ตอนที่ 531 : เงื่อนไขการเลื่อนระดับอาณาจักรขั้นกลาง!

หลังจากตื่นเต้นเสร็จแล้ว โจวโจวก็มองไปยังชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่เหลืออยู่ของเขา

หลังจากใช้ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดไปเมื่อครู่แล้ว เขาก็เหลือชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหล็กดำ 752 อัน ระดับบรอนซ์เขียว 769 อัน ระดับเงินขาว 133 อัน ระดับทองคำเหลือง 11 อัน ระดับแพลตตินั่มขาว 9 อัน ระดับเหนือสามัญ 18 อัน ระดับมหากาพย์ 9 อัน ระดับตำนาน 2 อัน และระดับเทวะ 6 อัน!

โจวโจวมองดูชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดเหล่านี้และพยักหน้าเล็กน้อย

อันที่จริงถ้าดูจากชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่มีอยู่ของเขา เขาก็สามารถเลื่อนระดับพรสวรรค์แห่งลอร์ดบางอันได้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาต้องรีบอัพเกรดพรสวรรค์แห่งลอร์ดอันอื่น

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดเหล่านี้ เพราะมันยังมีประโยชน์อีกมาก

เมื่อเขาพบกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดชั้นยอดในอนาคต อย่างเช่นพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่เกี่ยวข้องกับพรแห่งเทพเจ้าทั้งสิบ เขาก็จะสามารถอัพเกรดมันได้โดยใช้ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดเหล่านี้ที่เขาสะสมเอาไว้ได้ทันที

นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์แห่งลอร์ดมากกว่า 20 อันแล้ว

มันคงจะไม่สามารถเพิ่มระดับให้พวกมันทั้งหมดได้ด้วยชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่เขามี

ส่วนพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับต่ำ เอฟเฟกต์ของมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขามากนัก

ยกตัวอย่างเช่นพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียวอย่างโรงแปรธาตุโนมที่มีบทบาทที่เป็นประโยชน์มากเมื่อเขามาที่ทวีปจื้อเกาเป็นครั้งแรก

แต่ด้วยการเพิ่มจำนวนขึ้นของหมอและการมีอยู่ของที่พักพิงของเทพีแห่งชีวิตในดินแดนของเขา พรสวรรค์แห่งลอร์ดอันนี้จึงค่อยๆ หมดความสำคัญไปในด้านของการผลิตยาฟื้นพลังให้กับเขา

ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับต่ำเช่นนี้

สิ่งที่เขาต้องการคือพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเหนือสามัญ ระดับมหากาพย์ ระดับตำนาน และกระทั่งระดับเทวะ!

พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับสูงเหล่านี้ถ้าไม่ได้รับมาจากศัตรูเพราะโชคก็จะต้องสะสมชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดจำนวนมากเพื่อเพิ่มระดับของพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่เขามีอยู่แล้วเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงจะไม่ใช้ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดเหล่านี้ไปง่ายๆ

หลังจากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างอาณาจักรของเขาขึ้นมา

[ชื่ออาณาจักร: อาณาจักรตะวันสาดแสง]

[ระดับอาณาจักร: อาณาจักรขั้นต้น]

[ธงของอาณาจักร: ยังไม่ได้กำหนด]

[กองทัพหลวง: กองทัพตะวันสาดแสง (ระดับทองคำเหลือง), กองทัพมอนสเตอร์ (ระดับเงินขาว), กองทัพเทพมังกร (ระดับเงินขาว)]

[เงื่อนไขการเลื่อนระดับเป็นอาณาจักรขั้นกลาง: เลื่อนระดับดินแดนเป็นระดับเหนือสามัญขั้นต้น, แกนหมอกระดับเหนือสามัญ 10,000 ชิ้น, พิชิตอาณาจักรสีชาดขั้นต้นภายใต้เจ้าแห่งลอร์ดสีชาด 3 แห่ง (1/3), พิชิตอาณาจักรขั้นต้นที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เจ้าแห่งลอร์ดสีชาด 2 แห่ง (0/2), ดินแดนภูมิภาค 500 แห่ง, ผู้กล้าประจำเผ่าพันธุ์ 10 คน, ตราอาณาจักรระดับมหากาพย์ขั้นต้น 1 อัน]

สายตาของโจวโจวมองไปยังเงื่อนไขการเลื่อนระดับอาณาจักรและเขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

เขายังอยู่ห่างไกลจากเงื่อนไขแรกของการเลื่อนระดับอาณาจักรมาก เพราะดินแดนของเขาในตอนนี้อยู่ที่ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงเท่านั้น

เขาจำเป็นต้องเลื่อนระดับดินแดนของเขาอีกสี่ครั้งจึงจะทำให้ดินแดนของเขาอยู่ในระดับเหนือสามัญขั้นต้น

“ดูเหมือนว่าตามปกติอาณาจักรขั้นต้นจะสามารถก่อตั้งได้จากฝ่ายของลอร์ดระดับเหนือสามัญเท่านั้น ฉันเป็นแค่ฝ่ายที่มีดินแดนระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงเท่านั้นแต่กลับก่อตั้งอาณาจักรได้แล้ว ถ้าเป็นเกม ฉันก็คงจะข้ามขั้นไปไกลเลย”

โจวโจวพึมพำ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมๆ

แค่เงื่อนไขนี้เพียงอย่างเดียวก็คงจะทำให้เขาใช้เวลาอีกนานกว่าจะเลื่อนระดับอาณาจักรตะวันสาดแสงไปเป็นอาณาจักรขั้นกลางได้

ไม่ต้องพูดถึงเงื่อนไขอื่นๆ อีก เช่น

1. พิชิตอาณาจักรสีชาดขั้นต้นภายใต้เจ้าแห่งลอร์ดสีชาด 3 แห่ง

2. พิชิตอาณาจักรขั้นต้น 2 แห่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เจ้าแห่งลอร์ดสีชาด

ในตอนนี้อาณาจักรสีชาดเพียงแห่งเดียวที่โจวโจวรู้จักก็คืออาณาจักรทาฮันที่ถูกพิชิตไปแล้ว

ไม่ว่ามันจะเป็นอาณาจักรออโรร่า อาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน อาณาจักรไททัน หรืออาณาจักรจิตวิญญาณอัคคีที่เพิ่งถูกค้นพบ พวกเขาก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาณาจักรที่ไม่ใช่อาณาจักรสีชาด

เขาเคยได้ยินมาว่าดินแดนของลอร์ดในพันธมิตรดาราบางคนนั้นอยู่ติดกับดินแดนของลอร์ดจากอาณาจักรสีชาด

อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็ไม่ได้คิดที่จะข้ามไปไกลขนาดนั้นเพื่อไปพิชิตอาณาจักรสีชาดที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับดินแดนของเขา

ประการแรก มันลำบากเกินไป

ประการที่สอง ระยะทางมันไกลเกินไป แม้ว่าจะมีค่ายกลข้ามมิติ แต่มันก็คงเป็นเรื่องยากในการบริหารจัดการหลังจากพิชิตมันได้

ถ้าเขามีพลังงานและเวลา เขาคงเลือกขยายอาณาเขตออกไปเรื่อยๆ เพื่อค้นหาอาณาจักรสีชาดที่อยู่รอบๆ ดินแดนของเขาแทนดีกว่า

เมื่อคิดได้เช่นนี้ โจวโจวก็ส่งคนไปเรียกอู๋ตู่เข้ามา จากนั้นเขาก็บอกให้อีกฝ่ายสำรวจดินแดนที่ไม่รู้จักรอบๆ อาณาจักรต่อไปในอนาคต

“นับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไปให้เจ้าย้ายทหาร 100,000 คนจากกองทัพอื่นมายังกองทัพวาดสวรรค์ของเจ้า นอกจากนี้ เจ้าจะได้รับภูติทมิฬ 3 ลำ ราตรีประดับดาว 2 ลำ และเมคาโนสไตรเดอร์ 50,000 อันเพื่อใช้เป็นยานขนส่งของกองทัพวาดสวรรค์ ข้าอยากให้เจ้าเพิ่มความแข็งแกร่งของกองทัพให้มากๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการสำรวจดินแดนรอบๆ!”

โจวโจวพูดด้วยโทนเสียงทุ้มต่ำ

เนื่องจากดินแดนตะวันสาดแสงได้เลื่อนระดับขึ้นเป็นฝ่ายของลอร์ดระดับอาณาจักรขั้นต้นแล้ว ความแข็งแกร่งของกองทัพวาดสวรรค์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นทหารแนวหน้าก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย มิฉะนั้นมันจะทำให้ความเร็วในการเติบโตของเขาช้าลงอย่างมาก!

“ขอรับฝ่าบาท!” อู๋ตู่กล่าวด้วยความตื่นเต้น

เขารู้สึกว่าฝ่าบาทให้คุณค่ากับเขาและกองทัพวาดสวรรค์เป็นอย่างมากเลย

“ยังไม่หมด” โจวโจวหยิบเอาหลักฐานกองทัพออกมา จากนั้นก็เลือกใช้มัน

[โปรดตั้งชื่อของกองทัพระดับอาณาจักรของท่าน:]

“กองทัพวาดสวรรค์!” โจวโจวพูดด้วยโทนเสียงต่ำ

[ชื่อกองทัพ ‘กองทัพวาดสวรรค์’ ถูกยืนยัน]

[โปรดยืนยันผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ หัวหน้าฝ่ายขนส่ง…]

เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็ใส่ชื่อของอู๋ตู่เข้าไปในตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพ

ส่วนที่เหลือเขาก็ปล่อยให้อู๋ตู่ ลูกน้องที่ภักดีจนตายของเขา เป็นผู้ทำหน้าที่ใส่ลงไป

เขาเห็นร่างของอู๋ตู่สั่นก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นและมองมาที่เขาด้วยความตื่นตะลึง

“ฝ่าบาท…” เขาพูดอะไรไม่ออก

“ไม่ต้องถามหรอกว่าทำไม มันเป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะได้รับมอบกองทัพเนื่องจากผลงานของกองทัพวาดสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของผู้บัญชาการกองทัพก็เป็นอำนาจที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ อย่าทำให้ข้าผิดหวังละกัน”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับฝ่าบาท ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเด็ดขาด!”

ความตื่นเต้นบนใบหน้าของอู๋ตู่ค่อยๆ จางหายไป และสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมา

เขาพูดอย่างจริงจัง

โจวโจวพยักหน้าและโบกมือของเขาให้อีกฝ่ายกลับไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ อู๋ตู่ก็จากไปด้วยความเคารพ

หลังจากที่เขาจากไป โจวโจวที่ไม่มีอะไรจะทำอีกก็กลับไปที่ห้องของเขาเพื่อพักผ่อน

ในขณะที่เขาเข้ามาในห้อง ร่างอันงดงามร่างหนึ่งก็กระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของเขา

มันคือหลี่ย่านั่นเอง!

พวกเขากอดกันอยู่สักพัก

“มาพักกันเถอะ”

โจวโจวยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

หลี่ย่าไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอซุกหัวของเธอไว้ในอ้อมแขนของโจวโจวอย่างเขินๆ

โจวโจวยิ้มออกมาเมื่อเขาเห็นเช่นนี้ จากนั้นเขาก็อุ้มหลี่ย่าขึ้นมาและเดินเข้าไปในห้อง

ในเวลานั้นเอง ดวงดาวอันพร่างพราวบนท้องฟ้าเบื้องบนก็หน้าขึ้นสีด้วยความเขินอายเช่นกัน