บทที่ 139 พวกเขากลับมาแล้วๆ!
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเดือนนับตั้งแต่พวกเขาจากไป แต่ดูเหมือนกลับว่ามันผ่านหลายปีแล้ว และพวกเขาไม่คิดว่าจะได้กลับมาอีกอีกในชีวิตนี้
ตามคำบรรยายของเสี่ยวฟาน ผู้คนในหมู่บ้านตอนนี้ค่อนข้างสบายดีใช่ไหม? ทุกคนไม่เพียงแต่มีอาหารกินเท่านั้น แต่พวกเขายังเริ่มฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อีกด้วย ยังไงก็ตามยังมีคนจากกู่เจียไจ้ที่เข้าร่วมหมู่บ้านด้วย
พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าแค่เวลาไม่ถึงเดือนจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดนี้เกิดขึ้น
ดวงตาของเว่ยเทียนกงจ้องมองไปที่เฉินฟาน
การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คงเป็นเฉินฟาน
ความแข็งแกร่งของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พวกเขาทั้งหมดก็คงต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของจ้าวต้าอยู่ในขณะนี้ใช่ไหม?
ในขณะนี้ มีคนบนหอสังเกตการณ์ในเฉินเจียไจ้มองเห็นพวกเขาผ่านกล้องกล้องส่องทางไกล
เขาตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงอ้าปากกว้าง ลูกตาของเขาราวกับจะหลุดออกมาจากเบ้า จากนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงความปีติยินดี และเขาก็กดกริ่งเรียกประชุมอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับเสียงระฆัง ทุกคนในหมู่บ้านก็มาที่นี่ด้วยความงุนงง
“ตาเฒ่าเซี่ย เกิดอะไรขึ้น? ข้าจำได้ว่าวันนี้ทีมล่าไม่ได้ออกไปล่าสัตว์ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่แล้ว เรียกพวกเรามาทำไม ตอนนี้พวกเรากำลังซ้อมศิลปะการต่อสู้อย่างเมามันส์อยู่!” เกาหยงเขาตะโกนออกมาด้วยความงุนงง
“ข้ากำลังทำอาหารอยู่ เฮ้..ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกิดไฟไหม้ใช่ไหม?”
“ตาเฒ่าเซี่ย อย่าบอกนะว่าเจ้าแค่ล้อเล่นโดยไม่มีอะไรทำ?”
“ล้อเล่นมารดาสิ”
ผู้เฒ่าเซี่ยสาปแช่งออกมา ชี้ไปทางทิศใต้แล้วพูดว่า "ข้าเห็นเสี่ยวฟานพาเทียนกง เทียนหยวนและคนอื่นๆกลับมา แถมพวกเขายังขับรถบรรทุกขนาดใหญ่ มาทางนี้ และพวกเขาอาจจะมาที่นี่ในไม่ช้า"
"อะไรนะ!"
ทันใดนั้น พวกผู้ฟังก็เงียบ และความไม่เชื่อก็เขียนบนใบหน้าของทุกคน
“ตาเฒ่าเซี่ย เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
เฉินกัวตงถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา เขากลัวว่าเขาจะได้ยินผิดไปเมื่อกี้ และเขาก็กลัวว่าเขาจะมีความสุขโดยเปล่าประโยชน์
“กัวตง ข้าบอกว่าข้าเห็นเทียนกงและคนอื่น ๆ กำลังเดินทางกลับมา เทียนหยวน,เจียนเหวิน,เซียวหยวนจื่อและคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ในรถ และพวกเขาทั้งหมดกลับมาแล้ว!”
ตาเฒ่าเซี่ยพูดออกมาด้วยเสียงที่ราวกับเขากำลังจะร้องไห้ และน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของเขา
ทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านี้และทุกคนก็ตกตะลึงทันที
“จริงหรือ เทียนกงและคนอื่น ๆ กลับมาแล้วงั้นเหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้ พวกเขาอยู่จ้าวเจียเป่าไม่ใช่เหรอ? พวกพี่น้องแซ่จ้าวเหล้านั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายและไร้ความปรานีอย่างฉาวโฉ่ และพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครออกมาอย่างแน่นอน”
“มันเป็นเพราะเสี่ยวฝานนั่นเอง! เสี่ยวฟานเป็นคนไปรับพวกเขาด้วยตัวเอง ไม่น่าแปลกใจเลย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้าไม่ได้เจอเขาเลยตั้งแต่เช้า”
“ใช่ ข้าก็ได้ยินเหมือนกัน เมื่อกี้ตาเฒ่าเซี่ยบอกว่าเสี่ยวฟานก็อยู่ที่นั่นด้วย เป็นไปได้ไหมว่าสาเหตุที่พวกเราไม่เห็นเสี่ยวฟานเมื่อเช้านี้อาจเป็นเพราะเขาไปที่จ้าวเจียเป่าเพื่อไปพาเทียนกงและคนอื่น ๆ กลับมา”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
“ทำอะไรอยู่ เปิดประตูเร็วๆ ข้าอยากเห็นด้วยตาตัวเอง” หลิวหยงกล่าวและเป็นคนแรกที่รีบก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู
ราวกับตื่นจากความฝัน ทุกคนรีบตามเขาและออกจากหมู่บ้านไป
แล้วพวกเขาก็ได้เห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่คันหนึ่งค่อยๆ ขับมาทางนี้อย่างช้าๆ ตอนนี้ระยะทางไม่ถึง 300 เมตรแล้ว
มีผู้คนมากมายยืนอยู่บนรถนั้นกำลังโบกมือมาที่พวกเขาอย่างตื่นเต้น และพวกเขาจะไม่มีวันลืมใบหน้าที่คุ้นเคยเหล่านั้นอย่างแน่นอน
“พวกเขาเป็นเทียนกงและคนอื่นๆจริงๆด้วย! เทียนกงและคนอื่นๆ กลับมาแล้ว!”
“เป็นพวกเขาจริงๆ มันเป็นพวกเขาจริงๆ งั้นเหรอ?”
“เทียนกง! เทียนหยวน!”
ทุกคนวิ่งไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น
"กลับมาแล้ว ทุกคนกลับมาแล้ว"
เฉินกัวตงเช็ดน้ำตาของเขา
จางเหรินก็ยืนอยู่ที่ประตู มองดูฉากนี้ ดวงตาของเขาเปียกชื้น
ตอนนี้ในหมู่บ้านเฉินเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก หรือคนชรา พวกเขาล้วนล้อมรอบเว่ยเทียนกงและคนอื่นๆ และฟังเรื่องราวของพวกเขาเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาในจ้าวเจียเป่า
ในตอนแรกทุกคนยังคงยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มก็ค่อยๆ กลายเป็นแข็งทื่อ จากนั้นก็เป็นการขมวดคิ้วก็แน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเว่ยเทียนกงและคนอื่น ๆ ถูกส่งไปซ่อมแซมกำแพงและหวงซู่หลานถูกคุกคาม พวกเขาก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองอย่างมาก
“จ้าวเจียเป่าพวกนี้มันทำมากเกินไปแล้ว!”
“มันไม่เพียงแต่ไปไกลเกินไปเท่านั้น แต่ยังก่อความชั่วร้ายทุกประเภทอีกด้วย!”
“ใช่ เทียนกงและคนอื่น ๆ ทำงานหนักเพื่อพวกเขา สัตว์ร้ายเหล่านี้ยังคงคิดไม่ดีกับซู่หลาน พวกเขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า”
"พวกเขาเป็นสัตว์ร้าย!"
“แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อนั้น?”
เฉินกัวตงรีบถาม
“ต่อมาจ้าวซานและคนอื่นๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเขาไม่ได้กลับไปในเมื่อวานนี้และพวกเขาคงประสบกับโชคร้ายเป็นแน่ ดังนั้นจ้าวต้าจึงพาผู้คนออกไปตามหาพวกเขา จากนั้นเสี่ยวฟานมาถึงในเวลานั้นและช่วยพวกเราออกมา”
เว่ยเทียนกงมองไปที่เฉินฟานอย่างขอบคุณ
"อย่างนั้นหรือ?"
เฉินกัวตงและคนอื่น ๆ เข้าใจทุกอย่างทันที
“เสี่ยวฟาน เจ้าไม่บอกเราว่าเจ้าไปที่จ้าวเจียเป่า” หลิวหยงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“ใช่ เราทุกคนคิดว่าเจ้ากำลังฝึกธนูอยู่นอกกำแพงหมู่บ้านเสียอีก”
ทุกคนมองไปที่เฉินฟานอย่างไร้คำพูด
กู่เจียงไห่, กู่เซ่อและคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่คุ้นเคยกับเว่ยเทียนกงและคนอื่นๆ เมื่อเห็นฉากนี้พวกเขาก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากเช่นกัน
ลองจินตนาการดูว่าถ้าในอนาคต เมื่อพวกเขาประสบปัญหา เฉินฟานจะช่วยเหลือพวกเขาเหมือนกับที่เขาช่วยเหลือเว่ยเทียนกงและคนอื่นๆ อย่างแน่นอนเมื่อเขารู้เรื่องนี้
“เฮ้ ข้าก็กลัวจะทำให้พวกท่านจะมีความสุขเกินไปก็เท่านั้น”
เฉินฟานพูดอย่างยิ้มๆ จากนั้นมองไปที่เว่ยเทียนกงและคนอื่นๆ แล้วพูดว่า "ลุงเว่ย พวกท่านก็เห็นแล้วว่าทุกคนคิดถึงพวกท่านมากขนาดไหน ดังนั้นท่านอย่าจากไปที่ไหนอีกเลยในครั้งนี้"
เว่ยเทียนกงได้ยินคำพูดนั้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และเขาก็รีบพูดว่า "ข้าจะไม่จากไปๆ กัวตง..พวกเราขอโทษเป็ฯพวกเราไม่ดีเองที่ละทิ้ง ... "
เฉินกัวตงหยุดเขาไม่ให้พูดต่อ และพูดทั้งน้ำตา "ปล่อยอดีตไปเถอะ มาร่วมมือกันในอนาคต และเราจะทำให้ทุกคนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยกัน"
“ใช่ เราจะร่วมมือกัน!”
"ร่วมมือกัน!"
ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน
เฉินฟานมองฉากนี้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ในอนาคตเมื่อมีลุงเว่ยและคนอื่นๆ ในทีมล่า เขาก็จะสามารถปล่อยมือและมีเวลาว่างมากขึ้น ทั้งในแง่ของการฝึกฝนและการเข้าไปผจญภัยในพื้นที่อันตรายของดินแดนรกร้างได้
หากเขาเพียงแค่ยิงสัตว์อสูรระดับต่ำ การเลื่อนระดับของเขาจะช้าเกินไป
บรรยากาศค่อยๆเงียบลง
เมื่อเห็นอย่างนี้เฉินฟานก็ไอออกมาเบาๆ ซึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคน
“ท่านพ่อ ท่านลุง ข้ากำลังคิดว่าเราควรย้ายไปที่จ้าวเจียเป่าดีไหม?”
“ย้ายเข้าไปอยู่ในจ้าวเจียเป่างั้นหรือ?”
เฉินกัวตงและคนอื่น ๆ ตกตะลึง
"ใช่"
เฉินฟานเล่าถึงสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยินในจ้าวเจียเป่า
ทุกคนต่างถูกดึงดูดโดยไม่มีข้อยกเว้น
กำแพงที่มีความสูงและแข็งแรง
พื้นที่ภายในมีขนาดใหญ่มาก และยังสามารถใช้สำหรับการเพาะปลูกได้อีกด้วย
มีพื้นที่ฝึกซ้อมโดยเฉพาะ และมีอาวุธมากมายในโกดัง
ยังมีสิ่งของมากมายในห้องใต้ดินของบ้านพัก
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เฉินเจียไจ้ในปัจจุบันยังเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ
“กัวตง เราควรย้ายไปที่นั่นโดยเร็วที่สุดเป็นอย่างไร” หลิวหยงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ใช่ ทุกอย่างดูดีหมด และที่สิ่งสำคัญคือที่นั่นสามารถปลูกพืช ข้าว และอาหารได้ มันจะทำให้เราสามารถพึ่งตนเองได้ในระดับหนึ่ง”
เฉินกัวตงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าแล้วพูดว่า "เอาล่ะ เรากลับไปเตรียมตัวหลังจากนี้ แล้วออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน"
ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ย้าย
ขณะนี้มีรถบรรทุกและมีวัวป่ากว่า 20 ตัวอยู่ภายใน ความยากในการเคลื่อนย้ายจะลดลงอย่างมาก
ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
บนรถบรรทุกขนาดใหญ่ยังมีสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู เนื้อกระป๋อง และอื่นๆ
เฉินฟานแจกจ่ายพวกมันทั้งหมดทันที
เขาไม่สามารถใช้สิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง
นักรบในค่ายก็ได้รับข้าวโลหิตเพิ่มเติมอีกด้วย เฉินฟานตรวจค้นโกดังอย่างระมัดระวังและพบข้าวโลหิตราคา 3 หยวนต่อปอนด์หลายร้อยปอนด์ ซึ่งน่าจะเตรียมไว้สำหรับจ้าวซาน
ทุกคนกลับไปพร้อมกับสิ่งของต่างๆ อย่างมีความสุข เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายถิ่นฐานในวันพรุ่งนี้
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในกระท่อมข้างโกดัง
เฉินฟานเล่าทุกอย่างออกมาสั้นๆ ให้จางเหรินฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วก็มีรายละเอียดบางอย่างที่เว่ยเทียนกงและคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจ
หลังจากที่จางเหรินฟัง ก็มีความกังวลปรากฏบนคิ้วของเขา
“เสี่ยวฟาน เป็นการกระทำที่ดีจริงๆ สำหรับเจ้าที่จะแจกจ่ายข้าวธรรมดาทั้งหมดในห้องใต้ดิน แต่ข้ากังวลว่าจะมีใครบ้างคนที่ไม่รู้สึกพอ”
“ลุงจางหมายความว่าอย่างไร จะมีบางคนกล้าปราถนาไปไกลกว่านั้นและใช้ทรัพยากรอย่างอื่นงั้นเหรอ?”
"ใช่"
จางเหรินพยักหน้า
คนกลุ่มนั้นถูกจ้าวต้ากดขี่ ถูกต้องที่พวกเขาน่าสงสาร แต่ก็มันก็ยากจะพูดได้ เพราะในสังคมขนาดใหญ่เช่นนั้นยอมมีคนดีและคนชั่วปะปนกันไปมากมาย อยู่ที่พวกเขามีโอกาสได้แสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมาหรือไม่
ในมุมมองของเขา การปฏิบัติอย่างจริงใจของเฉินฟานนั้นเหมือนบ่งบอกว่าเขาเป็นคนจิตใจดีที่สามารถถูกหลอกได้ง่าย แม้แต่คนหลายคนที่ให้คุณค่าและแม้จะถูกส่งเสริมจากเฉินฟานและพวกเขาอาจมีเจตนาชั่วร้ายได้เช่นกัน
ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือขับไล่คนเหล่านี้ออกไป และให้เพียงคนจากเฉินเจียไจ้เท่านั้นที่อาศัยอยู่ในนั้นได้
แต่เขารู้ว่าทั้งเฉินกัวตงและเฉินฟานไม่สามารถทำอย่างนี้ได้
……………
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved