ตอนที่ 121 - บทที่ 121 จ้าวเจียเป่า!

บทที่ 121 จ้าวเจียเป่า!

ละมั่งแปดตัวนอนอยู่บนพื้น และหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะใกล้ตายแล้วก็ตาม

“ทุกคนจัดการกับเหยื่อเหล่านี้นะ พวกเราจะออกล่ากันต่อ” เฉินกัวตงกล่าวกับผู้คนที่ยังตกตะลึง

"ตกลงๆ"

มีเสียงพูดติดอ่างหลายเสียงดังขึ้น

หลังจากที่ทุกคนในทีมล่าหายไปจากสายตา ทุกคนในหมู่บ้านก็ราวกับตื่นขึ้นราวกับความฝัน

“ให้ตายเถอะ นี่ข้าฝันไปหรือเปล่า ใครก็ได้หยิกข้าหน่อยได้ไหม”

“มะ..มันไม่ควรเป็นความฝันใช่ไหม ดูสิ ละมั่งตัวนี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่”

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน? กัวตงและคนอื่นๆ เพิ่งออกไปแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น และพวกเขาก็ได้นำเหยื่อกลับมา แถมเหยื่อเหล่านี้ยังมากพอจะเลี้ยงทั้งหมู่บ้านของเราได้ครึ่งเดือน”

“ใช่ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาโชคดี และพวกเขาก็เจอมันทันทีที่ออกไป”

“โชคดีอะไรล่ะ โชคดีที่สามารถนำเหยื่อกลับมาได้มากมายขนาดนี้งั้นเหรอ? ในความคิดของข้า 90% ของเรื่องนี้เกิดจากเสี่ยวฟาน เจ้าไม่สังเกตเห็นธนูที่เขาถืออยู่เหรอ?”

“ถูกต้อง ข้ายังสังเกตเห็นด้วยว่ามันทั้งใหญ่และยาวกว่าคันเมื่อสองวันก่อนอย่างมาก นี่น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงสามารถเก็บเกี่ยวเหยื่อได้มากมายขนาดนี้!”

“พอๆ อย่าเพิ่งยืนเฉยๆ รีบไปจัดการกับเหยื่อกันดีกว่า บางทีคงอีกไม่นานที่เสี่ยวฟานและคนอื่นๆ จะกลับมาพร้อมกับเหยื่อชุดใหม่ก็เป็นได้ ฮ่าๆ” มีคนกล่าวขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

ทุกคนต่างออกมาช่วยเหลือกันพร้อมรอยยิ้มล้นบนใบหน้า

ทีมล่าจะกลับมาพร้อมเหยื่อชุดต่อไป จริงหรือป่าวนะ?

ณ ถิ่นทุรกันดาร

คนกลุ่มหนึ่งเดินอย่างไร้จุดหมาย และพวกเขาสองหรือสามคนใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมตลอดเวลา

ไม่นานก็มีคนพบเหยื่อ

พวกมันคือวัวโตเต็มวัยสองตัว หนักประมาณห้าร้อยจิน และพวกมันถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสัตว์อสูรระดับต่ำ

คนกลุ่มนั้นก็รีบวิ่งไปที่เหยื่ออย่างรวดเร็ว

ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่และมีขาที่ทรงพลัง วัวสองตัวจึงไม่สนใจกลุ่มคนในระยะไกลนั้นเลย และพวกมันยังคงเล็มหญ้าอย่างสบายใจ

หรือบางที่พวกมันอาจะคิดว่าหลังจากที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้แล้วก็ยังสายเกินไปที่พวกมันจะหลบหนีไป

อย่างไรก็ตามห่างออกไปหกถึงเจ็ดร้อยเมตร เฉินฟานก็ขึ้นสายคันธนูและน้าวจนสุดสาย หลังจากเสียงดังปัง วัวโตเต็มวัยสองตัวก็ล้มลงกับพื้นและตายตรงนั้นพร้อมกับเสียงครางเสียงอู้อี้ออกมา

ทุกคนยกนิ้วให้เฉินฟานแล้วรีบควบม้าเข้าไป

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วัวอีกสองตัวก็ปรากฏตัวขึ้นบนพื้นที่โล่งภายในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันก็มีเหยื่อเล็กๆ เช่น กระต่ายในถิ่นทุรกันดาร

จากนั้นทีมล่าก็ออกเดินทางออกไปอีกครั้ง

ในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นคนในทีมล่าหรือคนในหมู่บ้าน รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาไม่เคยจางหายไปเลย

ในทางกลับกัน กู่เซ่อกลับมีอารมณ์ค่อนข้างหดหู่

การมีเหยื่อเยอะๆ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเป็นเหมือนเด็กเก็บของและไม่มีโอกาสที่จะยิงธนูเลยด้วยซ้ำ

เดิมทีเขาเปลี่ยนเป็นคันธนูที่มีแรงน้าวถึง 100 ปอนด์ และคิดที่จะอวดมัน แต่เฉินฟานกลับไม่ให้โอกาสเขาเลย

“ทุกคน” หลิวหยงเดินเคียงข้างหวังปิงและคนอื่นๆ เตือนอย่างใจดีว่า “อย่าคิดว่าการล่าเป็นเรื่องง่าย นี่เป็นเพราะเสี่ยวฟานคนเดียวหรอกที่ทำได้รู้ไหม?”

หวังปิงและคนอื่น ๆ รีบหุบยิ้มและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

ใช่ แม้ว่าการล่าสัตว์ของเฉินฟานจะง่ายพอๆ กับการเลือกบางอย่างออกจากกระเป๋า แต่ก็ขึ้นอยู่กับความจริงที่ว่าเขาสามารถน้าวคันธนูที่มีแรงถึง 500 ปอนด์ และเขายังมีทักษะการยิงธนูที่ยอดเยี่ยมมากอีกด้วย

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีทั้งสองอย่างนี้

และหลังผ่านไปหลายชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว ก็ถึงเวลาเที่ยงวันแล้ว

ห่างออกไปหนึ่งหรือสองกิโลเมตร ทีมล่าซึ่งประกอบด้วยคนยี่สิบหรือสามสิบคนก็กำลังเดินอยู่ในถิ่นทุรกันดาร

พวกเขายังมีเหยื่อจำนวนมาก มีละมั่งสองตัวและกระต่ายป่าอีกสองสามตัว

คนสองคนที่อยู่ข้างหน้าก็มองไปรอบ ๆ ผ่านกล้องส่องทางไกล

“อืม?”

หนึ่งในนั้นอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจราวกับว่าเขาเห็นอะไรบางอย่าง

“พี่เฉา ท่านพบเหยื่อแล้วงั้นหรือ?”

“มันคืออะไร กระทิง ละมั่ง หรืออย่างอื่น?”

คนข้างหลังถามด้วยรอยยิ้มประจบประแจง

“ไม่ ข้าเห็นเฉินกัวตงและกลุ่มของเขา”

เฉาซือกวงกล่าวขึ้นแต่น้ำเสียงของเขาฟังดูแปลกๆ หรือว่าเพราะเขาเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ

“กลุ่มของเฉินกัวตงงั้นหรือ?”

จ้าวซานซึ่งถือกล้องส่องทางไกลอยู่ข้างๆ เขาก็มองไปในทิศทางที่ชายคนนั้นมอง

เมื่ออีกทีมแล้ว เขาก็อุทานออกมาอย่างแทบไม่เชื่อสายตา

“พี่จ้าว มีอะไรผิดปกติ?”

“พี่สาม ท่านเห็นอะไร”

“พี่สาม นี่คือกลุ่มของเฉินกัวตงจริงๆ งั้นเหรอ?”

กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังถามขึ้นอย่างรีบร้อน ในความเป็นจริงแล้วภายในป้องซ่งเจียเป่านั้นทุกคนเกือบทุกคนมีกล้องส่องทางไกลติดตัว แต่จ้าวซานและคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น มีเพียงเขาและคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นที่มีกล้องส่องทางไกล

เฉาซือกวงเป็นผู้ที่พูดว่า: "เฉินกัวตงและพรรคพวกของเขาได้รับเหยื่อมากมายจริงๆ พวกเขาได้รับวัวป่าจำนวนมาก ไม่สิ..วัวป่าเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นสัตว์พาหนะของพวกเขางั้นหรือ?"

“อะไรนะ สัตว์พาหนะ? พวกมันมีสัตว์พาหนะเป็นวัวป่าด้วยงั้นเหรอ?”

ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง

จริงหรือหลอกกันเนี่ย?

แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่มีสัตว์พาหนะ แล้วทำไมเฉินกัวตงและคนอื่นๆ ถึงมีมันได้ล่ะ?

ปฏิกิริยาจิตใต้สำนึกของพวกจ้าวเจียเป่าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกับเฉินกัวตงและกลุ่มของเขาในซ่งเจียเป่า ใช่แล้ว..แม้ว่าตอนนั้นดูเหมือนเฉินกัวตงมีเหยื่อมากมาย แต่ในความเห็นของพวกเขา พวกเฉินเจียไจ้ต้องเป็นแมวตาบอดที่จับหนูตายได้แน่ๆ พวกเขาแค่โชคดีอย่างมากเท่านั้น

ครั้งต่อไปพวกเขาจะไม่โชคดีเช่นนี้อย่างแน่นอน

แต่ผลลัพธ์ตอนนี้ล่ะ?

“พี่เฉา ท่านมองผิดหรือเปล่า? นั่นใช่ทีมของเฉินกัวตงจริงงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว พวกมันจะมีพาหนะเป็นวัวป่าได้ยังไงแถมยังก็มีหลายตัวอีกด้วย รู้ไหม วัวป่าเหล่านี้ราคาตัวละหลายพันหยวนเลยทีเดียว!”

“หรือว่าจะเป็นกลุ่มอื่น?”

“แม้ว่าพวกเขาจะมีคนเยอะ แต่ไม่เท่าพวกเราหรอกใช่ไหม? อิอิ”

มีคนหัวเราะความหมายก็ชัดเจนในตัวเอง

เมื่อคนอื่นได้ยินสิ่งนี้ ใจของพวกเขาก็เริ่มปั่นป่วนเช่นกัน

ถ้าฝ่ายตรงข้ามคนไม่เยอะพวกเขาก็แค่หยิบมาตรงๆ พวกเขาจะปฏิเสธของที่ส่งถึงหน้าบ้านได้อย่างไรใช่ไหม?

แต่พวกเขานั้นเต็มไปด้วยความมีเมตตา ดังนั้นพวกเขาปล่อยให้คนเหล่านั้นมีชีวิตอยู่ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าคนเหล่านั้นต้องรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี

“มันจะผิดพลาดได้ยังไง?”

โจซื่อกวงหายใจไม่ออก "นั่นคือพวกเขาจริงๆ ไม่สิ..."

เขาหยุดครู่หนึ่ง หรี่ตาลงแล้วพูดแปลก ๆว่า "ทำไมกู่เจียงไห่และคนเหล่านั้นก็อยู่ที่นั่นด้วย ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ได้แย่"

เมื่อคนด้านหลังยี่สิบหรือสามสิบคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็สับสนมากยิ่งขึ้น

สถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่?

เมื่อกี้ก็บอกว่าเป็นทีมของเฉินกัวตง และตอนนี้ก็บอกว่าเป็นทีมของกู่เจียงไห่อีกครั้ง ตกลงมันคือทีมไหนกันแน่?

"เฮือก..."

ในขณะนี้เฉาซือกวงหายใจเข้าอีกครั้ง และน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความกลัวเล็กน้อย "พวกเขามีปืนอยู่ในมือได้ยังไง?!!!"

"อะไรนะ!" หลายคนตระโกนออกมาอย่างประหลาดใจและตกใจอย่างมาก

จากนั้นบรรยากาศก็กลายเป็นนิ่งเงียบไปทันที

ทุกคนที่อยากลงมือเมื่อกี้ แต่ตอนนี้กลับเจ้ามองมาที่ข้า ข้ามองไปที่เจ้า แล้วพวกเขาก็ถอยกลับมาพร้อมกัน

ไม่น่าแปลกใจเลยที่กลุ่มคนมีม้า ซึ่งกลายเป็นว่าพวกเขามีปืนด้วย

แต่มันไม่ถูกต้อง!

พี่เฉาบอกว่าพวกเขามาจากเฉินเจียไจ่ไม่ใช่หรือ? แม้ว่ากู่เจียงไห่จะรวมอยู่ด้วย แต่พวกเขาไปเอาปืนมาจากไหน? ? ?

หลายคนจับจ้องไปที่จ้าวซาน

“พี่สาม สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง? เหมือนกับที่พี่เฉาพูดจริงๆหรือ?”

“ใช่ พี่สาม ถ้าเป็นคนจากเฉินเจียไจ้ พวกเขาไปเอาวัวป่ามาจากไหนและพวกเขาไปเอาปืนมาจากไหน แม้ว่าพวกเขาจะมีเงินซื้อมันได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถซื้อมันได้หากไม่มีใบอนุญาตซื้อจากซ่งเจียเป่า?”

พวกเขารู้สึกว่ามีมดนับหมื่นคลานอยู่บนร่างกายของพวกเขาในขณะนี้ และพวกมันจะคันแทบตายแต่ไม่สามารถเกาได้

จ้าวซานไม่ตอบ และใช้เวลาเกือบสองนาทีก่อนที่เขาจะวางกล้องส่องทางไกลลงแล้วพูดว่า "ตาเฒ่าเฉาพูดถูก คนเหล่านั้นคือ เฉินกัวตง กู่เจียงไห่ และคนอื่นๆ"

“เป็นพวกเขาจริงๆ?”

ชายที่อยู่ข้างๆ เขาถามอย่างไม่อดทน "แล้วพวกเขามีสัตว์ขี่ และพวกเขามีปืนอยู่ในมือจริง ๆ หรือเปล่า?"

ดวงตาที่ร้อนแรงหลายสิบดวงมองมาที่เขา

"อืม"

จ้าวซานพยักหน้า ดวงตาของเขาเย็นชาลงเรื่อยๆ "ไม่เพียงแต่มีเท่านั้น แต่ยังมีจำนวนมากด้วย"

"...!!"

บรรยากาศเงียบสงบอีกครั้ง และได้ยินแม้แต่เสียงลมพัด

“ข้าเห็นพวกเขานำวัวป่ามาด้วยหกตัว และวัวป่าแต่ละตัวกำลังลากเหยื่อไปอยู่”

เฉาซือกวงพูดช้าๆ "ไม่เพียงเท่านั้น ข้ายังเห็นพวกเขาสามคนถือปืน ปืนไรเฟิลสองกระบอก และปืนกลเบาหนึ่งกระบอก"

ประโยคแรกทุกคนมีความอบอุ่นเต็มหัวใจ และจากนั้นดูเหมือนกับว่าพวกเขาถูกน้ำเย็นเทลงบนหัว

ปืนไรเฟิลสองกระบอก?

และปืนกลเบาด้วยงั้นหรือ?

แม้ว่าพวกเขาจะถือธนูและลูกธนู แต่ระยะการยิงของพวกเขายังห่างไกลจากปืนไรเฟิลมากนัก

ส่วนระยะใกล้ปืนกลเบาก็อันตรายอย่างมาก!

ภายในหนึ่งหรือสองร้อยเมตรถ้าพวกเขาโดนสาดกระสุนใส่พวกเขาก็กลายเป็นรังแตนทันที!

วัวป่าหกตัว และวัวป่าแต่ละตัวกำลังลากเหยื่อ ฟังดูน้ำลายไหลอย่างมาก แต่เมื่อพิจารณาว่าอีกฝ่ายมีปืนอยู่ในมือก็ดูเหมือนต้องลืมมันซะ

มีคนหดคอแล้วก้าวถอยหลัง

บางคนยังไม่เต็มใจที่จะถอยหลังกลับ

ชายร่างสูงปที่ถือธนูแรง 100 ปอนด์พูดเสียงดังว่า “ให้ตายเถอะ ถ้าพวกเขามีปืนแล้วยังไงล่ะ มันก็แค่ปืนสามกระบอก พวกเราที่นี่มีคนจำนวนมาก ทำไมพวกเจ้ากลัวว่าพวกเราจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาหรือ?”

"ใช่แล้วล่ะ!"

ในไม่ช้าก็มีคนเห็นด้วย "นั่นก็แค่เฉินกัวตงและกลุ่มของเขา ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาใช้วิธีใดเพื่อให้ได้ปืนมาสามกระบอก แต่ทักษะการยิงปืนนั้นไม่ง่ายนักหากไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดี และพวกเราหลายคนที่นี่ก็สามารถใช้ธนูได้ ถ้าเราต่อสู้จริงๆ เรายังต้องกลัวพวกเขาด้วยงั้นเหรอ?”

“พี่ใหญ่สามไม่ต้องลังเลอะไรอีกแล้ว แค่ใช้ประโยชน์จากการที่พวกมันยังไม่เชี่ยวชาญอะไร รีบไปแย่งปืนและวัวป่าของพวกมันมาดีกว่า ถ้าพวกเขากล้าขัดขืน ฆ่าพวกเขาให้หมด! จากนั้นแย่งผู้หญิงทุกคนในเฉินมาเป็นของพวกเรา!"

"ถูกต้องแล้ว เราไปจัดการพวกเขากันเถอะ ฮ่าๆๆ!"

จากนั้นพวกเขาก็พากันหัวเราะขึ้น

ในความเห็นของพวกเขา การกระทำของพวกเขาไม่ได้ผิดอะไร

ช่างหัวไอ้กฎเกณฑ์ทางกฎหมาย ข้อจำกัดทางศีลธรรม ในวันสิ้นโลกเช่นนี้ หมัดใครใหญ่กว่าก็สามารถได้ครอบครองทุกอย่าง!

“พวกเขาเห็นเราแล้ว”

จู่ๆ จ้าวซานก็พูดอะไรบางอย่าง

"อา?"

ชายร่างใหญ่อ้าปากกว้าง “เมื่อกี้ท่านพูดว่าอะไรนะ พวกมันเห็นพวกเราแล้วงั้นหรือ?”