ตอนที่ 240 สรรหา

"สังหารร!!"

"สกัดมอนสเตอร์พวกนั้นเอาไว้เร็วเข้า!!"

"อย่าให้พวกมันฝ่าเข้ามาได้เด็ดขาด!!"

"กร๊าซซ!!"

เสียงกรีดผสานกับเสียงคำรามดังก้องทั้วทั้งเกาะลอยฟ้าที่อย่างต่อเนื่อง

เหล่ามอนสเตอร์เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ออกจากรอยแยกที่แตกล่ามออกไป โจมตีแนวป้องกันของเหล่าราชันอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ไม่ว่าจะบนฟ้าหรือแม้แต่บนพื้นดินก็เต็มไปด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือด

ที่ไหนซักแหละบนลานเกาะลอยฟ้า

เหล่าราชันระดับ 8 หลายคนได้มารวมตัวกันสั่งการให้กองกำลังของพวกเขาปะทะกับกองทัพมอนสเตอร์ระดับ 8 กลุ่มใหญ่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกองทัพมอนสเตอร์ ก็มีบอสมอนสเตอร์อยู่เป็นจำนวนมาก

"อ๊ากก บอสมอนสเตอร์ตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป! ฉันสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว!"

"รอก่อน! สกิลระเบิดของฉันใกล้จะคลูดาวเสร็จแล้ว"

"ป้องกันเอาไว้ก่อน อย่าให้มันฝ่าแนวป้องกันเข้ามาได้!"

"มันมีบอสมอนสเตอร์มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ!"

ราชันสองสามคนพวกเขาเริ่มกรีดร้องด้วยความหวาดกลัง กองกำลังของเขาค่อยๆล้มตายภายใต้การโจมตีของเหล่ามอนสเตอร์

เมื่อเห็นว่ากองกำลังของพวกเขาค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ทำให้พวกเขากังวล ความคิดที่จะล่าถอยค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัวใจของพวกเขา

"ตูมม!"

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

หัวใจของราชันเหล่านั้นแถบจะกระเด็นออกมาจากร่างของพวกเขา เสียงระเบิดอากาศที่น่าสะพรึงกลัวดังมาทางพวกเขา

ก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาได้ตอบสนอง กระสุนถั่วที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟได้พุ่งผ่านพวกเขาไป มุ่งหน้าตรงไปยังงูหลามยักษ์ที่เป็นบอสมอนสเตอร์ระดับ 8 ที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ไกลๆ

"ปุ๊!"

เลือดสาดกระเด็น

รูปขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนของเจ้างูเหลือมยักษ์ ส่งมันลงนรกทันที

หนึ่งนัดสังหาร!!

เมื่อเสียงดังนั้นขึ้นง ร่างของงูเหลือมยักษ์ที่เป็นบอสมอนสเตอร์ระดับ 8 ก็ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง บาดแผลของมันลุกโชนด้วยเปลวเฟลิง

"นี้มัน!!"

ราชันระดับ 8 เหล่านั้นต่างกันพาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ อดไม่ได้ที่จะถอยหลังออกไปครึ่งก้าว

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งนี้ ถึงกับสามารถสังหารบอสมอนสเตอร์ระดับ 8 ได้ในเวลาไม่กี่วินาที

แม้ว่าพวกเขาก็สามารถสังหารมันได้เหมือน แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแบบนี้อย่างแน่นอน ภายในหัวใจของพวกเขาปรากฏความกลัวอย่างไร้ที่สิ้นสุดออกมา

เพราะหากการโจมตีเมื่อกี้พุ่งเป้ามาที่พวกเขา พวกเขาก็ตายอย่างแน่นอน

มันคืออะไรกันทำไมขึ้นแข็งแกร่งขนาดนี้

เป็นไปได้ไหมว่าเป็นราชันระดับ 9 ที่เพิ่งมาถึง

น่าเสียดาย

กองทัพมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาไม่เปิดโอกาศให้เขามองสำรวจไปยังรอบๆเลยแม้แต่น้อย พวกเขาคำรามพุ่งเข้าหาพวกเขาอีกครั้ง บังคับให้พวกเขาก็มีสมาธิในการรับมือกับพวกมัน

อีกด้านหนึ่ง

ณ ลานบนเกาะลอยฟ้าที่ห่างจากเกาะกลางไปหลายร้อยเมตร

หลิน ยู รู้สึกตกตะลึงอย่างมากเมื่อมองไปยังซากศพของงูหลามยักษ์ที่ล้มลงกับพื้น

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าสกิลสั่งตายหลัวเสริงด้วยเปลวเพลิงมังกรทำลายล้างจะน่าหวาดกลัวขนาดนี้ แม้แต่เกล็ดหนาของบอสมอนสเตอร์ระดับ 8 ที่มีพลังโกลาหลระดับ B ยังสามารถทะลวงและสังหารมันลงได้เวลาไม่กี่วินาที

ต้องเข้าใจก่อนว่า

แม้จะมีโบนัสค่าสถานะจากมอสชีวภาพ แต่ค่าสถานะพลังวิญญาณก็มีเพียงแค่ 1780 แต้มเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ด้วยสกิลที่ได้รับการเสริมพลัง ทำให้มันสามารถพัฒนาไปถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้ตัวมันกลางเป็นเพชรฆาตระยะไกล

และด้วยบัพจากออร่าต่างๆ ทำให้ค่าสถานะทางกายภาพของมันได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งช่วยชดเชยความต่างขั้นจากพลังแห่งความโกลาหลได้อย่างง่ายดาย

หลังจากรออยู่ประมาณ 30 วินาที มันก็ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

มันฟื้นตัวได้เร็วยิ่งกว่า ตอนนี้ ชิง กัง ใช้ เสียงคำรามแห่งโทสะซะอีก

ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่เขาพักฟื้นอยู่นั้น หลิน ยู ก็ได้วิ่งเปลี่ยนตำแหน่งไปยังเกาะลอยฟ้าอันอื่น สังหารบอสมอนสเตอร์ระดับ 8 ที่อยู่บบนเกาะกลางทีละตัว

ทุกครั้งที่เขาสังหาร เขาจะได้รับพลังต้นกำเนิด 0.1%

สำหรับพลังเวทย์มนต์ เขาก็ยังคงได้รับมันอย่างต่อเนื่อง

ใช่แล้ว

ด้วยวิธีนี้ ทำให้ เขาสังหารบอสมอนสเตอร์ระดับ 8 ได้ทั้งหมด 48 ตัวภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

ทำให้พลังงานต้นกำเนิดของเขาเพิ่มขึ้นทันทีถึง 5.2%

ด้วยความเร็วระดับนี้ เขาคิดว่าคงใช้เวลาเพียง 1 วันเพื่อทำให้มันเต็ม

การจลาจลของเหล่ามอนสเตอร์นี้เป้นสิ่งที่ดีจริงๆ

"กร๊าสสส"

ทันใดนั้น ก็เสียงคำรามอันน่าหวาดกลัวดังออกมาจากภายในรอยแยก

หลิน ยู ที่เพิ่งหาตำแหน่งในการสังหารบอสมอนเตอร์ ก้ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคำรามเขามองไปยังทิศทางนั้นด้วยความตกใจ

จากนั้นเขาก็เห็นบอสมอนสเตอร์ที่มีเก้าหัวเดินผ่านรอยแยกปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆ

ในตอนนั้นเอง

มันก็ได้ปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมากวาดไปทั่วทั้งบริเวณนี้ทั้งหมด

"นั้นมอนสเตอร์ระดับ 10! ทุกรีบถอยเร็วเข้า!!"

เสียงตระโกนของเขาดังออกมาจากเกาะกลาง ราชันทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไปทันที

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตน 2 คนก็ได้ลอยขึ้นไปในอากาศ ร่างกายของเขาระเบิดพลังที่มหาศาลราวกับทะเลที่กว้างใหญ่ เข้าโจมตีมอนสเตอร์เก้าหัวนั้น

"ตูมมม!"

พื้นที่บริเวณนั้นระเบิดออกทันที ผู้ฝึกตนทั้ง 2 เข้าปะทะกับมอนสเตอร์เก้าหัว

พลังที่น่าสะพรึงกลัวของพวกเขาทำให้มอนสเตอร์ตัวนั้นกระเด็นออกไป

พื้นที่โดยรอบ เริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นลมกรรโชกพัดไปทั่วทั้งเกาะลอยฟ้า

หลิน ยู ที่ตอบสนองไม่ทัน ถูกลมกรรโชกเหวี่ยงออกไปหลายเมตร ไปตกลงบนลาน

ระดับ 10

นี้คือผู้ฝึกตนระดับ 10 อย่างแน่นอน

หลิน ยู ตกตะลึงอย่างมากนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้ฝึกตนระดับ 10 เขาคิดไม่ถึงว่าพลังของพวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเหล่าราชันระดับ 10 เลยแม้แต่น้อย

ผลที่ตามมาทำให้เข่าอ่อนล้มลงกับพื้นทันที

การต่อสู้ระดับนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเข้าร่วมได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังได้ที่ได้ประสบกับเหตุการณ์ที่โดนดูดเข้าไปในรอยแยกเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนในอวกาศมาก่อนหน้านี้ ทำให้เขาระมัดระวังตัวมากขึ้น

เขาไม่กล้าคิดมากต่อไป หลังจากมองไปยังส่วนลึกของเกาะกลางอีกครัง เขาก็รีบเทเลพอร์ตกลับไปยังดินแดนทันที

เสียงของการฆ่าฟันดังขึ้นในหูของเขาอย่างชัดเจน

"ฟู่"

เมื่อมองเห็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย หลิน ยู ก็อดไมไ่ด้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เปิดดูหน้าช่องแชทเพื่อดูว่ามีการพูดถึงการจราจลของเหล่ามอนสเตอร์หรือไม่

"บ้าเอ้ย! เมื่อกี้ฉันกลัวแทบตาย ตอนที่มอนสเตอร์ระดับ 10 ปรากฏขึ้นในอาณาจักรลับ โชคดีที่ฉันวิ่งเร็ว"

"ฉันก็เพิ่งเทเลพอร์ตกลับมา คิดไม่ถึงอาณาจักรลับในตอนนี้เป็นพื้นๆอันตรายอย่างมาก"

"ฉันเพิ่งเคลียร์อาณาจักลับได้ มอนสเตอร์ในบ้าคลั่งสุดๆฉันเกือบจะตายอยู่ในนั้นแล้ว แต่เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ด้านนอกที่เทียบความยากระดับ B แล้วมันคนละเรื่องกันเลย"

"เทียบได้กับอาณาจักรลับระดับ B!? แม้แต่อาณาจักรลับระดับ C ฉันก้ยังผ่านมันไม่ได้ด้วยซ้ำ! "

"พี่ใหญ่ ได้โปรดพาข้าไปด้วย! ข้าต้องการผ่านอาณาจักรลับระดับ B บ้าง ข้าสามารถโจมตี แท๊งก็พอได้บ้าง อุ่นเตียงนี้งานถนัดข้าเลย"

"เหมิงซินแดนศักดิสิทธิ์นี้คืออะไร? อาณาจักรลับมันคืออะไรกัน?"

"...."

ดูเหมือนจะมีราชันหลายคนที่เหมือนกับ หลิน ยู เพิ่งจะเทเลพอร์ตกลับมายังดินแดนเพื่อนหาที่หลบภัย

เนื่องจากเหตุการณ์ ทำให้ราชันระดับ 7 และระดับ 8 ที่ธรรมดาไม่ค่อยปรากฏตัวก็เริ่มเข้ามาทีละคน ทำให้ช่องแชทเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ใช่แล้ว

พวกเขาสามารถจัดการมอนสเตอร์ธรรมดาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่กับมอนสเตอร์โกลาหลนั้น มันค่อนข้างลำบาก

โดยอย่างยิ่งพวกที่พลังโกลาหลแทรกซึมเข้าไปยังส่วนลึกแล้ว ค่าสถานะของพวกมันยิ่งผิดปกติ

สิ่งนี้ทำให้ หลิน ยู ตระหนักได้อีกครั้ง

ราชันอย่างพวกเขาสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้ด้วยการพึ่งอุปกรณ์ต่างๆ และสังหารมอนสเตอร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง

"ชั่งมันเถอะ รออยู่ในดินแดนซัก 2 3 วันก่อนก็แล้วกัน อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลานานกว่าจะสร้างอุปกรณ์ระดับ 10 ออกมาได้"

หลังจากปิดช่องแชท หลิน ยู ก็นำวัตถุดิบระดับ 10 ที่ได้รับมา มุ่งหน้าไปยังเผ่าคนแคระเพื่อมอบมันให้กับมากอร์น

"มารับมันได้ในอีก 5 วัน"

มากอร์น หยิบ วัตถุดิบเข้าไปในโลกตีเหล็กของคนแคระโดยไม่ได้หันกลับมามอง

ก่อนที่เขากำลังจะหายตัวเขา เขาก็ไม่ลืมที่จะพูดออกมา "อย่าลืมอาหารที่สัญญากับฉันไว้ละ"

"ไม่ต้องห่วงน๊า มันไม่น้อยลงกว่านั้นอย่างแน่นอน"

หลิน ยู ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จากนั้นก็หันหลังและจากไป

เขาใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ สำรวจรอบๆ เมืองหวงซาเฝ้าดูความคืบหน้าของการขยายเมืองและดูการฝึกเหล่าทหารของ เหว่ย กัง

เมื่อเข้ากลับมายังดินแดนอีกครั้งมันก็เป็นช่วงเที่ยงเข้าไปแล้ว

เขาเปิดหน้าต่างจัดการอาณาเขตเพื่อนดู

หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง รายได้ต่อวันของเมืองหวงซาได้อยู่ที่ 100000 คริสตัลพลังเวทย์/วัน และหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วมันก็ยังเหลืออีก 50000

พลังแห่งความศรัทธาเพิ่มขึ้นทุกวันๆละ 33 แต้ม เป็นเพราะผู้ลี้ภัยที่ย้ายเข้ามา

เมื่อนับรวมกับลูกแก้วแห่งความศรัทธาที่เขาใช้ไปก่อนหน้านี้ ทำให้เขามีพลังความศรัทธาอยู่เกือบ 2000 แต้มแล้ว

หากมันยังเพิ่มด้วยความเร็วระดับนี้อยู่ พลังความศรัทธาของเขาน่าจะเต็มในเวลาไม่ช้า

สิ่งที่เขาขาดในตอนนี้คือพลังเวทย์จำนวนมากเพื่อใช้สร้างมอสชีวภาพให้เพียงพอต่อทหารของเขา

ไม่อย่างนั้นด้วยความแข็งแกร่งระดับ 7 ของเขา คงต้องลำบากแน่ๆเมื่อเผชิญหน้ากับราชันระดับสูง

แต่ปัญหาคือในตอนนี้ไม่มีทางที่จะล่ามอนสเตอร์ในอาณาจักรลับได้เนื่องจากที่นั้นเกิดการจราจลอยู่ เมืองหลักก็พักรบชั่วคราวเนื่องจากเพิ่งผ่านสงครามครั้งใหญ่มา ดังนั้นจึงไม่สามารถหาราชันจากโลกหยวนซาจากที่นั้นได้

ดูเหมือนว่ารอทำได้แค่เพียงรอคอยให้การจราจลของมอนสเตอร์ผ่านไป

หลิน ยู ไม่ได้คิดมากนัก เปิดหน้าต่างขึ้นเพื่อดูการขยายอาคารต่างๆ

ในช่วงเวลาที่ เขาได้เดินทางไปมาระหว่างดินแดนกับอาณาจักรลับแร่กว่า 5000 ชิ้นถูกเติมเข้ามา

เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้วใช้แร่ 2000 ชิ้นเพื่ออัพเกรดหอคอยเวทย์ให้กลายเป็นระดับ 7 ทันที

ด้วยสิ่งนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพในการขุดดีขึ้น หอคอยเวทย์ยังสามารถสร้างคัมภีร์เวทย์ระดับ 7 เขาสามารถสร้างมันขึ้นมาเพื่อขายได้อีกด้วย

สำหรับแร่อีก 3000 ชิ้น หลิน ยู มีแผนที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างพื้นฐานในอาณาเขต

[ชื่ออาคาร : หอคอยแห่งความรู้]

[ระดับสิ่งก่อสร้าง : ระดับ 1]

[แนะนำสิ่งก่อสร้าง : ชาวเมืองสามารถเรียนรู้สกิลอาชีพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งระดับของอาคารสูงมากเท่าไร ระดับการเรียนรู้ก็ยิ่งสูงขึ้นตามเท่านั้น]

[ค่าใช้จ่ายรายวัน : 100 พลังเวทย์/วัน]

[วัสดุสำหรับก่อสร้าง : ไม้ 250 ชิ้น หิน 250 ชิ้น พลังเวทย์ 500 แต้ม]

.....

[ชื่ออาคาร : โรงเตี๊ยมอาณาเขต]

[ระดับสิ่งก่อสร้าง : ระดับ 1]

[แนะนำสิ่งก่อสร้าง : สถานที่เอาไว้ค้นหาผู้มีพรสวรรค์พิเศษและรับสมัครพวกเขา ยิ่งระดับของอาคารสูงมากเท่าไร โอกาศที่จะพบเจอผู้มีพรสวรรค์ก็ยิ่งจะสูงขึ้นตามเท่านั้น]

[ค่าใช้จ่ายรายวัน : 100 พลังเวทย์/วัน]

[วัสดุสำหรับก่อสร้าง : ไม้ 250 ชิ้น หิน 250 ชิ้น พลังเวทย์ 500 แต้ม]

.....

ก่อนหน้านี้ ประชากรของเมืองน้อยหวงซานั้นมีน้อยจนเกินไป จึงไม่จำเป็นต้องใช้อาคาร 2 หลัง นี้

แต่ในตอนนี้นั้น

เมืองหวงซาได้พัฒนาขึ้นเป็นเมืองขนาดกลางที่มีประชากรถึง 100000 คน มันต้องมีผู้มีพรสวรรค์ที่หลบซ่อนเพื่อการค้นพบอยู่อย่างแน่นอน

"เอาละ ตัดสินใจแล้วฉันเลือกอาคาร 2 หลังนี้"

ขณะที่หลิน ยู พูดนั้น เขาก็เปิดหน้าต่างการก่อสร้าง เลือกอาคารทั้ง 2 หลังสร้างภายในเมืองชั้นในของเมืองหวงซาใช้ทรัพยากรที่เหลืออัพเกตมันขึ้นเป็นระดับ 3 ทันที

แสงสว่างวาบ หอคอยที่รายล้อมด้วยอักษรรูนและโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นภายในเมืองหวงซา มันได้ดึงดูดผู้คนที่เดินทางไปมาจำนวนมากเหล่าพ่อค้าและผู้ฝึกตนต่างแวะชม

"นี้มันอาคารอะไรน่ะ?"

"ดูเหมือนจะเป็นอาคารที่ไว้ใช้เรียนสกิลอาชีพระดับสูงได้"

"สกิลระดับสูง? สกิลช่างตัดเสื้อระดับต่ำของฉันสามารถเลื่อนขั้นไปเป็นระดับกลางได้ไหม"

"น่าจะเป็นไปได้! ดูเหมือนว่าสกิลต่อสู้ก็สามารถเรียนรู้ได้เช่นกัน"

"อะไรนะ!!"

"ไปเถอะ! รีบเข้าไปดูกันเร็ว"

......

เสียงร้องพูดคุยดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน พวกเขารีบเข้าไปในหอคอยแห่งความรู้เพื่อศึกษาสกิลต่างๆ

เช่นเดียวกับโรงเตี๊ยมอาณาเขต

หลังจากที่ผู้คนพบว่าที่นั้นมีการรับสมัครเข้าร่วมกับอาณาเขตจำนวนมาก ผู้คนก็ต่างพากันหลั่งไหลไปลงทะเบียนของพวกเขากัน

หลิน ยู ประหลาดใจเมื่อเขาสามารถตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานสกิลอาชีพของพลเมืองเหล่านั้นได้

เช่นเดียวกับ เซียว ฉางกุ้ย และเหว่ยกัง

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 244