ตอนที่ 304 : จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศ—เฟิงลั่ว! พระบิดา!

“ขอบคุณมากขอรับท่านผู้อาวุโส นั่นตรงกับสิ่งที่ข้าคิดพอดีเลย!”

เฟิงลั่วกล่าวอย่างจริงจัง

“ข้ายินดีที่จะต่อสู้เพื่อท่านลอร์ดจนเลือดหยดสุดท้าย!”

เขาพูดออกมาด้วยความเคารพและสร้างความมั่นใจให้กับโจวโจว

โจวโจวยิ้มออกมาและพยักหน้า

จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างข้อมูลของอีกฝ่ายขึ้นมาดู

[ลูกน้อง: เฟิงลั่ว (ผู้กล้า)]

[สมญานามผู้กล้า: จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศ]

[ระดับโชคชะตา: โชคชะตาผู้กล้าระดับมหากาพย์]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง]

[ความสามารถโดยรวม: อดีตทหารดาบโล่พเนจรที่มีพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ ความฝันของเขาคือการเปิดสถานที่อันเงียบสงบสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ได้รับความเดือดร้อนจากสงคราม ต่อมาเขาได้เข้าร่วมกับเมืองตะวันสาดแสงและได้รับการยอมรับจากเจ้าตะวันสาดแสง เขาได้รับมรดกผู้กล้าและได้กลายเป็นผู้กล้า!]

[สายเลือด: สายเลือดมนุษย์ (ระดับมหากาพขั้นสูง) (100%)]

[ทักษะ: ทักษะผู้กล้า – วรยุทธ์สิบทิศ, ทักษะผู้กล้า – หนึ่งกระบี่ผู้พิชิต, ทักษะผู้กล้า – ผู้พิชิตสิบทิศ, พรสวรรค์ – เจตจำนงกระบี่ตื่นรู้, สุดยอดกระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับเทพชั้นสูงขั้นกลาง, กระดูกกระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, ปราณกระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, พลังงานกระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชากระบี่โล่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, สิบสามกระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาประสานกระบี่โล่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาโล่กระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยโล่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยลูกศรจักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยกระบี่จักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยหอกจักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง, เคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยร่างกายจักรพรรดิสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง]

[ความภักดี: 100 (ภักดีจนตาย)]

[ศักยภาพ: ระดับเหนือสามัญขั้นสูง]

[ประวัติผู้กล้า: 1. เดินทางไปทั่วทวีปและได้ช่วยเหลือมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในบางอาณาจักรของเผ่าพันธุ์มนุษย์ คะแนนชื่อเสียงส่วนตัว+1 ชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์+500 2. ภายใต้ความเมตตาของเจ้าตะวันสาดแสง เขาได้รับมรดกผู้กล้าของจักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศและกลายเป็นจักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศ! คะแนนชื่อเสียงส่วนตัว+1 ชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์มนุษย์+10,000 ชื่อเสียงประจำทวีปจื้อเกา+5!]

โจวโจวเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ

ไม่เลว

รากฐานของเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าไป่อี้และอู๋ซินนัก

จากนั้นเขาก็มองไปยังทักษะผู้กล้าทั้งสามอันของอีกฝ่าย

ทักษะผู้กล้าอย่างวรยุทธ์สิบทิศจะทำให้เฟิงลั่วเข้าใจมรดกวรยุทธ์จำนวนมาก เฟิงลั่วจะสามารถพบเห็นข้อบกพร่องในการโจมตีที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบได้ นอกจากนี้ เขายังสามารถคำนวณวิธีแก้ทางการโจมตีของอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อด้วย

ทักษะนี้สามารถกล่าวได้เลยว่าเป็นสุดยอดทักษะสำหรับการดวลตัวต่อตัว

ตราบใดเฟิงลั่งต่อสู้กับอีกฝ่ายที่อยู่ในระดับเดียวกัน เขาก็ยิ่งเข้าใจรูปแบบการต่อสู้และมาตรการตอบโต้ของคู่ต่อสู้มากขึ้นเท่านั้น โอกาสที่คู่ต่อสู้ของเขาจะชนะก็ยิ่งน้อยลง และสุดท้ายอีกฝ่ายก็แทบจะพ่ายแพ้ไปในที่สุด

ถ้าอีกฝ่ายอยากจะเอาชนะเฟิงลั่วให้ได้ เขาก็ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองหรือระดับพลังที่เหนือกว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เฟิงลั่วใช้ประโยชน์จากเคล็ดวิชาของเขา

ส่วนทักษะผู้กล้าหนึ่งกระบี่ผู้พิชิต มันคือทักษะผู้กล้าประเภทโจมตีเป้าหมายเดี่ยว การเหวี่ยงกระบี่เพียงครั้งเดียวที่จะบรรจุความเข้าใจในเชิงยุทธ์ทั้งหมดของเฟิงลั่ว มันจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขา และพลังของมันจะเพิ่มขึ้นตราบใดที่ความเข้าใจในวิถีกระบี่ของเฟิงลั่วนั้นเพิ่มขึ้น

ทักษะผู้กล้าผู้พิชิตสิบทิศ ทักษะผู้กล้าประเภทสมรภูมิ เมื่อเฟิงลั่วอยู่บนสมรภูมิ ยิ่งมีศัตรูล้อมเขาไว้มากเท่าไร เขาก็จะยิ่งถูกกระตุ้นด้วยแรงกดดันที่เขารู้สึก เขาจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านการป้องกัน ความสามารถในการโจมตี และความสามารถในการต่อสู้ระยะยาว

ทักษะนี้ทำให้เฟิงลั่วได้เปรียบมากในการต่อสู้แบบกลุ่ม แต่มันก็เป็นทักษะที่เสี่ยงด้วยในเวลาเดียวกัน

ถ้าเขาสามารถเอาชีวิตรอดได้ เขาก็จะได้เป็นตำนาน!

แต่มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะตายในวงล้อมของศัตรูได้ถ้าเขาไม่ระวัง

มันเป็นทักษะผู้กล้าที่ทำให้ผู้ใช้สามารถต่อสู้ได้จนตาย

อย่างไรก็ตาม สมรภูมิก็ไม่ใช่การต่อสู้เพียงลำพัง

มันคงจะไม่อันตรายนักที่จะใช้มันเมื่อมีกองทัพคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง

หลังจากนั้นโจวโจวและเฟิงลั่วก็กล่าวลาผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับและออกจากวิหารอัศวิน

หลังจากกลับมาแล้ว โจวโจวก็ให้เฟิงลั่วกลับไปที่กองทัพตะวันสาดแสงก่อนที่เขาจะเดินไปยังวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิ

ณ ตรงหน้าศาลเจ้า

โจวโจวได้มองไปยังแท่นบูชาและพบว่าขีดจำกัดสูงสุดของเครื่องบูชาบนแท่นกลายเป็นเครื่องบูชา 50 รายการที่มีมูลค่าต่ำกว่าแกนหมอกระดับทองคำเหลือง 50 ชิ้น

เขาวางแกนหมอกระดับทองคำเหลืองลงไป 50 ชิ้นโดยไม่ลังเล

ในไม่ช้าแท่นบูชาก็เปล่งประกาย จากนั้นแกนหมอกระดับทองคำเหลือง 50 ชิ้นก็หายไป

จากนั้นก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา

[ท่านได้รับพรแห่งบรรพบุรุษ: สู้จนตัวตาย (การเสริมพลังสำหรับสงคราม)]

[สู้จนตัวตาย (การเสริมพลังสำหรับสงคราม): หลังจากลูกน้องภายใต้การบัญชาการของท่านเข้าสู่สถานะต่อสู้ พวกเขาจะไม่สนใจความกลัวตายและสามารถต่อสู้กับศัตรูได้จนตาย ระยะเวลา: 6 ชั่วโมง]

ดวงตาของโจวโจวเปล่งประกายขึ้นมา

สู้จนตัวตาย?!

พรแห่งบรรพบุรุษอันใหม่เหรอ?!

นอกจากนี้พรแห่งบรรพบุรุษนี้ยังดูมีประโยชน์มากด้วย

ทุกคนต้องมีความรู้สึกกลัวตาย

โจวโจวที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดเป็นจำนวนมากก็ยังไม่ใช่ข้อยกเว้น

ยิ่งสำหรับทหารของเขาก็ยิ่งแล้วใหญ่

บนสมรภูมิ เมื่อเขามาถึงทวีปจื้อเกาเป็นครั้งแรก เขามักจะเห็นทหารบางคนที่กลัวจนพวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้และกระทั่งหันหลังหนี

สำหรับทหารที่หนีทัพพวกนี้ โจวโจวก็ให้คนไปลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง แต่เขาก็ไม่ได้ฆ่าคนพวกนั้น

เพราะพวกเขาก็ถือว่าเป็นลูกน้องของเขาอยู่

เขายังคงมีความอดทนอย่างมากต่อผลงานของคนของตัวเอง

แต่โชคดีที่เขามีพรสวรรค์แห่งลอร์ดอย่างสุขสงบ ดังนั้นลูกน้องของเขาจึงภักดีต่อเขาขึ้นเรื่อยๆ และทำให้มีทหารหนีทัพน้อยลงไปเรื่อยๆ

ในภายหลัง เขาก็ชนะในศึกทุกๆ ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการปรากฏตัวของผู้กล้าอย่างไป่อี้และอู๋ซิน ขวัญกำลังใจของทหารจึงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และมีทหารหนีทัพน้อยลงไปอีก มันทำให้เขาไม่ค่อยเห็นทหารหนีทัพแล้วตอนนี้

“ขอบคุณมากขอรับท่านบรรพบุรุษ!”

โจวโจวจุดธูปไหว้บรรพบุรุษด้วยความเคารพก่อนที่จะเดินออกมาจากวัดบรรพบุรุษจักรพรรดิ

เขามาที่ค่ายทหารและเห็นว่าทหารทุกคนพร้อมรบแล้ว เขาจึงไม่ลังเลและบอกให้พวกเขาเตรียมเข้าสู่สมรภูมิแห่งลอร์ด จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างสมรภูมิแห่งลอร์ดขึ้นมาและเริ่มการท้าประลอง

[กำลังจับคู่กับคู่ต่อสู้ของท่าน…]

[การจับคู่เสร็จสมบูรณ์!]

[เข้าสู่สมรภูมิ!]

หลังจากโลกเปลี่ยนไป โจวโจวก็มองไปยังโลกตรงหน้าของเขา

นี่คือที่ราบหิมะอันกว้างใหญ่ มันมีหิมะตกหนักตกลงมาจากท้องฟ้า ภายใต้สายลมอันเย็นเฉียบ มันกระทบใบหน้าของผู้คนราวกับหินเย็น

เขามองออกไปไกลๆ

มันมีบาเรียจักรกลตั้งอยู่ไกลออกไป

หุ่นยนต์สีเงินขาวกำลังลอยอยู่และอาวุธเทคโนโลยีสีเงินขาวก็ถูกจัดวางอย่างเงียบๆ

“คนคุ้นเคยงั้นเหรอ?”

โจวโจวประหลาดใจ

ในเวลานั้นเองก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา

[ท่านได้เข้าสู่สมรภูมิระดับเทวะขั้นสูง!]

[คู่ต่อสู้ของท่านและท่านได้รับการสุ่มให้เข้าสู่สมรภูมิระดับเทวะขั้นสูง—ที่ราบเทพหิมะ!]

[คู่ต่อสู้ของท่านคือ: ลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์จักรกล—พระบิดา!]

[เงื่อนไขการเอาชนะศัตรู: สังหารกองกำลังของศัตรูทั้งหมดภายในเวลา 24 ชั่วโมง!]

[หากเกินเวลาที่กำหนด ทั้งสองฝ่ายจะได้รับผลการต่อสู้เป็นลบ อันดับ-1!]

[ท่านมีเวลา 10 นาทีในการจัดเตรียมกองกำลัง!]

[เวลาคงเหลือ: 9 นาที 59 วินาที]

“น่าเสียดายจริงๆ มันไม่ใช่ลอร์ดคนเดิมที่เคยเจอ”

โจวโจวพึมพำกับตัวเอง

มันหาได้ยากที่เขาจะพ่ายแพ้ในสมรภูมิแห่งลอร์ด

และเจ้าเรเดียมทมิฬแห่งเผ่าพันธุ์จักรกลก็คือหนึ่งในคนที่เขาเคยพ่ายแพ้มา

ในเวลานั้น เขาต้องการที่จะดูว่าเขาจะสามารถเพิ่มอันดับของเขาได้อย่างรวดเร็วด้วยพรสวรรค์แห่งลอร์ดผู้พิฆาตมังกรของเขาได้หรือไม่

ครึ่งแรกของการต่อสู้เป็นไปอย่างราบรื่นมาก โจวโจวเก็บชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่อง

แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพบกับลอร์ดเผ่าพันธุ์จักรกลที่ไม่มีสายเลือด ดังนั้นความได้เปรียบของผู้พิฆาตมังกรจึงไม่สามารถใช้งานได้เลยและเขาก็พ่ายแพ้ในที่สุด

แม้ว่าเผ่าพันธุ์จักรกลตรงหน้าของเขาจะไม่ใช่เจ้าเรเดียมทมิฬ แต่มันก็ยังเป็นลอร์ดเผ่าพันธุ์จักรกลที่แข็งแกร่ง

มันอยู่ในอันดับที่หกบนสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์และเป็นลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์จักรกล

นอกจากนี้ มันยังเป็นลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะด้วย!

“มันคงจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่ฉันก็ยังต้องเอาชนะให้ได้!”

สีหน้าของโจวโจวใจเย็นลง

สิ่งต่างๆ ไม่เหมือนเดิมแล้วตอนนี้

เขาไม่ใช่ลอร์ดที่ต้องพึ่งพาพรสวรรค์แห่งลอร์ดลำเนาผู้พิฆาตมังกรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป