ตอนที่ 286 โบสถ์ที่ทรุดโทรม

"เร็วเข้า! หยุดมันเอาไว้! มันกำลังวิ่งไปทางโน้นแล้ว"

"ระวัง มันจะโจมตีแล้ว!!"

"ใช้สกิลป้องกันของเจ้าให้ข้า เร็ว!"

อีกมุมหนึ่งบนดินแดนแห่งความตาย ราชันระดับ 7 หลายคนของโลกวู๋เสี้ยตะโกนออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า สั่งกองกำลังของพวกเขาให้ล้อมมอนสเตอร์สุนัขผีดิบระดับ 8 และมอนสเตอร์บอสระดับ 8 2 ตัวเอาไว้

ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่อ่อนแอเลย

โดยปกติแล้ว ด้วยการมีกองกำลังระดับ 8 กว่าหลายร้อยตัวรอบตัวทุกคน แถมพวกเขายังสามารถใช้มิติต้นกำเนิดได้อีกด้วย มันทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

จะเห็นว่ามอนสเตอร์เหล่านั้นถูกสังหารอย่างต่อเนื่องภายใต้การปิดล้อมด้วยกองกำลังของพวกเขา

แม้แต่มอนสเตอร์บอสระดับ 8 2 คนก็ยังคำรามออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สามารถทำลายฝ่าวงล้อมของพวกเขาออกมาได้ ทำให้ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยบาดแผล

"ฮ่าฮ่า ดีมาก! ด้วยการสังหารเจ้ามอนสเตอร์บอส 2 ตัวนี้ มันจะทำให้มิติต้นกำเนิดของพวกเราแข็งแกร่งขึ้นอีกอย่างแน่นอน"

"ระวังการสวนกลับของพวกมัน!!"

"ไม่ต้องกังวลไป ที่นี้ไม่มีราชันจากโลกอื่นคอยสร้างปัญหา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกน๊า"

ราชันหลายคนดูมีความสุข ค่อยๆสั่งให้กองกำลังของพวกเขาโจมตีไปยังรอบๆมอนสเตอร์บอส

โดยปกติแล้วราชันที่เดินทางยังมาที่นี้ไม่มีใครเป็นคนอ่อนแอ

อีกทั้งพวกเขายังมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้พวกเขามีกันถึง 5 คน แม้ว่าพวกเขาจะพบกับราชันระดับ 8 พวกเขาก็มีพลังพอที่จะต่อสู้กลับไปได้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลแม้แต่ว่าจะมีใครมาสร้างปัญหาให้

ดังนั้น สายตาของพวกเขา จึงจับจ้องไปยังมอนสเตอร์บอสทั้ง 2 พร้อมที่จะสังหารมันทุกเมื่อ

บูมม!

ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น

บนท้องฟ้าห่างจากไปเขาไป 100 เมตร ได้มีลำแสงสีแดงระเบิดขึ้น โจมตีเข้าไปที่ศรีษะของมอนสเตอร์บอส มันระเบิดออกเป็นชิ้นๆ

[สังหารมอนสเตอร์บอสระดับ 8 ได้รับพลังเวทย์ 10000 แต้ม]

เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในวินาทีต่อมาหลังจากสังหาร

ในที่สุดราชันหลายคนของโลกรู้สึกตัวการแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปในทันที ในชั่วพริบตาเดียว

"ระวัง! มีคนอื่นอยู่ที่นี้!"

"ให้ตายซิ มอนสเตอรบอสถูกมันสังหารไปแล้ว!"

"ใครกัน! กล้าดียังไงมาแย่งมอนสเตอร์บอสของ โลกวู๋เสี้ย ของพวกเรากัน ออกมาซะ!!"

ในชั่วพริบตาเดียว ทั่วทั้งดินแดนแห่งความตายก็กลายเป็นยุ่งเหยิง

พวกเขานั้นไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นคนสังหารมอนสเตอร์บอสจากระยะไกลขนาดนั้น

ภายใต้แรงกดดัน พวกเขาเรียกออกกำลังออกมาป้องกันตัวเองทันที มองอย่างหวาดระแวงไปยังที่ๆการโจมตีนั้นถูกปลดปล่อยออกมา

สิ่งที่หลงเหลืออยู่สำหรับพวกเขามีเพียงแค่ก้อนหินเปล่าพร้อมทั้งเส้นทางที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงลอยอยู่ในอากาศ พวกเขานั้นไม่รู้จะทำอย่างไร?

ไม่ต้องจำเป็นต้องคิดแม้แต่น้อย

คนที่โจมตีไปนั้น คือ หลิน ยู และเป่า ปิงของเขานั้นเอง

โดยอาศัยการโจมตีของเป่าปิงโจมตีจากระยะไกล มันถูกใช้เพื่อสังหารมอนสเตอร์บอสมาแล้วหลายครั้ง

อย่างที่เห็นราชันเหล่านั้นไม่มีโอกาสที่จะตอบสนองได้ทันแม้แต่น้อย

หลังจากที่ได้ยินคำสั่งของ หลิน ยุ เขาก็ขึ้นขี่ไปยังมังกรราชาปิศาจ และบินออกไปจากที่นี้ทันที

แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่ได้อ่อนแอ แต่เขาก็ยังมีความมั่นใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการเผชิญหน้ากับราชันระดับ 7 หลายคนรวมไปถึงมอนสเตอร์ระดับ 8 หลายร้อยตัวในเวลาเดียวกัน

สุดท้ายแล้ว การที่ราชันเหล่านั้นได้เปิดมิติต้นกำเนิดขึ้นมาแล้ว ทำให้กองกำลังของพวกเขาได้รับบัพจากดินแดน พวกเขาคงไม่ใช่ราชันไก่อ่อนอย่างที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้

แม้ว่าทหารของเขาได้รับบัพจากมอสชีวภาพ แต่มันก็ยังเป็นเพียงแค่ระดับ 7 ทำให้ค่าสถานะของมันอ่อนแอกว่าทหารระดับ 8 อย่างมาก

ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่เสี่ยง

หลังจากที่สังหารมอนสเตอร์บอสตัวนั้นไป ในที่สุดมิติต้นกำเนิดของเขาก็ขยายออกเป็น 20 เมตร ต้นไม้โลกก็ค่อยๆงอกใบเพิ่มขึ้น

พรสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์ของเขามันแข็งแกร่งขึ้นเพิ่มเป็น 2.4%

มันเป็นแบบนี้นี่เอง

ผลลัพธ์ของมันไม่ใช่การเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ แต่มันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามขนาดของมิติต้นกำเนิด ดังนั้นมันจึงไม่แตกต่างกันมากนักในช่วงแรก

"ไปกันเถอะ ไปหาเหยื่อตัวต่อไปกัน"

หลังจากที่ปิดหน้าต่าง หลิน ยู ก้สั่งให้มังกรราชาปิศาจค้นหามอนสเตอร์ตัวต่อไปบนดินแดนแห่งความตายแห่งนี้

ทำไมมันถึงได้ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความตายกัน?

เนื่องจากมอนสเตอร์ที่อยู่บนพื้นที่นี้โดยพื้นฐานแล้วเป็นเผ่าอันเดด

และพื้นที่ทั้งหมดในบริเวณนี้ถูกปกคลุมด้วยออร่าแห่งความตายทำให้มอนสเตอร์อันเดดเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จำนวนของมอนสเตอร์บอสระดับ 8 ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

มอนสเตอร์บอสสุนัขผีดิบก่อนหน้านี้เป็นตัวที่ 22 ที่เขาสังหารมันมากว่าที่เขาสังหารหกวันก่อนทั้งหมด

ด้วยอัตราขนาดนี้

เขาคิดว่าอีกไม่นานพลังงานต้นกำเนิดในมิติต้นกำเนิดก็คงเต็มแล้ว

"หืม? นั้นอะไรน่ะ? หยุดก่อน"

ทันใดนั้นสายตาของหลิน ยู ถูกดึงดูดโดยอาคารที่คล้ายกับโบสถ์ที่อยู่ในระยะไกล

ทำไมถึงได้มีโบสถ์อยู่ในภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์กัน?

หลิน ยู รู้สึกประหลาดใจจริงๆ

ถึงแม้โบสถ์หลังนี้จะดูทรุดโทรม แต่มันก็เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์

มันแสดงให้เห็นสัญญาณว่าเคยมีมนุษย์อยู่ที่นี้

เช่นเดียวกันกับพีระมิดในครั้งก่อน

เป็นไปได้ไหมว่า

ก่อนที่จะกลายมาเป็นภูมิภาคหลักของเหล่ามอนสเตอร์ ที่นี้เคยเป็นมีอารยธรรมมนุษย์อาศัยอยู่

ภายใต้ความสงสัยนี้ หลิน ยู ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เขาสั่งให้มังกรราชาปิศาจร่อนลงบริเวณใกล้กับโบสถ์

โบสถ์แห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก

มันตั้งอยู่ใต้เชิงเขา คอยหลบซ่อนอยู่ ล้อมรอบด้วยรั้วเหล็กขึ้นสนิทสูงกว่า 5 เมตรก่อตัวเป็นลานขนาดใหญ่ใต้เชิงเขา

มีโบสถ์สไตล์ตะวันตกตั้งอยู่ใจกลางสภาพของดูเก่าทรุดโทรมอย่างมากแต่ก็ยังคงความสง่างามเอาไว้

แม้แต่สวนโดยรอบก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชต่างๆ

น่าเสียดายที่ลานดังกล่าวถูกห้อมล้อมไปด้วยฝูงซอมบี้จำนวนมาก ยากที่ใครจะเข้าใกล้

[ชื่อ : บาทหลวงผีดิบ]

[เผ่าพันธุ์ : อันเดด]

[ระดับ : ระดับ 8 (ระดับ A)]

[ความแข็งแกร่ง : 2200 (+1550)]

[ร่างกาย : 2000 (+1400)]

[ความว่องไว : 1910 (+1337)]

[วิญญาณ : 1920 (+1344)]

[สกิล : กรงเล็บซากศพ , กลืนกินเลือดเนื้อ , พิษศพ]

[พลังความโกหาหล : ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 70%]

[หมายเหตุ : เดิมทีเขานั้นเป็นผู้พิทักษ์ของโบสถ์ เขาได้ติดเชื้อจากพลังแห่งความตายโดยไม่ทราบสาเหตุและกลายเป็นมอนสเตอร์อันเดดโดยไม่รู้ตัว]

.....

[ชื่อ : นักบวชผีดิบ]

[เผ่าพันธุ์ : อันเดด]

[ระดับ : ระดับ 8 (ระดับ A)]

[ความแข็งแกร่ง : 1820 (+1274)]

[ร่างกาย : 1900 (+1330)]

[ความว่องไว : 1900 (+1330)]

[วิญญาณ : 2350 (+1645)]

[สกิล : อัญเชิญซอมบี้ , อาณาจักรแห่งความตาย , ฝนพิษซากศพ]

[พลังความโกหาหล : ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 70%]

[หมายเหตุ : เดิมทีเขานั้นเป็นนักบวชของโบสถ์ เขาได้ติดเชื้อจากพลังแห่งความตายโดยไม่ทราบสาเหตุและกลายเป็นมอนสเตอร์อันเดดโดยไม่รู้ตัว]

ค่าสถานะของมอนสเตอร์ทั่วไปจะมีเพียงประมาณ 70-80% ขีดจำกัดสูงสุดของพวกเขาในระดับปัจจุบัน ซึ่งคล้ายกับกองกำลังที่เพิ่งอัญเชิญขึ้นมาใหม่

สำหรับมอนสเตอร์บอสนั้น ค่าสถานะของมันจะใกล้เคียงกับจุดสูงสุดของระดับนั้น ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละตัว

สำหรับมอนสเตอร์ราชันนั้น ค่าสถานะของมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองของมอนสเตอร์ทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นช่องว่างของมอนสเตอร์แต่ละระดับชั้น

หลิน ยู ทำการคำนวน

ค่าสถานะเฉลี่ยของมอนสเตอร์ตัว 2 ประเภทนี้สูงกว่า 3200 แต้ม

ในขณะที่ภูติไม้สงครามโบราณระดับ 7 ของเขานั้นเมื่อรวมกับค่าสถานะจากมอสชีวภาพ ทำให้ค่าสถานะของมันนั้นมากถึง 1900 แต้ม

เมื่อรวมกลับบัพออร่าของ หลิง ซี 10% บัพจากชิ้นส่วนเทวะอีก 20% และอีก 16% มาจากบัพของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดน

นอกจากนี้ยังมีบัพร่างกาย 5% และอีก 2.4% จากพรสวรรค์เผ่าพันธุ์ 4% จากวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ และ 20% จากสกิลติดตัวของ ชิง กัง

ทำให้มันมีค่าสถานะร่างกายทั้งหมด 3370 แต้ม ซึ่งเทียบได้กับมอนสเตอร์ทั่วไประดับ 8 ที่มีความยากระดับ A

นี้ยังไม่นับรวมบัพจากเสียงคำรามแห่งโทสะเป็นเวลาอีก 30 วินาทีรวมไปถึงบัพจากสมบัติต่างๆ

แน่นอนว่า

ว่านี้นับจากบัพที่เสริมค่าสถานะร่างกายเท่านั้น

หากนับรวมอย่างอื่นเข้าไปด้วย แม้กองทัพพืชของเขาจะอ่อนแอ แต่ทหารพืชราชวงศ์ระดับ 8 ก็สามารถทำให้การต่อสู้เกิดสมดุลย์ได้

เขาคิดว่ามันต้องการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

สุดท้ายแล้ว เพราะเขานั้นมีกองกำลังเพียงแค่ 500 ตัว แต่พวกมันนั้นมีซอมบี้ระดับ 8 นับพันอยู่ภายในโบสถ์นั้น เขาไม่รู้ว่ามีมอนสเตอร์บอสหรือมอนสเตอร์ราชันอยู่ภายในนั้นหรือป่าว

"ช่างมันเถอะ ค่อยๆสังหารพวกมันไปก่อนก็แล้วกัน"

ในที่สุด หลิน ยู ก็ตัดสินใจที่จะสำรวจโบสถ์แห่งนี้

มันไม่ใช่เพราะสมบัติที่อยู่ในนั้น

แต่เพราะเขาสนใจสกิลของนักบวชผีดิบที่อยู่ในส่วนลึกนั้น

ใช่แล้ว!

นี้คือสิ่งที่เขาค้นหามาโดยตลอด สกิลอัญเชิญซอบบี้และอาณาจักรแห่งความตายของเผ่าอันเดด!

เขาไม่คิดว่าจะได้เจอมันในที่แบบนี้

ต้องรู้ก่อนว่า เขานั้นมีดอกไม้แห่งการกลืนกินถึง 10 ตัว

ยกเว้น 2 ตัวที่ก้าวขึ้นไปสู่ระดับ 8 ไปแล้วก่อนหน้านี้ ตัวอื่นล้วนแต่มีสกิลที่คัดลอกมาโดยไม่เลือก ซึ่งมันแย่กว่าอาณาจักรแห่งความตายมาก มันไม่สามารถใช้พลังของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระเบิดตัวเองได้เลย

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู ก็เรียกกองทัพพืชทั้งหมดของเขาออกมา

เกิดเป็นแสงสว่างวาบนี้ เหล่านักบวชผีดิบที่อยู่ด้านนอกรั้วเหล็กของโบสถ์ก็พบเขาในที่สุด พวกมันรีบวิ่งมาพร้อมกับส่งเสียงคำราม

"ไป! จัดการมันซะ"

หลิน ยู รีบออกคำสั่งกับกองทัพภูติไม้สงครามโบราณที่อยู่ด้านหน้า พวกเขาตั้งแถวด้านหน้าเพื่อสร้างเป็นกำแพงป้องกันขึ้น

บูม!

บูม!

บูม!

เสียงปะทะกันดังขึ้นเป็นชุดอย่างต่อเนื่อง นักบวชผีดิบจำนวนมหาศาลได้เข้าปะทะกับกองทัพภูติไม้โบราณ

ในวินาทีถัดไป แสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นบนภูติไม้สงครามโบราณ

เกราะป้องกันธรรมชาติเริ่มแสดงผล!

ทุกครั้งที่ได้รับการโจมตี ค่าสถานะร่างกายจะเพิ่มขึ้น 4%

ในชั่วพริบตาเดียว เกาะป้องกันของภูติไม้สงครามโบราณ เพิ่มขึ้นจนเท่ากับความแข็งแกร่งนักบวชผีดิบ รับการโจมตีของพวกมันทั้งหมดเอาไว้

บางตัวถึงกับใช้ความสามารถของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพจนถึงขีดสุดเพราะถูกโจมตีมากเกินไป ทำให้เกาะโปร่งใส่ปรากฏขึ้นบนร่างกายของพวกมัน

ทำให้ไม่ติดสถานะทั้งหมดเป็นเวลา 10 วินาที และลดความเสียที่ได้รับลง 40%!

พิษซากศพที่พ่นใส่ในตอนแรกถูกป้องกันในทันที ทำให้มันสร้างเสียหายได้เพียงครั้งแรกเท่านั้น

"เยี่ยมมาก"

หลิน รู อุทานออกมาเสียงดัง ความสามารถของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ SSS สามารถต่อกรกับมอนสเตอร์อันเดดนั้นได้ดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากเลยทีเดียว

มันเป็นเพียงแค่ความพยายามในการเผชิญหน้ากัน ทำให้นักบวชแห่งความตายถูกกดดันกลับไป

จากนั้นภายในการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของทหารพืชตัวอื่นๆ จำนวนของพวกมันก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จากนั้นก็เกิดใหม่กลายเป็นดอกไม้อมตะระดับ 8

อย่างไรก็ ในขณะนั้นเองจู่ๆ ก็ได้มีเมฆดำเข้าปกคลุมท้องฟ้า ฝนกรดพิษซากศพโปรยปรายลงมายังกองทัพพืชทั้งหมด

"ซี่ ซี่ ซี่...."

เกิดเป็นควันสีขาวบนเกาะของภูติไม้สงครามโบราณ

ภายใต้เกราะจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ มันยังคงถูกกัดกร่อนเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ ทำให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลง

หลิน ยู เงยหน้าขึ้นมองไปในระยะไกล เห็นว่านักบวชผีดิบดึงดูดไปบางจุด พวกมันยกไม้เท้าขึ้นสูงพร้อมกับร่ายสกิล

ฝนกรดนี้เกิดขึ้นจากพวกมันอย่างแน่นอน

เขาไม่ได้คิดว่าสกิลของมันจะทรงพลังขนาดนี้

"รักษาพวกเขาเร็วเข้า!"

โดยไม่ลังเล กองทัพเอฟล์ผู้ส่งสาสน์ที่นำโดยหลิง ซีก็เข้าสนับสนุนทันที

ในชั่วพริบตาเดียว ลำแสงเยียวยาก็สาดส่องลงมาปกคลุมภูติไม้สงครามโบราณที่บาดเจ็บทั้งหมด

ในเวลาเดียวกัน

โล่กลมๆได้ปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างภูติสงครามโบราณ ป้องกันฝนกรดที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

มันเป็นผลของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ "ปราการรักษา"

มันช่วยลดความเสียหายจากการโจมตีถึง 30%

เอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ทุกตัวใช้งานสกิลลำแสงเยียวยา เหล่าภูติไม้สงครามโบราณทั้งหมดได้รับเกาะป้องกันขึ้นอีกชั้นทันที

การโจมตีและป้องกันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปะทะกับฝนกรดที่ปกคลุมท้องฟ้าและไม่เกิดความเสียหายจากการกัดกร่อนอีก

"โอกาศมาถึงแล้ว โจมตีมัน!"

หลิน ยู ฉวยโอกาศนี้สั่งให้กองทหารโจมตีไกลและทหารราชวงศ์หลายตัวที่อยู่รอบตัวเขา เริ่มสังหารนักบวชผีดิบที่ออกมา

ราชาปิศาจเห็ดที่บนท้องฟ้าโยนเห็ดขนาดใหญ่ยักษ์ลงมาด้วยความร่าเริง ระเบิดฝูงผีดิบกระจายออกไปทันที