ตอนที่ 135 - บทที่ 135 ข้าจะอยู่รอพวกจ้าวต้ากลับมา!

บทที่ 135 ข้าจะอยู่รอพวกจ้าวต้ากลับมา!

เฉินฟานขมวดคิ้ว

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการรังแกพวกเขาเกินไป ถ้าเขาต้องลงมือกับคนเหล่านี้

อย่างไรก็ตามเขาอยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่ยังไม่มีใครออกมาเลย เป็นไปได้มากว่าจ้าวต้าและคนอื่น ๆ จะไม่อยู่ที่นี่จริงๆ

เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาออกไปตามหาจ้าวซานและกลุ่มของเขา?

“เจ้าหนู เจ้าจะออกไปหรือไม่ ข้าจะนับถึงสาม..ถ้าเจ้ายังไม่ออกไปหลังจากนับถึงสามแล้ว ข้าก็จะลงมือแล้ว”

เสียงนี้ดังขึ้น

บนหอสังเกตการณ์ มีคนน้าวสายธนูจนสุดสาย และก็เล็งลูกธนูมาที่เฉินฟาน

"ให้ข้าออกไปงั้นเหรอ?"

เฉินฟานยิ้มเล็กน้อย “ข้ายังไม่ได้รับคนไปเลย แล้วข้าจะออกไปได้อย่างไร?”

ดูเหมือนว่าจ้าวต้าและคนอื่น ๆ จะไม่อยู่ที่นี่จริงๆ

“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าพวกเราไม่กล้าที่จะยิงเจ้าอย่าง…”

ตู้เฟิงพูดไปได้ครึ่งทางแล้ว ก็มีเสียงเร่งรีบดังขึ้นข้างหลังเขา

“เสี่ยวฟาน!”

จากนั้นทุกคนก็จ้องมองไปที่ผู้พูดเป็นตาเดียว

“เสี่ยวฟาน เจ้ากลับไปเถอะ”

เว่ยเทียนกงทนไม่ไหวอีกต่อไปและพูดอย่างกังวล: "กัวตงขอให้เจ้ามาใช่ไหม? ข้าไม่ได้บอกไปแล้วเมื่อตอนที่เราเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อไร? เราที่นี่สบายดี ดังนั้นพวกเจ้าจึงไม่ต้องกังวล "

“ใช่ เสี่ยวฟาน เจ้ากลับไปก่อนเถอะ”

"เราขอขอบคุณในความมีน้ำใจของเจ้า"

หลายๆ คนยังพูดอีกว่า น้ำเสียงมีทั้งอารมณ์เศร้าและสะเทือนใจ

บรรดาผู้ที่มาที่จ้าวเจียเป่าจากเฉินเจี่ยไจ้นั้น มองไปที่เฉินฟานอย่างกังวลใจ แม้ว่าเขาจะมารับพวกเขา แต่ทำไมเขาถึงมาคนเดียว?

แม้ว่าพวกเฉิวกัวตงจะมาทั้งหมดพวกเขาก็ไปกับพวกเฉินกัวตงไม่ได้ มันจะทำให้ทั้งพวกเขาและทั้งพวกเฉินกัวตงตกอยู่ในอันตราย

“เจ้าหนู เจ้ามาจากหมู่บ้านเฉิน!”

ตู้เฟิงอุทาน

“อะไร เขามาจากเฉินเจียไจ้งั้นหรือ?”

คนที่ถืออาวุธต่างตกตะลึง

เฉินฟานหมดหนทางเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดว่าจะได้พบกับพวกเว่ยเทียนกงและคนอื่นๆ เร็วขนาดนี้เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

แต่พวกเขากับได้มาพบกันตั้งแต่แรก อีกอย่างจะว่าพวกเขาก็ไม่ได้..ที่พวกพูดออกมานั้นพวกเขามีเจตนาดี

แต่ตอนนี้เนื่องจากจ้าวต้าและคนอื่น ๆ ไม่อยู่ที่นี่ ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญอะไร

“ลุงเว่ย”

เขามองไป “ถูกต้อง พ่อของข้าขอให้ข้ามา..แต่ไม่ต้องกังวล ข้าจะพาพวกท่านออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยในภายหลัง”

“เสี่ยวฟาน...”

เมื่อเว่ยเทียนกงและคนอื่น ๆ ได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของพวกเขาก็แดงก่ำ

ทั้งสะเทือนใจและละอายใจอย่างมาก

“เสี่ยวฟาน กลับไปเถอะ”

เว่ยเทียนกงหายใจเข้าลึก ๆ "กลับไปบอกกัวตงว่าพวกเราเสียใจต่อเขา"

ให้พวกเขากลับไปที่หมู่บ้านเฉินงั้นเหรอ?

แน่นอนว่าเขาก็ต้องการกลับไปเหมือนกัน

แต่อย่างไรก็ตาม เขาแอบสังเกตมาเป็นเวลานานและดูเหมือนว่าเฉินฟานจะมาคนเดียวจริงๆ

ไม่ต้องพูดถึงว่าเฉินฟานสามารถจากไปอย่างปลอดภัยพร้อมกับพวกเขาหลายคนได้หรือไม่ แม้ว่าพวกเขาสามารถกลับไปได้ แต่เมื่อจ้าวต้ากลับมาและรู้เรื่องนี้ หมู่บ้านเฉินก็อาจจะถึงคราวอวสาน!

"ไปงั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเจ้าจะกลับไปได้งั้นเหรอ?!"

จู่ๆ ตู้เฟิงก็แสดงสีหน้าดุร้ายบนใบหน้าของเขา โดยจ้องมองไปที่เฉินฟานอย่างดุเดือดและพูดว่า "เจ้าหนูตัวเหม็น เจ้ามาจากหมู่บ้านเฉินและตั้งใจจะมาก่อความวุ่นวายที่นี่และสามารถเดินกลับไปได้อย่างสบายใจงั้นเหรอ?"

หลายคนที่อยู่ข้างหลังเขาเยาะเย้ยกัน

พวกเขาคิดว่าเด็กที่อยู่ข้างหน้าพวกเขานั้นเป็นผู้แข็งแกร่งมาจากไหน

มันกลับกลายเป็นว่าเขามาจากเฉินเจียไจ้ ในตอนแรกพวกเขาคิดว่ากำลังเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจเสียอีก

“หมายความว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยคนไปงั้นเหรอ?”

เฉินฟานหรี่ตาลงเล็กน้อย

เขาไม่อยากฆ่าคน แต่ถ้าอีกฝ่ายอยากตาย..นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

“ปล่อยคนเหรอ ที่นี่คือจ้าวเจียเป่าที่เข้าง่ายออกยากไม่รู้เหรอ?”

“ถูกต้อง เจ้าหนู ตอนนี้เจ้าเป็นพระโพธิสัตว์ร่างโคลนแล้ว และเมื่อข้ามแม่น้ำมาเจ้าก็ช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว เจ้ายังคิดหวังจะพาคนอื่นออกไปอีกเหรอ ข้าบอกเลยว่าเจ้าได้แค่ฝัน!”

“เจ้าหนู วางอาวุธลงบนพื้นซ่ะ แล้วเราสามารถพิจารณาปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไป”

หลายคนคุยกันราวกับว่าพวกเขาไม่ได้จริงจังกับเฉินฟานมากนัก

เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่แข็งแกร่งของเฉินเจียไจ้อยู่ที่นี่หมดแล้ว และผู้ที่ทรงพลังที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลพวกเขาคือ เว่ยเทียนกงและคนอื่นๆนั่นเอง

"พวกเจ้าไม่ปล่อยคนงั้นเหรอ"

ทันทีที่เฉินฟานพูดจบ เจตนาฆ่าก็ระเบิดออกมาในดวงตาของเขา

หอกในมือของเขาสั่นราวกับสายฟ้า เขาแทงหลายครั้งติดต่อกัน

ตู้เฟิง พร้อมด้วยผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขา บินกลับหัวออกไป ก่อนที่จะตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อมองดูหน้าอกอีกครั้ง มีรูเลือดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นแล้ว และเลือดก็ไหลออกมาอย่างล้นเหลือ

“ยิงธนู! ยิงธนู!”

คนสองคนบนหอสังเกตการณ์รีบดึงสายธนูออกมาเมื่อเห็นสิ่งนี้

"ฟุบ!"

"ฟุบ!"

เสียงยิงธนูดังขึ้นสองเสียงติดต่อกัน

เฉินฟานกวัดแกว่งหอกยาวของเขา และด้วยเสียงดังกริ้งสองครั้ง เขาก็สามรารถบล็อกลูกธนูที่เข้ามาได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นจึงกระโดดขึ้น ภายใต้สายตาที่หวาดกลัวของทั้งสองคนบนหอ เขากระโดดตรงไปยังหอสังเกตการณ์สูงห้าหรือหกเมตร และแทงพวกเขาทะลุเกราะบางที่พวกเขาสวมใส่

ตุบ! ตุบ!

ศพตกลงจากหอสังเกตการณ์ลงไปที่พื้น

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาน้อยกว่าสองวินาที

รอบข้างกลายเป็นนิ่งงัน

ทุกคนตกใจมากจนไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ และพากันยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน

เกิดอะไรขึ้น?

ตู้เฟิงที่หยิ่งยโสและครอบงำผู้คนเมื่อกี้กลับถูกฆ่าตายในพริบตางั้นหรือ?

เว่ยเทียนกงและคนอื่น ๆ ก็ไม่มีข้อยกเว้น หรือต้องบอกว่าอันที่จริงหัวใจของพวกเขายิ่งตกตะลึงกว่าทุกคน!

เพราะพวกเขารู้จักเฉินฟาน ในความทรงจำของพวกเขาเฉินฟานเป็เพียงชายหนุ่มธรรมดาๆ ที่มีบุคลิกขี้อายและมีความสามารถธรรมดาๆทั่วไป

แต่เมื่อกี้มันคืออะไร?

พวกเขาไม่เห็นว่าเฉินฟานแทงหอกของเขาอย่างไรด้วยซ้ำ หลังจากนั้นตู้เฟิงและคนอื่นๆ ก็บินออกไปและเสียชีวิตทันที

แล้วจากนั้น..?

เขาก็ป้องกันลูกธนูสองลูกที่ยิงออกมาพร้อมกัน และกระโดดสูงห้าหรือหกเมตรในการกระโดดเพียงครั้งเดียว!

เป็นไปได้ไหมว่าเฉินฟานเป็นนักรบแล้ว ไม่สิ..ด้วยความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมานี้เขาเป็นนักรบของเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อแล้วอย่างนั้นหรือ?

เฉินฟานยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์และมองไปไกล แต่ไม่มีวี่แววของใครเลยบนพื้นที่รกร้าง

เขาจึงกระโดดลงจากหอสังเกตการณ์ทันที

จากนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ต่างพากันคุกเข่าลงพร้อมเพรียงกัน กราบไหว้และขอความเมตตาจากเขา

"ยกโทษให้ข้าด้วย ยกโทษให้ข้าด้วย"

“ได้โปรดอย่าฆ่าพวกเราเลย… ”

พวกที่ยังยืนอยู่เห็นดังนั้นก็รีบคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ในทันใดก็มีเพียงเฉินฟาน, เว่ยเทียนกง และคนอื่นๆ เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่

เฉินฟานมองดูฉากนี้แล้วถอนหายใจแล้วพูดว่า "พวกเจ้ากำลังทำอะไร ลุกขึ้นเถอะ คนพวกนั้นต้องการโจมตีข้าและข้าแค่โจมตีกลับเท่านั้น มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้า"

ทุกคนต่างตกตะลึง

“ทุกคนลุกขึ้น เสี่ยวฟานไม่มีเจตนาร้าย”

เว่ยเทียนกงพูดเสริม

“ใช่ ทุกคนเคยได้ยินสิ่งที่ตู้เฟิงและคนอื่นๆ พูดมาก่อน ถ้าเสี่ยวฟานไม่ทำอะไร เขาจะเป็นคนที่จะถูกฆ่า”

"ทุกคนลุกขึ้นเถอะ"

เว่ยเทียนหยวนและคนอื่น ๆ พากันไปประคองพวกเขา

จากนั้นทุกคนก็ลุกขึ้นอย่างอย่างกังวล แต่ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และพวกเขาก็ไม่กล้าสบตากับดวงตาของเฉินฟานเลย

เฉินฟานส่ายหัว คนเหล่านี้คุ้นเคยกับการถูกกดขี่โดยจ้าวต้าและคนอื่น ๆ และพวกเขาก็เหมือนกับนกที่หวาดกลัว เป็นเรื่องปกติที่จะมีปฏิกิริยาเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพิจารณาเรื่องเหล่านี้

“ลุงเว่ย สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? แล้วจ้าวต้าและคนอื่นๆ ล่ะ?”

เว่ยเทียนกงมองเฉินฟานด้วยสายตาที่ซับซ้อนแล้วพูดว่า: "จ้าวซานพาคนออกไปล่าสัตว์เมื่อวานนี้ แต่เขายังไม่กลับมาในตอนกลางคืน ดังนั้นจ้าวต้าจึงขอให้พวกเราทุกคนออกมาและรอที่นี่ จากนั้นเขาจึงมากจ้าวเออร์และอีกหลายคนที่ออกไป..ยังไม่กลับมา "

"ข้าเข้าใจแล้ว"

เฉินฟานพยักหน้า

ดังนั้น เขาจึงมาได้ถูกจังหวะและสามารถเข้ามาในจ้าวเจียเป่าอย่างง่ายดาย

เขาเหลือบมองเหล่าคนผอมโซและหน้าซีดที่อยู่ตรงหน้า และรู้สึกขอโทษในใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านี้ต้องลำบากเพราะเขาเป็นคนฆ่าจ้าวซานและคนอื่นๆ

“กลับไปพักผ่อนเถอะ อย่ารออยู่ที่นี่เลย”

อย่างไรก็ตาม ทุกคนมองมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครกล้าขยับ

“เสี่ยวฟาน พวกเขากลัวว่าจ้าวต้าจะกลับมาทีหลัง มันจะแย่มากถ้าพวกเขารู้ว่าทุกคนไม่ได้ยืนรออยู่ที่นี่”

เว่ยเทียนกงพูดพร้อมถอนหายใจออกมา

จากนั้นคิ้วของเขาก็ย่นเป็นปมเช่นกัน

ตู้เฟิงและผู้คนอีกหลายคนถูกฆ่าตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง

แต่ในบรรดาคนที่ถูกฆ่าเหล่านี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นก็เป็นแค่นักรบขอบเขตการชำระล้างร่างกายขั้นแรกเท่านั้น และพวกเขาล้วนเป็นคนที่ไม่มีนัยสำคัญอะไรเลย

คนที่จัดการได้ยากจริงๆ คือจ้าวต้าและจ้าวเออร์ คนหนึ่งอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อ และอีกคนอยู่ในขั้นตอนกลางของขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อ

เฉินฟานแข็งแกร่งมากจริงๆ หรืออาจจะแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา

แต่เขาคนเดียวเขาจะจัดการกับคนสองคนได้งั้นหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น เฉินฟานยังฆ่าคนของพวกเขาแล้ว ซึ่งหมายความว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาระหว่างสองหมู่บ้าน

เว้นแต่พวกเขาจะฆ่าคนที่นี่ทั้งหมด ด้วยวิธีนี้แม้ว่าจ้าวต้าจะกลับมา เขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ

แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำไม่ได้ และไม่คิดที่จะทำด้วยซ้ำ

“ลุงเว่ย”

เฉินฟานยิ้มให้เว่ยเทียนกง "ข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร แต่ตั้งแต่ที่ข้ามาที่นี่ ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะจากไปเร็ว ๆ นี้"

“เสี่ยวฟาน เจ้าหมายถึงอะไร”

ดวงตาของเว่ยเทียนหยวนเบิกกว้าง

“ข้าหมายความว่า.. ข้าอยากจะอยู่ที่นี่และรอให้จ้าวต้าและคนอื่น ๆ กลับมา”

เฉินฟานกล่าวอย่างหนักแน่น

เมื่อฆ่าแล้วต้องตัดรากถอนโคนให้หมดสิ้น

แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนฆ่าจ้าวซาน แต่ด้วยการที่เขาเป็นคนฆ่าคนเหล่านี้ที่อยู่บนพื้น และในขณะเดียวกันด้วยการที่เขาพาลุงเว่ยและคนอื่น ๆ ออกไป มันก็จะเป็นการก่อความแค้นกับอีกฝ่ายเหมือนเดิม

รู้อย่างนี้แล้ว แต่ยังแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและการจากไปแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ของเขาจริงๆ