นจะไม่เท่ากับการเป็นหนี้บุญคุณหรอ?

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงยังคงมอบยาปราชญ์ให้กับทุกสำนัก

นี่ถือได้ว่าเป็นการทำธุรกรรม

พวกเขาไม่ได้เป็นหนี้อะไรซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากรวบรวมหนังสือต่างๆ มาแล้ว ซุยเฮ็งก็ไม่ได้ปล่อยให้คนเหล่านี้ออกไป เขาเรียกโจวฟานและจ้าวสำนักคนอื่นๆ ของสำนักเซียนต่างๆ มาแทน

เขาเตรียมที่จะเตือนพวกเขาเกี่ยวกับบางสิ่ง

โจวฟานยืนอยู่ด้านหน้าด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความเคารพ เจ้าสำนักคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ เขาต่างก็สวมเสื้อผ้าที่ให้เกียรติและไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

ซุยเฮ็งจ้องมองไปที่โจวฟานและคนอื่นๆ และเขาก็พูดด้วยเสียงเบาว่า “ นอกเหนือจากการซื้อหนังสือของพวกเจ้าแล้ว มันก็ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญมากที่ข้าอยากจะบอกพวกเจ้า”

โจวฟานพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ ท่านเซียนผู้สูงส่งโปรดชี้แนะ”

เจ้าสำนักคนอื่นๆ ต่างพูดตามอย่างรวดเร็ว ทัศนคติของพวกเขาดูต่ำต้อยมาก

ในอดีต ใครก็ตามที่เห็นพวกเขาในสภาพเช่นนี้จะต้องสงสัยว่าพวกเขากำลังประสาทหลอนอย่างแน่นอน

ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเขาก็คงกำลังฝันอยู่

โจวฟานเป็นเจ้าสำนักของตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ และเขาก็ยังเป็นผู้นำที่แท้จริงของดาวราชันสุริยัน ซึ่งมันก็เกือบจะเทียมได้กับผู้นำของอาณาจักรราชันสุริยันทั้งหมด

เจ้าสำนักคนอื่นๆ เองก็เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งและมีอำนาจมาก

ถึงอย่างนั้น ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดก็เป็นเหมือนผู้รับใช้ที่ต่ำต้อยที่คุกเข่าลงต่อหน้าซุยเฮ็งด้วยความเคารพ

“ ในครั้งนี้ ข้าเรียกพวกเจ้ามาเพื่อพูดเรื่องเดียวเท่านั้น” ซุยเฮ็งกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ มันเกี่ยวกับกฎใหม่ ข้าจะสร้างกฎที่สามารถรับประกันความปลอดภัยของคนส่วนใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือผู้สร้างที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ พวกเขาทั้งหมดจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎนี้และได้รับความปลอดภัยในระดับเดียวกัน”

“ ไม่ว่าใครก็ตามที่ละเมิดกฎนี้ พวกเขาก็จะต้องถูกลงโทษ มันจะไม่มีความแตกต่างกันไม่ว่าบุคคลนี้จะเป็นคนธรรมดาหรือผู้สร้าง”

“ ในอนาคตจะไม่ใช่แค่ดาวราชันสุริยันเท่านั้นที่จะเป็นแบบนี้ แม้แต่ดาวไท่ชางและดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะก็จะเป็นเช่นนี้ด้วยเช่นกัน”

“ แน่นอนว่าผู้ฝึกตนก็ยังแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปในท้ายที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงจะสามารถรับตำแหน่งที่ดีขึ้นได้ภายใต้กฎนี้และยังมีผลประโยชน์มากขึ้น”

“ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็จะยากในตอนเริ่มต้น เมื่อกฎถูกสร้างขึ้น มันก็จำเป็นต้องมีตัวอย่างที่ชัดเจน และตราบใดที่มีตัวอย่าง ผู้อื่นก็จะเชื่อในกฎใหม่นี้ได้ง่ายขึ้น”

“ ตอนนี้ข้าได้บอกพวกเจ้าทั้งหมดแล้ว ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถเป็นตัวอย่างในอนาคตและนำผู้คนในดาวราชันสุริยันไปสู่ยุคแห่งความปลอดภัยที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบได้”

หลังจากพูดแบบนี้ โจวฟานและคนอื่นๆ ก็ตกตะลึง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา

เกิดอะไรขึ้น?

กฎ?

ความปลอดภัย?

คนธรรมดาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยเหมือนกับผู้สร้าง?

นี่เป็นสิ่งที่จ้าวสวรรค์ต้องการอย่างงั้นหรอ?

นี่มันไม่ไร้สาระเกินไปหน่อยหรอ?

แน่นอนพวกเขาไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของพวกเขาออกมา หลังจากตกใจในตอนแรก พวกเขาก็รีบปรับสีหน้าและคำนับซุยเฮ็งด้วยความเคารพ

“ ท่านเซียนผู้สูงส่ง ท่านยินดีที่จะสร้างกฎระเบียบที่ปลอดภัยและสมบูรณ์ให้กับโลกนับไม่ถ้วน บุญคุณของท่านนั้นไร้ขอบเขต!”

“ นี่เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่มาก สิ่งที่ท่านกำลังจะทำนั้นจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การถือกำเนิดขึ้นของโลกนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน”

“ ท่านเซียนผู้สูงส่ง นี่คือพรอันประเสริฐสำหรับสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนอย่างแท้จริง!”

โจวฟานและคนอื่นๆ รีบกล่าวคำสรรเสริญชมเชย

“ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนั้นก็ได้” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ สายตาของเขากวาดไปที่คนเหล่านี้และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ จะมีการจัดตั้งกฎระเบียบใหม่ในไม่ช้า ในเวลานั้น ข้าก็จะรอดูการแสดงของพวกเจ้า”

ทันทีที่พวกเขาได้ยินเช่นนี้ โจวฟานและคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จากรูปการณ์แล้ว เซียนผู้สูงส่งคนนี้ก็ไม่น่าจะใช่คนกระหายเลือด

ตราบใดที่พวกเขาทุกคนยอมให้ความร่วมมือกับกฎระเบียบใหม่นี้ พวกเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ

อย่างไรก็ตาม หัวใจของพวกเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย

ซุยเฮ็งนั้นนับเป็นตัวตนที่โดดเด่นอย่างมากในหมู่จ้าวสวรรค์ แบบนี้แล้วทำไมเขาถึงได้สนใจชีวิตของคนธรรมดากัน?

ในสายตาของโจวฟานและคนอื่นๆ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ใต้ขอบเขตปราชญ์ก็เป็นเพียงกลุ่มมดเท่านั้น

มันไม่คุ้มที่จะให้ความสนใจเลย

แน่นอนว่าด้วยพลังของซุยเฮ็ง พวกเขาจึงไม่กล้าแสดงความเห็นเช่นนี้ออกมา พวกเขาปฏิบัติตามเจตจำนงของซุยเฮ็งด้วยความเคารพเท่านั้น

...

ขณะที่กำลังเตรียมการบนดาวสุริยันสีม่วง ฮุ่ยฉีก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่นหลังของเขา

“ กรรร!”

ฮั่วเอ๋อปรากฏตัวออกมาจากแผ่นหลังเขาและส่ายหัว “ ฮุ่ยฉี ท่านประมุขเซียนต้องการให้เจ้านำหลิวหลี่เต๋าไปที่ดาวราชันสุริยันเพื่อจัดระเบียบที่นั่น และราชสำนักต้าโจวจะมอบตำแหน่งราชวงศ์ให้กับเขา”

“ นี่เป็นมังกรเพลิงตัวที่สองที่ซุยเฮ็งสร้างขึ้น ในตอนแรก เขาสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าฮุ่ยฉีจะอยู่รอดปลอดภัยในโลกสูญสวรรค์

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฮั่วเอ๋อไม่มีความทะเยอทะยานใดๆ โดยพื้นฐานแล้ว มันจึงเอาแต่นอนรอคำสั่งเท่านั้น ถึงอย่างนั้น ขอบเขตการฝึกตนของมันก็ได้มาถึงขอบเขตรวมวิญญาณขั้นกลางแล้ว เรียกได้ว่ามันทรงพลังมาก

อย่างไรก็ตาม ความฉลาดของมันก็ยังดูเหมือนจะไม่ได้สูงมากนัก อาจเป็นเพราะมันขี้เกียจเกินไปที่จะใช้สมอง มันถึงยังชอบหอนเหมือนกับตอนที่มันแรกเกิด

“ นายท่านปราบดาวราชันสุริยันลงได้แล้วหรอ?” ฮุ่ยฉีอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เขาถอนหายใจและพูดว่า “ ตามที่คาดไว้ นายท่านทรงพลังมากจริงๆ!”

จากมุมมองของเขา มันก็เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานหลังจากที่ซุยเฮ็งปราบปราดาวราชันสุริยันเสร็จ

นอกจากนี้ ดาวราชันสุริยันก็ยังเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรราชันสุริยันทั้งหมด มันมีกองกำลังมากมายและยังมีสำนักเซียนชั้นนำอีกมากมาย

ไม่ต้องพูดถึงการปราบพวกเขาเลย แม้แต่การเดินผ่านกองกำลังเหล่านี้ก็ยังต้องใช้เวลามาก

“ พลังของท่านประมุขเซียนนั้นยิ่งใหญ่อยู่แล้วโดยธรรมชาติ” ฮั่วเอ๋อหัวเราะเบาๆ “ กรรร! ไปหาหลิวหลี่เต๋ากันเถอะ”

….

ซุยเฮ็งมีแผนที่ชัดเจนมากในการปกครองอาณาจักรราชันสุริยัน

ดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะได้รับผลกระทบจากศรัทธาของสำนักต่างๆ แม้ว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวาได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางบังคับให้ผู้คนที่บูชาเทพธิดาดอกบัวสีขาวกลับสู่เส้นทางปกติได้เลยในทันที

พวกเขามีแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง แกนกลางของต้าโจวที่อยู่บนดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะจึงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงดาวดวงนี้ไปทีละน้อยๆ

สำนักเซียนทั้งหมดบนดาวราชันสุริยันได้ถูกกำราบลงไปแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ซุยเฮ็งเรียกหลิวหลี่เต๋ากับฮุ่ยฉีมาในเวลาเดียวกัน ฮั่วเอ๋อจะปกป้องพวกเขาเพื่อสร้างประเทศที่ปลอดภัยขึ้นที่นั่น

สำหรับดาวไท่ชาง พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ตราบใดที่ดาวราชันสุริยันและดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะได้ปฏิบัติตามกฎใหม่แล้ว ดาวไท่ชางก็จะปฏิบัติตามเอง

แน่นอน หากดาวไท่ชางไม่ฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ ซุยเฮ็งก็จะไปเกลี้ยกล่อมพวกเขาเองเป็นการส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม สำหรับเขาในปัจจุบันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการอ่านหนังสือที่เขาได้รับมาจากดาวราชันสุริยันและทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความลับของสวรรค์ราชันสุริยัน

ซุยเฮ็งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการฝึกฝนตัวอ่อนวิญญาณของเขานั้นกำลังจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เขาประเมินว่าหลังจากอ่านหนังสือจากดาวราชันสุริยันเสร็จแล้ว เขาก็น่าจะสามารถไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตรวมวิญญาณได้

ในเวลานั้น ตัวอ่อนวิญญาณของเขาก็จะสมบูรณ์ และเขาก็จะเหลือสิ่งที่ต้องทำเพียงการเปลี่ยนแปลงโลกเท่านั้น

ในฐานะที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์ราชันสุริยัน อาณาจักรราชันสุริยันจึงมีอิทธิพลพิเศษต่อท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของโลกมากมาย

ตราบเท่าที่เขาสามารถทำการเปลี่ยนแปลงอาณาจักรราชันสุริยันได้สำเร็จ เขาก็จะได้รับผลตอบรับอันมหาศาลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อย่างแน่นอน และด้วยวิธีนี้ ขอบเขตก่อเกิดวิญญาณก็จะอยู่ไม่ไกลอีกต่อไป

อาณาจักรสวรรค์ปกครองโลกทั้งหมด มันเป็นจุดสูงสุดของโลกนับไม่ถ้วนและมันก็ลึกลับและไม่มีที่สิ้นสุด

มันมีสวรรค์ชั้นสูง 3 แห่ง สวรรค์ชั้นกลาง 9 แห่ง และสวรรค์ชั้นล่างอีก 24 แห่งภายใต้อาณาจักรสวรรค์ทั้งหมด

สวรรค์ราชันสุริยันเป็นหนึ่งในเก้าสวรรค์ชั้นกลาง ว่ากันว่า ณ จุดสูงสุดของมัน การดำรงอยู่ในขอบเขตที่เก้าก็เคยปรากฏขึ้นครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันดำรงอยู่มาเป็นเวลานาน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยืนยันตัวตนของการมีอยู่ของขอบเขตที่เก้านี้

ระยะเวลาที่ไกลที่สุดที่หนังสือเหล่านี้สามารถย้อนกลับไปได้คือเมื่อกว่า 400,000 ปีก่อนเท่านั้น นอกนั้นก็มีแต่เรื่องเล่าปรัมปรา

อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้น ซุยเฮ็งก็ยังได้เรียนรู้ข้อมูลมากมาย

เขาได้ทำความเข้าใจอย่างคร่าวๆ เกี่ยวกับสวรรค์ราชันสุริยันแล้ว

หากเขาต้องการ เขาก็สามารถสร้างสวรรค์ราชันสุริยันขึ้นมาได้โดยตรงผ่านพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขา

นอกจากนี้ เขาก็ยังได้เรียนรู้ความลับที่สำคัญบางอย่าง

ตัวอย่างเช่น เหตุใดจ้าวสวรรค์จื่อหยางจึงนำจ้าวเต๋าจำนวนมากไปเพื่อโจมตีสวรรค์นักบุญปีศาจ เหตุใดเขาจึงต้องสำรวจซากปรักหักพังนั้น รวมถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงของตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์

ความลับเหล่านี้ทำให้การฝึกตนของตัวอ่อนวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอีก

ในที่สุดสิบปีต่อมา

ทุกคนบนดาวราชันสุริยันรู้สึกได้ถึงบางอย่างและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าโดยไม่รู้ตัว

แสงและเงาของตำหนักสีม่วงทองได้ปรากฏขึ้น มันเปล่งรัศมีรูนเต๋าที่ลึกซึ้งอย่างหาที่เปรียบมิได้ออกมา ราวกับว่ามันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งและสะท้อนให้เห็นในสายตาของทุกสิ่งมีชีวิตบนดาวราชันุสริยัน

ในขณะนี้ ดาวราชันุสริยันก็ได้สร้างกฎระเบียบบางอย่างขึ้นมาภายใต้ความพยายามของหลิวหลี่เต๋า, ฮุ่ยฉีและฮั่วเอ๋อแล้ว ดังนัน้แม้แต่ฉากที่ทำให้แผ่นดินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้จึงไม่ได้ทำให้เกิดความปั่นป่วนมากนัก

อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างต่างก็ยังตกใจกันอย่างมาก

ในการรับรู้ของพวกเขา ตำหนักสีม่วงทองที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะเป็นการแสดงที่มาของกฎทั้งหมดและเต๋าอันยิ่งใหญ่ ราวกับว่าอาณาจักรสวรรค์ได้ปรากฎลงมา

ในขณะนี้ ตัวอ่อนวิญญาญของซุยเฮ็งก็ได้สมบูรณ์แบบแล้ว เขามาถึงขีดจำกัดของขอบเขตรวมวิญญาณแล้ว

ตราบเท่าที่เขาสะสมพลังได้มากเพียงพอ เขาก็จะสามารถทะลวงผ่านไปได้

ขอบเขตก่อเกิดวิญญาณ!