ตอนที่ 133 - บทที่ 133 หอกปาจี้ขั้นสมบูรณ์แบบ

บทที่ 133 หอกปาจี้ขั้นสมบูรณ์แบบ

ในขณะนี้เฉินฟานอดไม่ได้ที่จะคิดถึงพี่สาวของเหมิงหยู ในฐานะผู้อเวคซึ่งมักใช้ความสามารถของตัวเองบ่อยๆ เธอไม่ควรอ่อนแออย่างแน่นอน

เพียงว่าเธออาจจะต่อสู้ไม่เก่งมากนัก และเหมิงหยูคือจุดอ่อนของเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น

“อันที่จริง ข้าก็ไม่รู้เกี่ยวกับพวกเขามากนัก หากเจ้าเจอคนเหล่านี้ในอนาคตเจ้าต้องระวังตัวให้มากไว้ ความสามารถของพวกเขาแปลกประหลาดเกือบทุกชนิด ถ้าเจ้าไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับพวกเขา ก็อย่าขัดแย้ง”

การแสดงออกของจางเหรินจริงจังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

เพราะยังไงซ่ะท้ายที่สุดแล้ว ผู้อเวคทุกคนก็เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์เท่านั้น

แม้ว่าจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง แต่ต่อหน้าผู้อเวคที่ทรงพลังเหล่านั้น ก็ไม่ต่างจากมดปลวกตัวหนึ่ง

เฉินฟานพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แต่คิดอยู่ในใจ..ใครสามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตล่ะ

ดวงตาของกู่เซ่อ แสดงให้เห็นความปรารถนาออกมาเช่นกัน

บรรยากาศเงียบสงบครู่หนึ่ง และเฉินฟานกล่าวขึ้นว่า

“ลุงจาง มันใกล้ดึกแล้ว..เราไปฝึกซ้อมหอกกันหน่อยไหม?”

ตอนนี้ทักษะการใช้หอกขั้นพื้นฐานของเขาอยู่ที่ระดับ 4 เท่านั้น และเห็นได้ชัดว่ายังห่างไกลจากเพียงพอที่จะเติมเต็มเทคนิคหอกปาจิอันยิ่งใหญ่ด้วยแต้มค่าประสบการณ์ที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"ดี"

จางเหรินยังรู้สึกคันไม้คันมือเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว

ครั้งที่แล้วเขาใช้เพียงความแข็งแกร่งของขอบเขตการชำระล้างร่างกายที่สามเพื่อฝึกซ้อมเทคนิคการใช้หอกกับเฉินฟาน ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเฉินฟานเพิ่มขึ้นมากแล้ว และเขาก็สามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งได้มากขึ้นแล้ว

เวลาผ่านไปทุกนาทีและทุกวินาที และความเชี่ยวชาญของเทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐานก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความรวดเร็วมันพัฒนาจากระดับ 4 สู่ระดับ 5 และระดับ 6

เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง และเทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐานก็ได้รับการเพิ่มระดับอีกครั้ง

【เทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐาน: ระดับ 7 (0.8%) คุณสมบัติเฉพาะ: ความแข็งแกร่งทางกายภาพระดับ 7 ความแข็งแรงระดับ 7 ความคล่องตัวระดับ 7 ชำนาญอาวุธยาวระดับ 7 การสังหารอย่างแม่นยำระดับ 4 ความเร็วระดับ 1 】

【ความเร็ว: แต่ละระดับที่เพิ่มขึ้น ความเร็วของการใช้หอกจะเพิ่มขึ้น 30% 】

เฉินฟานเหลือบมองมัน

ในที่สุดคุณสมบัติใหม่ก็ถูกปลดล็อคแล้ว และยังเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความเร็วของการใช้หอกอีกด้วย

ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเทคนิคการใช้หอกก็ต้องอาศัยความเร็วเช่นกัน

เวลาผ่านไปอีกสองชั่วโมง ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว

ตอนนี้ทั้งสองทีอยู่ในสนามกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด

พร้อมกับการปะทะที่เสียงดังฟังชัด ทั้งสองแยกจากกัน

"เจ้าใช้ได้นิ"

มีแววของการยอมรับในสายตาของจางเหรินและเขากล่าวว่า "เทคนิคการใช้หอกของเจ้าพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างมาก หากเจ้ายังพัฒนาในระดับนี้ต่อไป ข้ากังวลมากว่าวันหนึ่งข้าจะไม่เป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า"

“ลุงจางไม่ต้องยกยอข้าเกินไป และแน่นอนว่านั่นคือเป้าหมายหนึ่งของข้าเช่นกัน”

เฉินฟานยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ และมองไปที่เทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐาน

【เทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐาน: ระดับ 10 (0.8%) คุณสมบัติเฉพาะ: ความแข็งแกร่งทางกายภาพระดับ 10 ความแข็งแรงระดับ 10 ความคล่องตัวระดับ 10 ชำนาญอาวุธยาวระดับ 10 สังหารอย่างแม่นยำระดับ 7 ความเร็วระดับ 4 】

แค่คืนเดียวเทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐานของเขาก็เพิ่มขึ้นถึง 6 ระดับ

แต่กลับมีการปลดล็อคคุณสมบัติใหม่เพียงอันเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคนิคการใช้หอกขั้นพื้นฐานระดับ 10 การเรียนรู้เทคนิคหอกปาจี้ต่อไปน่าจะง่ายกว่ามาก

“มันดึกแล้ว วันนี้เราพอแค่นี่กันเถอะ” จางเหรินวางหอกลงพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

เขาไม่ได้สนุกเหมือนวันนี้มานานแล้ว

เฉินฟานพยักหน้า

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยังไม่บอกแผนการของเขาออกมา

เพราะสิ่งที่เขาพูดออกไปตอนนี้จะเป็นการทำให้ลุงจางและคนอื่น ๆ กังวลใจเปล่าๆ และถ้าลุงเว่ยและคนอื่น ๆ ประสบอุบัติเหตุ พวกเขาก็จะมีความสุขเก้ออีกครั้ง

เขาเดินทางไปด้วยตัวเองเลยดีกว่า ถ้าลุงเหว่ยและคนอื่นๆยังสบายดี ก็ถือซ่ะว่าเป็นการทำให้ทุกคนประหลาดใจ

หลังจากบอกลาจางเหรินแล้ว เฉินฟานก็กลับบ้านไปอาบน้ำ และมองไปที่แถบทักษะ

【เทคนิคหอกปาจี้: ขั้นไม่รู้อะไรเลย (0%) 】

แถวสีเทาด้านหลังหายไป เห็นได้ชัดว่ามันถูกปลดล็อคแล้ว

พรุ่งนี้เขาจะไปที่จ้าวเจียเป่า หากอยู่ในระยะไกลเขาสามารถใช้ธนูต่อสู้ได้ แต่ถ้าเข้าไปในระยะใกล้เขาจะต้องใช้หอกต่อสู้

นอกจากนี้ไท่จี้ฉวนและปาจี้ฉวนของเขายังอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบอีกด้วย  ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเลยหากต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่า

“เมื่อเทียบกับการชกมวยแล้ว เทคนิคหอกนั้นยากกว่า ข้าไม่รู้ว่าเหลือแต้มค่าประสบการณ์ที่เหลือมากกว่า 100 แต้มจะเพียงพอที่จะเติมเต็มเทคนิคหอกปาจี้อันยิ่งใหญ่นี้หรือไม่?”

เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง และเพิ่มแต้มค่าประสบการณ์ลงไป 1 แต้ม

และเขาก็ได้เห็นว่าค่าความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นหนึ่งในสี่

สี่แต้มเมื่อเทียบกับปาจี้ฉวน มันถือว่าใช้เยอะกว่ามาก

เขาเพิ่มค่าประสบการณ์อีกสามแต้ม จากนั้นก็จ้องไปที่แถบทักษะ

เขาไม่รู้ว่าเทคนิคหอกปาจี้นี้จะปลดล็อคคุณสมบัติพิเศษแบบไหน

【เทคนิคหอกปาจี้: ขั้นเริ่มต้น (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: แข็งแกร่งระดับ 1 , ความสง่างามระดับ 1, หอกแห่งชีวิตระดับ 1]

【หอกแห่งชีวิต: แต่ละระดับที่เพิ่มขึ้น เมื่อใช้หอกทำการป้องกันได้ การโจมตีครั้งต่อไปจะเพิ่มความเร็วขึ้น 30% 】

ไม่จำเป็นต้องพูดว่า สองคุณสมบัติแรกมันเพิ่มค่าสถานะสองอันแรกเหมือนกัน

แต่ละระดับสามารถเพิ่มค่าสถานะได้ถึง 8 แต้ม

คุณสมบัติหอกแห่งชีวิตนี้เทียบเท่ากับการรวมคุณสมบัติสามประการของชำนาญอาวุธยาว การสังหารอย่างแม่นยำ และความเร็ว

หากเขาเลื่อนระดับมันให้อยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบ มันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

"ไม่เลวๆ"

เฉินฟานคิดกับตัวเอง

เมื่อดูที่แถบทักษะ เขาก็เพิ่มแต้มค่าประสบการณ์ลงไปอีก และเห็นว่าค่าความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นหนึ่งในสิบ

หลังจากนั้นเขาก็เพิ่มแต้มค่าประสบการณ์ลงไปอีก 9 แต้มอีกครั้ง ไม่มีความรู้สึกอื่น นอกจากสมรรถภาพทางกายและความแข็งแรงได้รับการปรับปรุง

"ดูเหมือนว่าคุณสมบัติใหม่จะไม่ได้ปลดล็อค"

【เทคนิคหอกปาจี้: ขั้นความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: แข็งแกร่งระดับ 2 , ความสง่างามระดับ 2, หอกแห่งชีวิตระดับ 2]

เขาเหลือบมองที่แต้มค่าประสบการณ์ และเหลืออีกประมาณ 140 แต้ม

ครั้งนี้หลังจากใช้แต้มค่าประสบการณ์ 20 แต้ม ความรู้สึกแปลกๆ ก็เข้ามาในใจของเขา

【เทคนิคหอกปาจี้: ขั้นผู้เชี่ยวชาญ (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: แข็งแกร่งระดับ 3, ความสง่างามระดับ 3, หอกแห่งชีวิตระดับ 3, ภูผาถล่มระดับ 1]

【ภูผาถล่ม: ทักษะใช้งาน หลังจากเปิดใช้งาน จะใช้พลังงานเลือดจำนวนเล็กน้อย เพิ่มพลังโจมตีของหอกเป็นสองเท่า และลดการใช้พลังงานเลือดลงหนึ่งในสิบสำหรับแต่ละระดับที่เพิ่มขึ้น】

“ทักษะที่เปิดใช้งานด้วยพลังงานเลือดงั้นหรือ?”

เฉินฟานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ทักษะสุดท้ายที่ใช้พลังงานเลือดคือลูกศรดาวตกเหลียงจู้ของเทคนิคลูกศรดาวตก และตอนนี้ก็มีอีกอันหนึ่งแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากคำอธิบายของทักษะนี้ การพัฒนาครั้งนี้ก็ถือว่าไม่เลว

มันเพิ่มพลังของการใช้หอกเป็นสองเท่า

และเมื่อระดับทักษะเพิ่มขึ้น พลังงานเลือดที่ใช้ก็จะลดลงเช่นกัน ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และยังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุงอีกสองระดับ

ดังนั้นเขาจึงดำเนินการเพิ่มระดับต่อไป

ครั้งนี้เขาใช้แต้มค่าประสบการณ์ 30 แต้ม

และเทคนิคหอกปาจี้ได้รับการยกระดับถึงขั้นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่ที่เฉินฟานาประหลาดใจคือมันไม่มีการปลดล็อคคุณสมบัติใหม่

“เป็นไปได้ไหมว่าประสิทธิภาพของทักษะภูผาถล่มนั้นรุนแรงเกินไป ทำให้ไม่มีการปลดล็อคคุณสมบัติเพิ่มอีก?”

เฉินฟานคิดกับตัวเอง

โดยไม่รู้ตัว จู่ๆก็มีความคิดผุดขึ้นมาในใจของเขา หรือว่ามันจะไม่ปลดล็อกคุณสมบัติใหม่หลังจากถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้วหรอกนะ?

ไม่..ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลย!

เฉินฟานรีบขับไล่ความคิดนี้ออกจากใจของเขา และมองไปที่แต้มค่าประสบการณ์ ยังมีแต้มเหลืออยู่ 70 แต้ม และไม่น่าจะมีปัญหาในการเติมเทคนิคหอกปาจี้

หลังจากเพิ่มแต้มค่าประสบการณ์ 1 แต้ม ความเชี่ยวชาญก็เพิ่มขึ้น 2%

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง และเขาก็เติมเต็มแต้มค่าประสบการณ์โดยตรงทันที

【เทคนิคหอกปาจี้: ขั้นสมบูรณ์แบบ (ไม่สามารถปรับปรุงได้), คุณสมบัติเฉพาะ: ความแข็งแกร่งระดับ 5, ความสง่างามระดับ 5, หอกแห่งชีวิตระดับ 5, การภูผาถล่มระดับ 3, หอกทลายเอกภพระดับ 1]

【หอกทลายเอกภพ: ทักษะใช้งาน หลังจากเปิดใช้งานจะสูบพลังงานเลือดจำนวนมากมาใช้ในคราวเดียว จะทำให้ความเร็วในการโจมตี พลังในการโจมตีเพิ่มขึ้นสองเท่า และระเบิดพลังทำลายล้างขึ้นเป็นสองเท่า】

“ฮึก นี่...”

หลังจากอ่านแล้ว เฉินฟานรู้สึกว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่ต้องใช้เพื่อเผด็จศึกขั้นเด็ดขาด

ด้วยคุณสมบัติต่างๆของเทคนิคหอกนี้จะทำให้พลังโจมตีของทักษะนี้เพิ่มเป็นสามเท่า ดังนั้นทุกคุณสมบัติก่อนหน้าของหอกล้วนจะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ขาดกันไม่ได้

พลังการทำลายล้างที่มากมายมหาศาลมาก

แต่ราคาที่ต้องจ่ายคือมันจะใช้พลังงานเลือดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหมายความว่าเขาจะเข้าสู่สภาวะอ่อนแอทันทีหลังจากใช้ทักษะนี้ และหลังจากนั้น มันไม่น่าจะใช้ทักษะใด ๆ ที่ต้องใช้พลังงานเลือดได้อีก

มันคู่ควรกับคำว่าทลายเอกภพจริงๆ

เฉินฟานตัดสินใจใช้มันท่าไม้ตาย ด้วยการที่มันจะใช้พลังงานเลือดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เมื่อถึงคราวจำเป็นเท่านั้น

และถึงจะมีผลกระทบที่ร้ายแรง แต่เขาก็ไม่กังวล

เพราะเขาเพิ่มระดับของเขาได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกังวลกับความอ่อนแอจากการถูกสูบพลังงานของเลือดไป

“งั้นพอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน นอนพักก่อนพรุ่งนี้เช้าต้องออกเดินทางแต่เช้า”

เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เตียง

……..

วันถัดมา

ท้องฟ้าสดใสเล็กน้อย และทางเข้าของจ้าวเจียเป่าก็แน่นไปด้วยผู้คน

หลายคนหน้าซีดและจ้องมองอย่างหมองคล้ำราวกับคนตาย

“ถ่างตาไว้นะทุกคน! หากใครกล้าหลับที่นี่ รอพี่ใหญ่จ้าวและคนอื่นๆกลับมาดูว่าเขาจะจัดการกับพวกเจ้าอย่างไร!”

ผู้ชายหลายคนลาดตระเวนไปมาในฝูงชน

หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดัง

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็รีบกระตุ้นตัวเองให้ตื่นตัวไว้

จ้าวต้าบอกให้พวกเขายืนอยู่ที่นี่ทั้งคืนรอให้จ้าวซานและคนอื่นๆกลับมา

แต่พวกเขาไม่ได้โง่ ทุกคนรู้ดีว่าถิ่นทุรกันดารในเวลากลางคืนนั้นเป็นจะเต็มไปด้วยสัตว์อสูร แม้ว่าจ้าวซานและคนอื่นๆจะไม่เกิดอุบัติเหตุอะไร แต่พวกเขาก็จะไม่กลับมาในเวลากลางคืนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามจ้าวต้าแค่อยากให้พวกเขารอ

หลังรุ่งสาง เขาจะพาคนสองสามคนไปข้างนอกเพื่อค้นหาที่อยู่ของจ้าวซานและคนอื่นๆ

ส่วนทำไมเขาไม่ให้คนอื่นๆออกไปช่วยตามหานั้น เหตุผลก็ง่ายมาก พวกเขากังวลว่าคนอื่นๆจะฉวยโอกาสนี้หลบหนีไป ด้วยเหตุนี้เขาจึงให้บางคนอยู่ที่นี่เพื่อคอยควบคุมพวกเขา

"พี่ใหญ่"

เว่ยเทียนหยวนมองไปที่เว่ยเทียนกงที่อยู่ข้างๆ และชี้ไปที่ประตูด้วยนิ้วของเขา

ตอนนี้จ้าวต้าและคนอื่น ๆ ไม่อยู่ที่นี่ ก็เป็นเวลาที่ดีที่จะหลบหนีออกไปจากที่นี่

หากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับจ้าวซานและคนอื่นๆ จ้าวต้าจะต้องระบายความโกรธต่อพวกเขาเมื่อเขากลับมาอย่างแน่นอน

แต่หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น สถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ดีขึ้นมากนัก

ดวงตาของเว่ยเทียนกงขยับเล็กน้อย

แต่เขาสังเกตเห็นว่าคนสองคนยืนอยู่ที่ประตูและอีกสองคนบนหอสังเกตการณ์ถือคันธนูและลูกธนูอยู่ในมือ เขาจึงยังคงส่ายหัว…

……………