ตอนที่ 296 : สืบทอดมรดกผู้กล้า! ความซาบซึ้งของเฟิงลั่ว!

อีกด้านหนึ่ง โจวโจวก็ก้มหัวให้ซุนซือเหมี่ยวและบรรพบุรุษคนอื่น และกลับไปยังปราสาทของลอร์ดของเขา

เมื่อโจวโจวกลับมา เขาก็เห็นทหารคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าปราสาทของเขาแล้ว

เมื่อเขาเห็นโจวโจว เขาก็เดินเข้ามาทันทีและกล่าวด้วยความเคารพว่า

“รายงานท่านลอร์ด ข้ามีข่าวจากวิหารอัศวินมารายงาน พวกเขาอยากจะเชิญท่านลอร์ดไปพูดคุยบางเรื่อง”

โจวโจวอึ้ง

จากนั้นเขาก็ตอบสนอง

พวกเขาน่าจะรู้ว่าเขาเลื่อนอันดับสู่อันดับเทวะขั้นสูงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงอยากจะคุยกับเขา

เขาเตรียมการเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเล็กน้อยและให้อีกฝ่ายนำทางไป

หลังจากนั้นไม่นาน ณ ห้องประชุมลับในวิหารอัศวิน

เมื่อโจวโจวมาถึง เขาก็เห็นร็อบกำลังรอเขาอยู่แล้ว

นอกเหนือจากเขา มันก็ยังมีราชาอัศวินอเวจีไป่เหออยู่ด้วย เขากำลังนั่งอยู่บนที่นั่งหลัก

หลังจากโจวโจวทักทายทั้งสองคนด้วยความสุภาพ เขาก็ได้ยินไป่เหอพูดว่า “นั่งลงสิ”

เขาไม่ได้มากพิธีและนั่งลงด้วยรอยยิ้ม

“พวกเรารู้แล้วว่าเจ้าได้เลื่อนอันดับขึ้นเป็นอันดับเทวะขั้นสูง พวกเราจะไม่ถามว่าเจ้าทำได้ยังไง อย่างไรก็ตาม พวกเราก็จะไม่เมินเฉยกับเรื่องที่เจ้านำเกียรติยศมาสู่เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเรา พวกเราจึงได้จัดการประชุมสามกษัตริย์ขึ้นมาเพื่อหารือถึงรางวัลที่ควรมอบให้แก่เจ้า”

“สุดท้าย พวกเราจึงได้ตัดสินใจตัดสินใจว่าจะมอบโอกาสอีกครั้งในการสืบทอดมรดกผู้กล้าระดับมหากาพย์ให้กับเจ้า”

ไป่เหอกล่าว

หลังจากเขาพูดจบ ไม่เพียงแต่โจวโจวเท่านั้นที่อึ้งไป แต่ร็อบที่อยู่ข้างๆ เขาก็ยังอึ้งไปด้วย

ระดับมหากาพย์?

บ้าไปแล้ว!?

มันไม่ใช่ระดับเหนือสามัญงั้นเหรอ?

อย่างไรก็ตาม เขาก็มีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่โจวโจวและอดเดาะลิ้นไม่ได้

ดูเหมือนว่าเบื้องบนของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะให้คุณค่ากับอีกฝ่ายสูงกว่าที่เขาคิดไว้มาก

ลอร์ดมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าของเขาผู้นี้คือคนที่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดจากสรรพเผ่าพันธุ์ได้!

ด้วยความสำเร็จเช่นนี้ พวกเขาก็ควรวางเดิมพันและเลี้ยงดูเขาอย่างจริงจัง

โจวโจวประหลาดใจและมีความสุขมาก

เขาไม่เคยคิดเลยว่าไม่เพียงแต่อีกฝ่ายจะไม่ถามเท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังมอบผลประโยชน์เช่นนี้ให้กับเขา!

มรดกผู้กล้าระดับมหากาพย์!

ไป่อี้มีมรดกผู้กล้าในระดับนี้!

ส่วนของอู๋ซินก็อยู่แค่ระดับเหนือสามัญเท่านั้น!

พรสวรรค์แห่งลอร์ดวิหารอัศวินอันนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์เลย!

โจวโจวคิด

เขาไม่ต้องการวิธีการของอีกฝ่ายในการเลี้ยงดูอัศวินเนื่องจากพวกเขาใช้เวลานานในการเลี้ยงดู

อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการได้มรดกผู้กล้ามานั้นก็ไม่เลวเลย

นอกจากนี้ นี่ยังเป็นแค่ผลประโยชน์ชั่วคราวเท่านั้น

เขาจะต้องได้รับผลประโยชน์อื่นๆ อีกแน่ในอนาคต

“นี่สำหรับเจ้า”

ไป่เหอพลิกมือขวาของเขา และตราสีทองสองอันก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาโยนพวกมันให้กับโจวโจว

โจวโจวรับมันมาดู

ตราทั้งสองมีคำว่า ‘ปราชญ์’ สลักไว้ด้านหน้า

ส่วนด้านหลังก็มีคำว่า ‘วิญญาณผู้กล้า’ สลักเอาไว้

“ด้วยตราวิญญาณผู้กล้าทั้งสองอันนี้ เจ้าสามารถเข้าและออกโถงวิญญาณผู้กล้าได้อย่างอิสระพร้อมกับผู้สืบทอดมรดกผู้กล้าที่เจ้าเลือกจนกว่าเจ้าจะสืบทอดมรดกผู้กล้าไปจนครบทั้งสองอัน แต่เจ้าต้องจำไว้ว่ามรดกผู้กล้าคือมรดกที่ล้ำค่าที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา เจ้าต้องเลือกผู้สืบทอดมรกดผู้กล้าอย่างจริงจัง อย่าทำให้มรดกผู้กล้าทั้งสองอันนี้ต้องเสื่อมเสียและอย่าทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราผิดหวัง”

“นอกจากนี้ หลังจากผู้ได้รับเลือกให้สืบทอดมรดกผู้กล้าที่เจ้าเลือกยอมรับมรดกผู้กล้าและมีความสามารถในการทิ้งมรดกผู้กล้าไว้แล้ว เจ้าต้องกลับมาและทิ้งมรดกผู้กล้าของพวกเขาไว้ที่นี่ นี่คือคำขอเดียวของพวกเราเท่านั้น มันเป็นคำขอที่จำเป็นสำหรับการสืบทอดมรดกผู้กล้าของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

ไป่เหอพูดอย่างจริงจัง

“ไม่มีปัญหาขอรับ”

โจวโจวตกลงทันที

อย่างไรก็ตาม เขาก็สงสัยเล็กน้อย

“เมื่อผู้กล้าที่มีชีวิตอยู่ทิ้งมรดกผู้กล้าไว้เบื้องหลัง เมื่อมีคนยอมรับมรดกผู้กล้าที่ถูกทิ้งไว้ ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถสร้างผู้กล้าได้เป็นจำนวนมากเหรอ?”

โจวโจวถาม

“แน่นอนว่าไม่ ”

“มรดกผู้กล้าเป็นมรดกพิเศษที่ได้รับการยอมรับโดยเจตจำนงสูงสุด มรดกผู้กล้าจะมีผลเมื่อผู้กล้าคนนั้นตายไปแล้วเท่านั้น เมื่อผู้กล้ายังมีชีวิตอยู่ มรดกผู้กล้าที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังก็จะไม่สามารถใช้โดยผู้อื่นได้”

ไป่เหอกล่าว

โจวโจวพยักหน้าในขณะที่เขาครุ่นคิด

เขาลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะบอกอีกฝ่ายเรื่องไป่อี้และนาเดีย

“งั้นทำไมพวกเธอถึงมีมรดกผู้กล้าอันเดียวกัน?”

โจวโจวถามด้วยความสงสัย

“เจ้าพบเจอโอกาสเช่นนั้นจริงๆ เหรอ?”

ก่อนที่ไป่เหอจะได้พูดอะไรออกมา ร็อบก็อดอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจไม่ได้

“มันหายากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

โจวโจวประหลาดใจ

“สิ่งที่หาได้ยากคือคัมภีร์ลับมรดกผู้กล้า มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆ เมื่อเทียบกับการสืบทอดจากวิญญาณผู้กล้าที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยหอวิญญาณผู้กล้าของพวกเราแล้ว คู่มือลับมรดกผู้กล้าถือได้ว่าเป็นสมบัติในตำนานที่สามารถเก็บกักพลังของมรดกผู้กล้าที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยผู้กล้าคนนั้นหลังจากความตายได้”

“นอกจากนี้… แม้ว่าผู้กล้าที่ทิ้งมรดกผู้กล้าอันนั้นไว้จะถูกคืนชีพ แต่มันก็ไม่สามารถริบโชคชะตาผู้กล้ากลับคืนไปได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงมีมรดกผู้กล้าเหมือนกัน”

โจวโจวประหลาดใจ

คู่มือลับมรดกผู้กล้ามีความสามารถเช่นนี้ด้วยจริงๆ

เขาโชคดีมากที่ได้รับไอเท็มเช่นนี้มาในตอนนั้น

หลังจากคุยกันสักพัก โจวโจวก็ขอตัวลาและจากไป

จากนั้นเขาก็เดินไปที่ทางเข้าวิหารอัศวิน ในขณะที่เขากำลังจะเรียกทหารจากดินแดนของเขามา เขาก็เห็นเฟิงลั่วกำลังยืนอยู่ที่ประตูแล้ว

ในเวลานี้ เขาก็กำลังสวมเกราะและอาวุธชุดใหม่ และดูสง่างามมาก

“ขอบคุณมากขอรับท่านลอร์ดสำหรับอาวุธและชุดเกราะ! นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้ใช้ชุดเกราะและอาวุธที่ทรงพลังและเหมาะสมเช่นนี้”

ใบหน้าของเฟิงลั่วเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ในขณะที่เขาพเนจรไปมาและไม่มีฝ่ายใดสังกัด แม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งในระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงแล้ว แต่ไอเท็มที่เขาใช้ก็ยังอยู่ในระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้นเท่านั้น ซึ่งในจำนวนนี้ ชุดเกราะของเขานั้นก็ยังอยู่ในระดับทองคำเหลืองขั้นสูงด้วยซ้ำ

เขายังได้พยายามหาไอเท็มจากการจัดการกับมอนสเตอร์แห่งหมอก

อย่างไรก็ตาม เขาก็ตระหนักได้ว่ามันไม่มีอะไรดรอปออกมาเลยแม้ว่าเขาจะสังหารมอนสเตอร์แห่งหมอกไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้ไป

จนกระทั่งตอนนี้ อู๋ซินก็มาหาเขาและบอกว่าท่านลอร์ดได้บอกให้เขาพาอีกฝ่ายไปยังโกดังของดินแดนเพื่อเลือกเช็ตไอเท็มระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงที่เหมาะสมกับเขา

หลังจากได้ไอเท็มพวกนี้มา เขาก็มาเพื่อขอบคุณโจวโจวทันที

โจวโจวยิ้ม

เขาสามารถบอกได้เลยว่าระดับอุปกรณ์สวมใส่ของอีกฝ่ายนั้นต่ำเกินไป ดังนั้นเขาจึงบอกให้อู๋ซินไปหาอุปกรณ์สวมใส่ที่เหมาะสมให้กับเขา เพราะเขามีพรสวรรค์ระดับเทวะ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตระหนี่เลย

นอกจากนี้มันยังต้องเป็นอุปกรณ์สวมใส่ระดับแพลตตินั่มขั้นสูงด้วย เพราะมอนสเตอร์แห่งหมอกระดับทองคำเหลืองขั้นสูงก็สามารถดรอปพวกมันออกมาได้แล้ว

เขาได้สะสมไอเท็มไว้เป็นจำนวนมากในโกดัง แต่ก็ไม่มีใครสามารถใช้พวกมันได้เลยเพราะระดับของมันสูงเกินไป

การมอบมันให้กับเฟิงลั่วจึงไม่ได้สูญเปล่า

จากนั้นเขาก็มองดูความภักดีของอีกฝ่าย

เขาตระหนักได้ว่าความภักดีของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นจาก 89 มาเป็น 94 แล้ว

ความภักดีระดับนี้…

โจวโจวคิด

จากนั้นเขาก็มองไปที่เฟิงลั่ว

“อุปกรณ์สวมใส่พวกนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย ข้ามีของขวัญที่ดีกว่าที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า แต่ถ้าเจ้ายอมรับของขวัญนี้ เจ้าก็จะต้องทำงานให้ข้าไปตลอดชีวิตที่เหลือ เจ้ารับได้ไหม?”

เขาถามอย่างจริงจัง

“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งขอรับ!”

เฟิงลั่วกล่าวโดยไม่ลังเล

แม้ว่าเขาจะเพิ่งมาถึง แต่ทุกสิ่งที่เขาได้เห็นมาจนถึงตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้านายที่ชาญฉลาดและมีเมตตา!

มันมีโอกาสที่จะยุติโลกที่วุ่นวายนี้ได้ด้วยซ้ำ!

นี่คือสิ่งที่เขาต้องการที่สุด!

ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะเป็นลูกน้องของโจวโจวไปตลอดชีวิตที่เหลือ!

“ตกลง! งั้นก็มากับข้า”

โจวโจวหันหลังกลับและเดินไป

“ท่านลอร์ด พวกเราจะไปไหนกัน?”

เฟิงลั่วมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัยในขณะที่เขาเดิน

สถานที่แห่งนี้มันอะไรกัน? ทำไมมันถึงได้ยิ่งใหญ่เช่นนี้…

“ข้าจะช่วยเจ้าเลือกมรดกผู้กล้า”

โจวโจวพูดโดยไม่หันกลับไปมอง

เฟิงลั่วอึ้ง