ตอนที่ 77 - บทที่ 77 ทีมของจ้าวเจียเป่า

บทที่ 77 ทีมของจ้าวเจียเป่า

บนดินแดนรกร้างไร้ขอบเขต เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังขึ้นเป็นครั้งคราว ทำให้กลุ่มคนที่กำลังเดินทางอยู่รู้สึกกังวลเล็กน้อย

"ไอ้พวกสัตว์อสูรบัดซบพวกนี้!" มีคนสาปแช่งออกมา

เมื่อสิบปีก่อนพวกเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แม้ว่าพวกเขาจะต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่พวกเขาก็สามารถนั่งดื่มเบียร์และกินอะไรดีๆ หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน

แต่ตอนนี้แม้แต่การมีชีวิตรอดก็เป็นเรื่องหรูหรา เจ้าไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อนระหว่างวันพรุ่งนี้หรืออุบัติเหตุ

“ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานเราก็จะถึงแล้ว” เฉินกัวตงพูดด้วยรอยยิ้ม "เมื่อเราไปถึงซ่งเจียเป่า เราสามารถแลกเปลี่ยนอาหารและเกลือและแลกเงินได้ จากนั้นทุกคนสามารถซื้อของที่ตัวเองต้องการได้ ย้ำว่าทุกคนนะ"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของทุกคนก็แสดงความสุขขึ้นมาทันที

ส่วนหลายคนของกู่เจียไจ้ก็มองหน้ากัน เพวกเขาก็มีส่วนได้รับด้วยงั้นหรือ?

“พี่ใหญ่เฉิน…”

กู่เจียงไห่ลังเลที่จะพูด

เฉินกัวตงโบกมือ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก นอกจากนี้เขายังพูดถึงเรื่องนี้กับเฉินฟานเมื่อคืนนี้ด้วย และเขาก็ไม่ได้คัดค้าน ดังนั้นกู่เจียงไห่จึงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆได

ผลประโยชน์นี้คือสิ่งที่สมาชิกในทีมล่าทุกคนสมควรได้รับ

เฉินฟานเดินตามหลัง และเมื่อเขาได้ยินข้อความนี้ เขาก็ถามกู่เซ่ออย่างสงสัย: "ที่ซ่งเจียเป่าไม่ใช่แค่เงินทองหรืออาหารเท่านั้นหรือที่แลกเปลี่ยนได้ เรายังสามารถใช้เงินด้วยงั้นหรือ?"

กู่เซ่อตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็พูดแปลก ๆ เล็กน้อย "เจ้าไม่เคยไปซ่งเจียเป่าสินะ หากเจ้าต้องการซื้อขายที่นั่นท่านสามารถซื้อขายด้วยทองคำ ของมีค่าและอาหารการก็ และสกุลเงินก็สามารถแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสกุลเงินก่อนการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถนำมาใช้ได้

สกุลเงินปัจจุบันใช้เงินหยวนเป็นหน่วย แบ่งออกเป็นหนึ่งหยวน สองหยวน ห้าหยวน สิบหยวน ยี่สิบหยวน ห้าสิบหยวน และหนึ่งร้อยหยวน หนึ่งพันหยวน หนึ่งหมื่นหยวน และสูงสุดคือหนึ่งหมื่นหยวน"

เฉินฟานตกตะลึง

แม้ว่าจะฟังดูเหมือนคุ้นเคยแต่มันก็เป็นสกุลเงินใหม่ เพราะหน่วยก่อนหน้านี้คือโซล

"เพื่อชื่นชมการกระทำของผู้อเวคในช่วงสิบปีที่ผ่านมา สกุลเงินที่แตกต่างกันจะมีรูปผู้อเวคที่แตกต่างกันพิมพ์ที่ด้านหลัง ตัวอย่างเช่น มูลค่าหน้าที่ใหญ่ที่สุดคือ 10,000 หยวน นั้นคือรูปของจักรพรรดิเป็นต้น

หากมีใครที่แข็งแกร่งกว่าเล่ยฮวง บางทีอาจมีธนบัตรมูลค่า 100,000 หยวน พร้อมพิมพ์รูปเหมือนของเขาที่ด้านหลังก็เป็นได้ "

"เข้าใจแล้ว"

เฉินฟานพยักหน้า การออกแบบเช่นนี้ค่อนข้างดีจริงๆ แล้วถามว่า "แล้วกำลังซื้อของหนึ่งหยวนนั้นเท่าไหร่"

“เจ้าสามารถซื้อข้าวหนึ่งปอนด์ในราคาหนึ่งหยวน”

กู่เซ่อยืดนิ้วออก

เฉินฟานพยักหน้า เนื้อสัตว์ที่พบมากที่สุดราคาสามหยวนต่อส่อ

“แล้วการใช้ทองคำแลกเปลี่ยนล่ะ?”

"แลกได้ไม่มากเท่าไหร่"

กู่เซ่อส่ายหัว “โดยทั่วไปแล้ว แหวนทองคำหนึ่งวงสามารถแลกเปลี่ยนข้าวได้สองสามปอนด์เท่านั้น สร้อยข้อมือทองคำ และสร้อยคอทองคำสามารถแลกเปลี่ยนได้สิบถึงยี่สิบปอนด์โดยประมาณ”

"อืม ถูกจริงๆ"

เฉินฟานคิดว่ามันราคาถูกจริงๆ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้จริงๆ

ก็เหมือนกับในทะเลทราย ขวดน้ำสามารถขายได้ในราคาที่สูงมาก ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน

“อ้อ เมื่อเจ้ามีเงิน เจ้าต้องการจะซื้ออะไรล่ะ?” กู่เซ่อถามอย่างสงสัย

“ไม่รู้สิ ต้องหาดูก่อน” เฉินฟานยักไหล่

กู่เซ่อแค้นเสียงออกทางจมูก

หลังจากเดินไปได้กว่าครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็เงียบลงและทำเพียงเดินไปข้างหน้าต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น

ผ่านไปอีกชั่วโมงหนึ่ง

“ทุกคน พยายามกันหน่อยนะ ยังมีเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะไปถึงที่นั่นแล้ว”

เฉินกัวตงหันกลับมาและให้กำลังใจทุกคน

แต่ในขณะนั้นก็มีการเคลื่อนไหวดังขึ้นจากด้านหลัง

เฉินฟานหันหน้าไปมองโดยไม่รู้ตัว และต้องผงะไปชั่วขณะหนึ่ง

มันคือ รถ!

เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังขับมาทางนี้ มันมาไม่เร็วแต่ก็ไม่ได้ช้า คาดว่าน่าจะถึงพวกเขาภายในหนึ่งหรือสองนาที

“มันมาจากจ้าวเจียเป่า”

หลิวหยงจำมันได้ทันที

“คนพวกนี้รวยมาก ทุกครั้งที่ไปซงเจียเป่า พวกเขาจะขับรถไป”

“ใช่แล้ว พวกเขาต้องเผาน้ำมันเบนซินจำนวนมากที่มีค่าข้าวหลายปอน์ เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเบนซินหนึ่งลิตร”

น้ำเสียงของเกาหยางเต็มไปด้วยความอิจฉาอย่างมาก

การเดินทางไปกลับเช่นนี้ประมาณ 30 กิโล พวกเขาต้องเดินครึ่งวันจนหมดแรง แถมยังต้องกังวลว่าจะเจอสัตว์อสูรในระหว่างทาง ถึงแม้จะไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ตาม

แต่ผู้คนจากจ้าวเจียเป่ากลับไปถึงภายในสิบนาที และกลับมาในสิบนาทีหลังจากแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆเรียบร้อยแล้ว

“ช่างพวกเขาเถอะน่า”

เฉินกัวตงกล่าวขึ้น

แม้ว่าผู้คนของเจ้าเจียเป่ามักจะดูถูกพวกเขาและคนอื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วแมว่าพวกเขาจะถูกดูถูก แต่อพวกเขาไม่เคยแสดงความเกลียดชังใดๆออกมาเลย

ด้วยระดับความแข็งแกร่งที่แตกต่าง พวกเขาจะกล้าโกธรได้อย่าง จะเป็นอย่างไรหากพวกนั้นเห็นเหยื่อมากมายของพวกเขาและต้องการปล้นมันไป? เมื่อถึงเวลานั้นแม้แต่การป้องกันยังยากที่จะทำด้วยซ้ำ

ทุกคนวางเหยื่อลงและยืนเคียงข้างกัน มองดูรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เข้ามาใกล้อย่างช้าๆ

มีคนอยู่หลังรถประมาณยี่สิบคน และพวกเขาทั้งหมดมองดูสถานที่นี้ด้วยสีหน้าประหลาดใจไม่มากก็น้อย

“หมู่บ้านไหนกันล่ะเนี่ย? พวกเขามีเหยื่อมากมายจริงๆ!”

“ดูไม่ออกหรอก เพราะพวกเขาปิดหน้าไว้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาจากหมู่บ้านหลี่หรือมาจากหมู่บ้านเฉินละมั่ง?”

“มีคนไม่มากนักในหมู่บ้านเฉินใช่ไหม? ถ้างั้นมันดูเหมือนพวกเขามาจากหมู่บ้านหลี่”

“คนพวกนี้โชคดีจริงๆที่ได้เหยื่อมากขนาดนี้?”

คนในรถเริ่มคุยกัน

ที่มุมหนึ่งของรถบรรทุก เว่ยเทียนกงและคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากัน

ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันเป็นของหมู่บ้านหลี่จริงๆ แต่ยิ่งมองดูก็ยิ่งรู้สึกว่าคนเหล่านี้ดูคุ้นเคย โดยเฉพาะสายตาของคนที่อยู่ข้างหน้า

นั่นก็คือ เฉินกัวตง!

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขามาจากหมู่บ้านเฉิน?

พวกเขาพาคนหนุ่มสาวจากหมู่บ้านมาด้วยหรือเปล่า? ถึงได้มีคนเยอะขนาดนี้

น่าจะใช้ เพราะถ้ารวมพวกหวังปิงและจ้าวเฟิงด้วย ก็น่าจะมีคนประมาณนี้

ผู้เป็นน้องเว่ยเทียนหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมๆ กัน ดูเหมือนว่าหลังจากที่พวกเขาจากมา ชีวิตของคนในหมู่บ้านยังคงดำเนินไปด้วยดี และพวกเขาก็สะสมเหยื่อไว้มากมายเพื่อแลกกับสิ่งต่างๆ

พวกเขากลัวว่าพวกเขาจะไปกระตุ้นความในใจจากคนอื่นๆ ดังนั้นพวกเขาจึงแต่งตัวลักษณะนี้งั้นเหรอ?

ดีจริงๆ

ในทางตรงกันข้าม ชีวิตของพวกเขาในจ้าวเจียเป่านั้นยังห่างไกลจากคำว่าดีที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก

แต่ในขณะนี้ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเพื่อดึงพวกเขาออกจากห้วงความคิด

“พวกเจ้าอยากปล้นจากพวกเขาไหม? เหยื่อของหมู่บ้านหลี่อาจจะได้รับจากปล้นหมู่บ้านอื่นก็ได้ มันจะไม่เป็นไรถ้าเราปล้นพวกเขาอีกครั้ง เราก็แค่โจรปล้นโจร”

“ใช่ พวกเขามีแค่ 13 หรือ 14 คนเท่านั้น แต่พวกเรามีมากกว่า 20 คน กลัวอะไรล่ะ?”

“พี่จ้าวซาน ท่านคิดว่าอย่างไร?”

ทุกคนมองไปที่ชายวัยกลางคนที่มีผิวคล้ำและมีดวงตาเรียวคู่หนึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า

จ้าวซานเผยปากขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า "อืม..ไม่ต้องหรอก"

"ไม่...ข้าคิดว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่"

ทันทีที่จ้าวซานพูดจบ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างเร่งรีบ

สายตาของคนมากกว่าหนึ่งโหลมองไปที่เขาทันที

เว่ยเทียนหยวนก้มหัวลงและพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า "ถ้าพวกเขาไม่ได้มาหมู่บ้านหลี่ล่ะ พวกเราจะไม่ปล้นคนผิดเหรอ?"

“ใช่แล้ว อาจจะเป็นคนจากหมู่บ้านอื่นก็เป็นได้?”

คนที่เหลือก็หัวเราะ

คนที่เสนอความคิดนี้ออกมาขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ "แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มาจากหมู่บ้านหลี่แล้วยังไงล่ะ หากพวกเขากล้าต่อต้านข้าก็จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดที่นี่"

“ถูกต้องแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากใครก็ตาม?”

“ถ้าพวกมันกล้าต่อต้านพวกเรา พวกมันคงเบื่อหน่ายชีวิตแล้ว!”

คนอื่นๆ มองไปที่จ้าวซานและเตรียมพร้อมที่จะลงมือ ขอแค่เขาพูดออกมา

ในวันธรรมดา ที่พวกเขาไม่แย่งล่าเหยื่อจากหมู่บ้านอื่น ไม่ใช่เพราะพวกเขาใจดี แต่เพราะพวกเขาดูถูกเหยื่ออันน้อยนิดของพวกมัน

สถานการณ์ตอนนี้มันแตกต่างออกไป ด้วยเหยื่อจำนวนมากเช่นนี้มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาถูกล่อลวงแล้ว ยังไงซะมันก็เป็นเหมือนการเก็บของระหว่างทางเท่านั้น

หัวใจของเว่ยเทียนกงและคนอื่น ๆ ไหลขึ้นมาบนลำคอทันที เราควรทำอย่างไรดี?

หากจ้าวซานมีความขัดแย้งกับกัวตงและคนอื่นๆ ในเวลานั้นเขาควรช่วยใครดี?