ตอนที่ 272 นั้นมันอะไรกัน

คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของชิ้นส่วนเทวะได้ คือช่วยให้ราชันสามารถให้สกิลของทหารของเขาได้

หลิน ยู ไม่สามารถใช้สกิลโจมตีที่ทรงพลังจนสามารถสังเกตเห็นได้ แต่เขายังสามารถใช้สกิลเสริมพลังความแข็งแกร่งได้

สกิลทั้ง 4 ถูกใช้งานพร้อมกัน

มันคือการเพิ่มค่าสถานะทั้ง 4 ของโคลเวอร์สี่แฉก

ทันใดนั้น ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนตัวเขาใกล้เคียงกับระดับ 8

"เข้ามา!!"

ด้วยเสียงตะโกนที่ดังสนั้น ร่างของเขาพุ่งออกไปราวกับลูกธนูอันคมกริบ

จากบนลงล่าง ดาบสั้นในมือของเขาฟันไปที่ราชันโลกหงหวง

เมื่อเห็นแรงกดดันที่ หลิน ยู ปลดปล่อยออกมา มานชานถึงกับตกตะลึงเขาไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆ

พลิกตัวกลับถอยฉากออกไปด้านข้างเพื่อหลบดาบแสง ในเวลาเดียวเขาก็ย่อตัวลง ชกไปที่ชายโครงของ หลิน ยู

ปัง

กำปั้นของเขาถึงกับสั่นสะท้าน มันกับถูกศอกของ หลิน ยู ป้องกันเอาไว้ได้ ทั้ง 2 ต่างถอยออกมา

และทันใดนั้นฝ่าเท้าของพวกเขาก็ระเบิดออกมาอีกครั้งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง

ดาบและหมัดปะทะกันอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาเพียงครึ่งนาที พวกเขาก็ได้ต่อสู้กันหลายสิบครั้ง แต่ละครั้งพวกเขาปะทะกันอย่างรุนแรง

ยิ่ง มานชาน ต่อสู้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้น

เพราะเขาพบว่า หลิน ยู นั้นดูเหมือนจะเปลี่ยนบุคลิกของเขาไปอย่างกระทันหัน แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะยังไม่ลื่นไหล แต่ความแข็งแกร่งและการเคลื่อนไหวของเขาดีขึ้นกว่าเดิมถึง 3 ส่วน มันได้ค่อยๆกดดันเขา

ปัง

มานชาน โจมตีไปด้วยหมัดอีกครั้ง

จากนั้นก็มีเสียงร้องเบาๆ ดาบสั้นให้มือของ หลิน ยู สั่นเล็กน้อย

ตัวเขาถอยหลังออกไป 3-4 เมตร เท้าของเขาจมลึกไปในโคลน

ไกลออกไป

ภายใต้การเพิ่มขึ้นของค่าสถานะ หลิง ซี นั้นไม่กลัวแม้แต่น้อย เถาวัลย์หนามและใบไม้คมมีดเต้นระบำอยู่บนท้องฟ้า เข้าต่อสู้กับยูนิคอร์นเพลิง

อย่างไรก็ ตัวของยูนิคอร์นเพลิงถูกล้อมรอบด้วยไฟ จึงเป็นเรื่องยากที่ฝ่าการป้องกันเข้าไป ดังนั้นสถานะการณ์ภายในสนามต่อสู้จึงเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ป่าเกือบทั้งหมดได้กลายเป็นทะเลเพลิง

ฉากอันอลังกาลและการปะทะกันที่ดุเดือดนี้

มันได้ดึงดูดความสนใจของราชันที่อยู่ใกล้เคียงทันที

"นั้นมันอะไรกัน! ที่นั้นมันเกิดบ้าอะไรขึ้น! ทำไมป่ามันถึงถูกไฟไหม้แบบนั้น"

"ดูด้านในนั้น มีราชันสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่"

"ดูเหมือนเขาจะเป็นคนเถื่อนแห่งโลกหงหวง!"

"โลกหงหวง!? แล้วใครกันที่สามารถต่อสู้กับเขาได้ถึงขนาดนั้น?"

"เขาอาจจะเป็นราชันระดับสูงจากโลกอื่นก็ได้"

เสียงดังออกมาจากอัฒจันทร์ของราชันเผ่ามนุษย์ทั้งหมด

แม้แต่ หยาน ลี่ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ ก็ยังถูกดึงดูดด้วยคำว่า "คนเถื่อน" ที่พวกเขาพูดถึง เขามองยังสนามต่อสู้

เพราะในสงครามหมื่นโลกครั้งล่าสุด เขาได้พบกับราชันที่ตัวเองว่าคนเถื่อน เขามีพละกำลังมหาศาลไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย

แต่เมื่อเขาเห็นการต่อสู้ภายในสนามต่อสู้ เขาก็ตกตะลึงอย่างหนัก

นั้นมัน หลิน ยู

เขาสามารถต่อสู้กับคนเถื่อนได้ถึงขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ!?

เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของ มานชาน ดีพร้อมเขาเคยต่อสู้กันมาก่อน

ผลออกมาเพียงแค่เสมอไม่มีใครสามารถทำอะไรใครได้

แต่ ณ ตอนนี้ภายใต้การโจมตีด้วยดาบสั้นของ หลิน ยู มานชานค่อยๆเสียเปรียบลง

แม้แต่ยูนิคอร์นเพลิงของเขาก็ยังถูกกดดันอย่างสมบูรณ์ มีบาดแผลมากมายบนร่างกายของมัน

"ฮ่าๆ เยี่ยมม"

ภายในสนามต่อสู้ มานชาน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ต่อยไปที่ดาบสั้นของ หลิน ยู ด้วยหมัดของเขา

หลิน ยู ก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอออกมา

เขารับการโจมตี ด้วยทักษะดาบที่รวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ จนกระทั่งเขาใช้พลังแห่งกฏจึงสามารถควบคุมได้

ทุกการโจมตีจะเกิดประกายไฟขนาดใหญ่ออกมาจากหมัดเหล็กของคนเถื่อน

ดาบสั้น และหมัดเหล็ก ปะทะกันกลายเป็นแสงวูบวาบไปทั่วสนามต่อสู้ บางครั้งเกิดเป็นเสียงระเบิดดังขึ้น

ปัง

ปัง

ปัง

หลังจากปะทะไปหลายรอบ

ในที่สุด มานชาน ก็ถูก หลิน ยูแทงเพราะตัวเขาเริ่มที่จะหมดแรง

จากนั้นพวกเขาทั้ง 2 ก็เข้าใจกันโดยปริยาย พวกเขาทั้งคู่หยุดพร้อมกันยืนอยู่คนละมุมในพื้นที่เปิดโล่งหันหน้าเผชิญหน้ากัน

"ข้าแพ้แล้ว"

มานชาน ยิ้มกว้างออกมายอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี

"เป็นการต่อสู้ที่ดี"

หลิน ยู กล่าวออกมาด้วยเสียวแผ่วเบาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

บอกตรงๆ

การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ง่ายเลยสำหรับเขา

สุดท้ายแล้ว เขาต้องกระตุ้นพลังแห่งกฏเปิดการใช้งานถึง 4 สกิล ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยสำหรับเขา

แต่เขาไม่เสียใจเลย

เนื่องจากการต่อสู้ในครั้งนี้ ทำให้เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตัวเองมากขึ้น รวมถึงหลิง ซี ของเขาก็ได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้อีกด้วย

นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สำหรับเขาที่ค่อยหลบซ่อนตัวเองมาตลอด

"เจ้าจะช่วยบอกชื่อของเจ้ามาได้หรือไม่!"

มานชาน จ้องมองไปที่ หลิน ยู อย่างหนักแน่นราวกับเขาต้องการจดจำรูปร่างหน้าตาของเขาเอาไว้

"หลิน ยู แห่งโลกดึกดำบรรพ์"

"เอาล่ะ ข้ามานชาน จะจำเจ้าเอาไว้" มานชาน หัวเราะออกมาเสียงดัง "ถ้าได้มีโอกาสอีกครั้งในอนาคตข้าจะกลับมาตัดสินกับเจ้าอีกครั้ง"

"ถ้าอยากสู้ก็เข้ามา" หลิน ยุ เลียริมฝีปากที่แตกของเขา "แต่ครั้งหน้าที่พวกเราเจอกัน มันจะไม่ง่ายเหมือนการยอมแพ้ในครั้งนี้"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ไว้เจอกันครั้งหน้า"

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ในเมื่อเขาเลือกที่จะยอมแพ้เขาจึงได้เทเลพอร์ตออกไปจากสนามต่อสู้พร้อมกับยูนิคอร์นเพลิงที่มีบาดแผลเต็มร่างกายของมัน

ในชั่วพริบตา

พื้นที่โล่งนี้ก็เหลือเพียง หลิน ยู เท่านั้นที่ยืนอยู่คนเดียวโดยมี หลิง ซี นั่งอยู่บนไหล่ของเขา

เหล่าราชันโดยรอบที่ให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่อยู่บนสนามต่อสู้นั้นล้วนต่างตกตะลึง

ราชันคนเถื่อนนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก

แต่เขาก็ยังแพ้

พ่ายแพ้อย่างง่ายดายแบบนี้!?

หากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาคงคิดว่านี้ต้องเป้นเรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน

แม้แต่ราชันแห่งโลกดึกดำบรรพ์พวกเขาก็มีการแสดงออกที่หลากหลาก ในขณะที่พวกเขาไม่รู้จะแสดงความตกใจออกมาอย่างไรดี

ไม่ต้องพูดถึงโลกหยวนซา และ โลกอู๋ซาง

พวกเขาแต่ละคนสีหน้าราวกับอมอุจจาระเอาไว้

เพราะราชันของพวกเขาเริ่มพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม โลกดึกดำบรรพ์นั้น พวกเขาได้รับชัยชนะมาทีละคน แม้แต่ซือถู เจี้ยน ก็สามารถเอาชนะ อ่าว เหวินหยู ได้ในการต่อสู้

หลังจากเปรียบดูแล้วพวกเขาราวกับกระดานฟอยล์ห่อทอง

"มันเป็นไปได้อย่างไร! เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน!"

ท่ามกลางเหล่าราชันโลกอู๋ซาง

หลี่ เหนียน รู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก เขามองไปยัง หลิน ยู ที่ยืนอยู่บนสนามต่อสู้

ตอนที่ มานชาน ได้ก้าวลงไป เขาคิดว่าในที่สุดเขาก็ได้เห็นหลิน ยู พ่ายแพ้หรือแม้กระทั่งถูกสังหาร

แต่ไม่คิดว่ามันจะออกมาแบบนี้

เมื่อคิดว่าได้ต่อสู้กับตัวคนที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้มาก่อน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว

ใช่แล้ว

ตอนที่ หลิน ยู สู้กับเขาก่อนหน้านี้ เขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ดังนั้นจึงนับว่าเขาโชคดีที่สามารถรอดชีวิตมาได้

ตอนที่พวกเขาไปปิดล้อมหลิน ยู  ราวมันเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์ ในตอนนี้เมื่อเขาคิดเกี่ยวมัน มันราวกับเป็นแค่เรื่องตลก

ราชันระดับนี้จะถูกสังหารได้อย่างไร ถ้าเขาต้องการที่จะหลบหนี

"ดูเหมือนพวกเราจะประเมินความแข็งแกร่งของชายคนนี้ต่ำไป"

ซู หยูเจียว การแสดงออกของเธอเปลี่ยนจากในอดีต หน้าตาที่งดงามของเธอราวกับจะถูกบีบให้เป็นก้อนเดียวกัน

เธอและมานชาน ก็ถือเป็น "เพื่อนเก่า" เช่นกัน

ในด้านของทหารนั้นเธอแข็งแกร่งกว่า

แต่ในด้านความแข็งแกร่งของราชันแล้ว เธอยังตามหลังเขาอีกมาก

แม้แต่คนเถื่อนที่ทรงพลังก็ยังพ่ายแพ้

นี้เพียงพอแล้วที่แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของราชันแห่งโลกดึกดำบรรพ์ผู้นี้ อย่างน้อยเขาก็ควรได้รับการปฏิบัติในระดับเดียวกันกับ หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน

บูม!

ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังเกิดขึ้น

สนามต่อสู้ที่ หลิน ยู อยู่เริ่มสั่นสะเทือน

ภายในเวลาไม่นาน ผืนป่าก็งอกออกมาจากพื้นดิน ด้วยแสงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงสนามต่อสู้ได้กลับมาเป็นป่าอีกครั้ง

"สนามต่อสู้มีความสามารถแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?"

หลิน ยู ประหลาดใจไม่น้อย

ตอนแรกเขาคิดว่าเขาต้องสูญเสียความได้เปลี่ยนด้านสภาพแวดล้อมไปซะแล้วหลังจากที่ป่าถูกเผาจนราบ

ด้วยการที่ สนามต่อสู้มีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง

ต่อให้มันได้รับความเสียมากเท่าไร มันก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ทันที

มันทำให้เขารู้สึกมีความสุขไม่น้อย

ขณะนั้นเอง

เขาก็ได้พาหลิง ซี กลับไปซ่อนตัวในป่าอีกครั้งใช้โอกาสนี้ในการฟื้นตัว

ในเวลานี้ ความเปรียบในการเรียกหลิง ซี ออกมาของเขาก็ได้แสดงผล เขาสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น หลิง ซี ยังมีออร่าแห่งพฤกษาเร่งความเร็วในการฟื้นฟูพลังธรรมชาติอีกด้วยซึ้งมีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้ระยะยาว

แต่เหล่าราชันที่ติดตามการเคลื่อนไหวของเขาที่อยู่ภายนอกกลับไม่คิดแบบนั้น

เมื่อเห็นเขารีบเข้าไปซ่อนตัวในป่าราชันเหล่านั้นก็รีบเคลื่อนไหวทันที

สุดท้ายแล้ว พวกเขาเห็นความรุนแรงของการต่อสู้ในตอนนั้น ไม่มีทางที่ราชันคนไหนจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อย่างแน่นอน

"ข้าคิดว่าเขาต้องรู้สึกกดดันมากอย่างแน่นอน ตอนนี้คือช่วงเวลาที่เขานั้นอ่อนแอที่สุด"

"มันต้องใช่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้เขาคงไม่รีบไปซ่อนตัวในป่า"

"นี้เป็นโอกาสดี! มาสะสมคะแนนกันเถอะ"

"ให้ข้าเอง"

หลังจากนั้นไม่นาน

ราชันอันเดดทำตัวราวเป็นหัวขโมยเข้าไปยังประตูมิติมุ่งหน้าไปยังสนามต่อสู้ที่ หลิน ยู อยู่

ราวกับเขาตัดสินใจแล้วว่า หลิน ยู ที่อ่อนแอในตอนนี้และเป็นเป้าหมายของเขา เขาเรียกนายพลโครงกระดูกออกมาตรงเข้าไปในป่า หายไปในพริบตาเดียว

"อ๊ากกกก!"

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงกรีดร้องของราชันผีดิบดังมาจากในป่า

เหล่าราชันที่เฝ้าดูอยู่นั้นภายในใจของพวกเขาต่างตกตะลึง ร่องรอยของความสยองปรากฏด้วยดวงตาของพวกเขา

ทำไมราชันอันเดดนั้นถึงได้ถูกสังหารอย่างรวดเร็วขนาดนั้น?

เป็นไปได้ยังไงกัน

ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง

เหล่าราชันต่างมองหน้าด้วยกันด้วยความตกตะลึง ไม่มีกล้าเข้าไปยังสนามต่อสู้ที่หลิน ยู อยู่ ทำให้บรรยากาศภายในป่ากลายเป็นวังเวง

"ซ่อนเป็นผีเลย ข้าจะหาเจ้าเอง!"

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ได้มีราชันตอบสนองเทเลพอร์ตเข้ายังสนามต่อสู้อย่างรวดเร็ว คราวนี้เป็นราชันที่มีทหารบิน ซึ่งเป็นมังกรพิษสีม่วงที่มีความยาวมากกว่า 20 เมตร

ทันทีที่เขาเข้าสู่สนามต่อสู้ เขาก็รีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพ่นก๊าซพิษจำนวนมากเข้าไปในป่า

"ฮ่าฮ่า ข้าจะดูซิเจ้าจะหนีไปไหน!"

ราชันสัตว์ร้ายหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าทหารของ หลิน ยู มีสกิลโจมตีระยะไกล หลังจากปล่อยก๊าซพิษออกมา เขาก็บินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าทันทีรักษาระยะห่างเอาไว้

ราชันคนนั้นยังคงตะโกนออกมา เขาไม่คิดว่าจะมีอุบายแบบนี้

"ฮ่าฮ่า เจ้านั้นต้องตายด้วยก๊าซพิษอย่างแน่นอน"

"ชอบที่หลบๆซ่อนๆดีนัก เดี๋ยวเจ้าก็ได้ตายโดนไม่รู้ตัว"

"แม้ว่ามันเป็นวิธีที่น่ารังเกียจไม่น้อย แต่สุดท้ายคนที่ชนะคือราชา"

"สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง? ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ"

"นั้นอะไรน่ะ มีบางอย่างกำลังลอยขึ้นมา"

ทันใดนั้น เสียงเยาะเย้ยของราชันเหล่านั้นก็กลายเป้นเงียบลง

พวกเขาเป็นว่าในป่าที่ปกคลุมด้วยก๊าซพิษ กลุ่มดอกแดนดิไรอันโลหิตลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ

จำนวนของพวกมันเริ่มมากขึ้นเรือยๆ

ในที่สุดมันก็ปกคลุมเต็มทั่วท้องฟ้า

"นี้มันอะไรกันวะ แค๊กๆ .. ไอ้บ้านั้น .. บินให้สูงกว่านี้อีก"

ราชันสัตว์ร้ายที่หัวเราะก่อนหน้านี้ได้สูดดอกแดนดิไลออนเข้าไปเต็มปอด ไอออกมาอย่างรุนแรงราวกับโดยสาบแช่ง

อย่างไรก็ตาม เขายังคงเฝ้าระวังสั่งให้มังกรพิษบินสูงขึ้นไปอีกใน เพียงตาเดียวป่าที่อยู่ด้านล่างก็ไกลออกไป