บทที่ 229 : การปรากฎตัวของเซียนทอง!

ในเวลาเดียวกันกับที่เย่หยุนตะโกน รูปปั้นไม้ซึ่งได้ถูกระงับไปแล้วทันใดนั้นก็ส่องสว่างขึ้น

ร่างของรูปปั้นไม้สว่างขึ้นด้วยแสงสีม่วงดำหนาแน่น ในชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นฝูงแมลงหนา แมลงทุกตัวถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยผลึกน้ำค้างสวรรค์

มันมีจำนวนเยอะมาก!

“ องค์เหนือหัว! โปรดประทานพลังอันศักดิ์สิทธิ์แก่ข้าด้วย!”

แมลงสีม่วงดำที่คลานออกมาจากรูปปั้นไม้เองก็ตะโกนขึ้นพร้อมกัน

เสียงนี้ยังปลุกอีกเจ็ดคนที่ถูกระงับไปแล้วให้พวกเขาตะโกนขึ้นพร้อมเพรียงกัน

“ ฮ่าๆๆๆ!”

แมลงสีม่วงดำของเย่หยุนหัวเราะเสียงดัง มันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง “ เมื่อองค์เหนือหัวลงมา พวกเจ้าทั้งหมดก็จะต้องตาย!”

บู้มมมมม!

ในขณะนี้ เสียงระเบิดโครมครามก็ดังขึ้นบนโลก ผลึกน้ำค้างสวรรค์ที่ล้อมรอบไปด้วยแมลงสีม่วงดำจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดกลายเป็นแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

พวกมันมาบรรจบกันและเปิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นบนท้องฟ้า ราวกับว่ามันกลายเป็นเสาแสงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อสวรรค์และปฐพีเพื่อต้อนรับการมาถึงของการดำรงอยู่อันยิ่งใหญ่

ทุกคนในหลินเจียงเห็นเสาแสงต้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนหรือคนทั่วไป พวกเขาต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังทิศทางของเสาแสง พวกเขาตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

ในความเห็นของพวกเขา นี่ก็คือพลังของธรรมชาติ พลังแห่งการสรรค์สร้าง มันอยู่ยงคงกระพัน!

อย่างไรก็ตาม ในฐานะพลเมืองของต้าโจวและหลินเจียง พวกเขาก็รู้ดีว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูประเภทใด พวกเขายังรู้อีกว่าใครกำลังยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขาและช่วยพวกเขาต้านทานเมื่อศัตรูเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น

ในความโกลาหลครั้งใหญ่เช่นนี้ มันก็จะต้องเป็นฝีมือของกลุ่มสำนักเซียนแน่นอน!

ต้องเป็นพวกสำนักเซียนที่ต้องการจะนำราชวงศ์ต้าโจวและหลินเจียงให้กลับไปอยู่ภายใต้การปกครองอันโหดร้ายของพวกมันแน่นอน

ไม่มีใครอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศต่างๆ นอกต้าโจวได้ถูกทำลายลงเมื่อเร็วๆ นี้และการทำลายล้างทุกประเภทก็ได้เกิดขึ้น มันทำให้ผู้คนที่นี่มุ่งมั่นที่จะติดตามจักรพรรดินีและเทวาเป่ยมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้เอง แม้แต่คนธรรมดาก็ยังไม่หวาดกลัวต่อพลังธรรมชาติที่สั่นสะเทือนโลกนี้ แล้วนับประสาอะไรกับคุกเข่าลงบนพื้น

คนส่วนใหญ่จ้องมองไปที่หลินเจียง

อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังคงกังวล

“ คนเหล่านี้ต้องการจะทำให้เรากลับไปเป็นทาส เทวาเป่ยและจักรพรรดินีจะต้องชนะแน่!”

“ หมายความว่ายังไงที่เราจะต้องชนะ? เราชนะแน่อยู่แล้ว เป็นเวลาหลายปีแล้ว มีครั้งใดบ้างที่สำนักเซียนสามารถสู้เราได้?”

“ แต่ความโกลาหลในครั้งนี้มันก็มากเกินไป สำนักเซียนกลายเป็นบ้าไปแล้วหรอ?!”

ผู้คนพูดคุยกัน

บนท้องฟ้าเหนือหลินเจียง เป่ยฉิงซูก็ขมวดคิ้วและมองไปที่เสาแสงด้วยความประหลาดใจ ในเวลาเดียวกัน หลี่หมิงเฉียงซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเมืองและแอบใช้การโจมตีวิญญาณทันใดนั้นก็ลุกขึ้นและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เธอยืนอยู่ข้างๆ เป่ยฉิงซูและมองไปที่เสาแสงด้วยท่าทางตกใจ

พวกเขาทุกคนสามารถบอกได้ว่าเสาแสงที่ก่อตัวขึ้นโดยผลึกน้ำค้างสวรรค์นั้นได้สร้างการเชื่อมต่อที่คล้ายกับการเคลื่อนย้ายทางไกล พวกเขาน่าจะกำลังอัญเชิญ “ผู้อาวุโส” คนหนึ่งมาแน่ๆ

“ ศิษย์พี่ ท่านพูดถูก ข้าไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายเลย” เป่ยฉิงซูมองไปที่เสาแสงอย่างเคร่งขรึมและพูดด้วยเสียงต่ำ “ ถ้าข้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากท่านอาจารย์ ข้าก็คงตื่นตระหนกไปนานแล้ว”

แรงกดดันที่เปิดเผยออกมาโดยเสาแสงนี้เกินขีดจำกัดที่เขาจะสามารถต้านทานได้อย่างชัดเจน

“ เจ้าจะตื่นตระหนกอะไร” หลี่หมิงเฉียงส่ายหัวของเธอ เธอยืนอยู่บนท้องฟ้าและมองไปที่เสาแสงอย่างเย็นชา คางที่เหมือนหยกของเธอยกขึ้นเล็กน้อย “ เจ้ายังมีพี่สาวของเจ้าอยู่ใกล้ๆ ของแค่นี้ท่านอาจารย์ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวใดๆ หรอก”

“…” เป่ยฉิงซูพูดไม่ออกเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ตระหนักได้ว่าหลี่หมิงเฉียงเป็นเซียนทองแล้ว และเธอก็แข็งแกร่งกว่าเขานับครั้งไม่ถ้วน เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่นในทันทีและพูดว่า “ ถูกต้อง ท้ายที่สุดแล้ว ข้าก็เป็นเพียงเทพลึกลับเท่านั้น”

“ นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกเจ้าว่าเจ้ายังคงต้องทำงานอย่างหนักไง” หลี่หมิงเฉียงหันไปมองเป่ยฉิงซูแล้วยิ้ม “ ข้าจะให้เจ้าจัดการกับพวกกระจอกทั้งเก้าไป ส่วนข้าจะไปจัดการกับปัญหาใหญ่เอง”

“ เข้าใจแล้ว” เป่ยฉิงซูพูดอย่างอดไม่ได้

แม้ว่าเขาจะขัดเกลากายาเต๋าขึ้นมาแล้วและสามารถฆ่าเทพลึกลับไท่อี้ได้ แต่เขาก็ยังมีข้อบกพร่องและจุดอ่อนมากเกินไปเมื่อเทียบกับเซียนทองที่แท้จริง

เขาทำได้เพียงเฝ้าดูในขณะที่หลี่หมิงเฉียงยืนอยู่ตรงหน้าเขา

ในขณะนี้ หลี่หมิงเฉียงก็ได้มุ่งความสนใจไปที่เสาแสงที่เชื่อมต่อสวรรค์และปฐพี

“ เซียนทอง นี่จะต้องเป็นพลังของเซียนทองแน่ๆ ข้ายังรับมือไหว…”

ในฐานะเซียนทองที่ได้หล่อหลอมแก่นแท้วิญญาณทองของเธอขึ้นมา เธอก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถเอาชนะเซียนทองที่ทะลวงผ่านโดยการใช้แก่นแท้เซียนได้

อย่างไรก็ตาม หลี่หมิงเฉียงก็ยังต้องขมวดคิ้วอีกครั้งราวกับว่าเธอค้นพบบางสิ่ง เธอพึมพำ “ ไม่ มันดูเหมือนจะมีพลังที่ลึกล้ำอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้…”

การรับรู้ของเธอเฉียบแหลมมาก หลังจากเฝ้าสังเกตเสาแสงอย่างระมัดระวัง เธอก็สังเกตเห็นความผิดปกติภายใน หลังจากพิสูจน์ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเซียนทองแค่บนพื้นผิว เธอก็สัมผัสได้ว่าดูเหมือนมันจะมีพลังที่ทำให้ใจเธอเต้นแรงซ่อนอยู่

อีกฝ่ายนั้นอันตรายมาก

“ ศิษย์พี่ เกิดอะไรขึ้น?” เป่ยฉิงซูรีบถาม