“ประวัติผู้กล้าถูกอัพเดตแล้วเหรอ?”
โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อย
มันเป็นเพราะเธอได้ต่อสู้กับผู้กล้าของอีกฝ่ายและทำให้มันล่าถอยไปได้
พูดตามตรง เขารู้สึกอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าไปอี้สามารถไล่ปีศาจศรวิญญาณเหมันต์กลับไปได้
ตามความเข้าใจของเขา ปีศาจศรวิญญาณเหมันต์คือผู้กล้าระดับเหนือสามัญขั้นกลางเลย!
แต่ไป่อี้เป็นแค่ผู้กล้าระดับเพชรขั้นต้นเท่านั้น
แม้ว่ามันจะมีระดับโชคชะตาที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่มันก็ไม่น่าจะมากจนถึงไป่อี้จะเหนือกว่าอีกฝ่ายที่มีระดับสูงกว่าได้ใช่ไหม?
แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง
โจวโจวเปิดประวัติผู้กล้าของไป่อี้ขึ้นมาดูพร้อมกับคำถามในใจของเขา
จากนั้นเขาก็รู้เหตุผล
[ลูกน้อง: ไป่อี้ (ผู้กล้า)]
[สมญานามผู้กล้า: เอลฟ์ศรเพลิงโลหิต]
[ระดับโชคชะตา: โชคชะตาผู้กล้าระดับตำนาน (เทียม)]
[ดินแดน: ดินแดนตะวันสาดแสง]
[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเพชรขั้นต้น]
[ความสามารถโดยรวม: ผู้กล้าที่มีทั้งสายเลือดของเอลฟ์ไม้และมนุษย์ ร่างกายของเธอมีพลังงานที่ทรงพลังและมีความสามารถในการใช้ธนูพลังธาตุ เธอคือผู้กล้าที่สามารถทำให้ศัตรูสั่นสะท้านด้วยความกลัวในสนามรบได้!]
[สายเลือด: สายเลือดมนุษย์ (ระดับเงินขาวขั้นกลาง) (75%), สายเลือดเอลฟ์พฤกษาระดับสูง (ระดับมหากาพย์ขั้นสูง) (25%)]
[ทักษะ: ทักษะผู้กล้า–ห่าลูกศรเพลิงโลหิต, ทักษะผู้กล้า–รักษาขวัญกำลังใจให้มั่นคง, ทักษะผู้กล้า–ทัพไร้สดับ, ทักษะผู้กล้า–ลูกศรหมาป่าละโมบกลืนกิน, ทักษะเพ่งกระแสจิตต้นไม้แห่งชีวิตระดับตำนานขั้นสูง, ทฤษฎีค่ายกลศึกระดับเพชรขั้นต้น, การควบคุมธาตุไม้ระดับเพชรขั้นต้น, การควบคุมธาตุไฟระดับเพชรขั้นต้น, การควบคุมธาตุโลหิตระดับเพชรขั้นต้น…]
[ความภักดี: 100]
[ศักยภาพ: ระดับตำนาน]
[ประวัติผู้กล้า: 1. ภายใต้ความเมตตาของลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าตะวันสาดแสง เธอได้รับมรดกผู้กล้าแห่งเอลฟ์ศรเพลิงโลหิตและได้กลายเป็นเอลฟ์ศรเพลิงโลหิตรุ่นที่สอง! คะแนนชื่อเสียงประจำตัวของผู้กล้า+1 ชื่อเสียงประจำเผ่าพันธุ์เอลฟ์+10,000 ชื่อเสียงประจำทวีปจื้อเกา+5! 2. เอลฟ์ศรเพลิงโลหิตไป่อี้บรรลุเส้นทางของค่ายกลทัพและค่อยๆ เข้าใจวิธีการปลดพันธนาการของตัวเองและกลายเป็นผู้กล้าระดับตำนาน! 3. เพื่อปกป้องอาณาจักรพันธมิตร เอลฟ์ศรเพลิงโลหิตได้นำทหาร 500 คนเข้าต่อกรกับกองทัพมอนสเตอร์แห่งหมอก 600,000 ตัวและใช้พลังของลูกธนูเพื่อทำร้ายผู้กล้าระดับเหนือสามัญขั้นกลาง และทำลายจิตวิญญาณของการต่อสู้ของศัตรูลง!]
[หมายเหตุ: ยิ่งมีประวัติผู้กล้ามากเท่าไร มันก็ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีระดับโชคชะตาของผู้กล้าเป็นระดับตำนานได้]
ดวงตาของโจวโจวเบิกกว้างขึ้น
สุดยอด!
ประวัติผู้กล้าอีกสองอัน?!
นอกจากนี้ประวัติผู้กล้าอันที่สองยังระบุด้วยว่าไป่อี้ได้เข้าใจเส้นทางของผู้กล้าระดับตำนานผ่านการบรรลุเส้นทางของค่ายกลทัพ!
ผู้กล้าระดับตำนาน!
มันเป็นรองแค่ผู้กล้าระดับเทวะเท่านั้น!
มันกล่าวได้ว่ามันคือจุดสูงสุดแล้ว
ไม่กี่วันก่อน ไป่อี้บอกเขาว่าเธอได้มีความเข้าใจในตัวเธอเองเกี่ยวกับค่ายกลหมาป่าละโมบเห่าหอนจันทราแล้ว
โจวโจวไม่ได้คาดคิดถึงเรื่องนี้เลย เขาจึงดีใจมาก
มันไม่สูญเปล่าเลยที่เขาทุ่มความพยายามและทรัพยากรเป็นจำนวนไปกับไป่อี้!
นอกจากนี้ โจวโจวยังตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
นั่นคือ ความก้าวหน้าของผู้กล้าดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับความถนัดและสายเลือด
มันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขสำหรับผู้กล้าที่จะก้าวหน้าต่อไป มันมักจะเป็นเพราะคนนี้ได้ทำสิ่งที่พิเศษบางอย่าง
โจวโจวครุ่นคิด
ในกรณีนั้น แม้แต่สิ่งมีชีวิตธรรมดาที่มีศักยภาพต่ำมากก็อาจมีโอกาสกลายเป็นผู้กล้าได้
เขาส่ายหัวและหยุดคิดเกี่ยวกับมัน
ในเวลานั้นเอง ไป่อี้ก็ได้นำกองทัพกลับมาที่เมืองแล้ว และทหารที่เฝ้าเมืองอยู่ก็ปิดประตูเมืองลงอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่กองทัพของอีกฝ่ายได้สูญเสียผู้บัญชาการไปเพราะผู้กล้าของพวกมันได้หลบหนีไปเพราะอาการบาดเจ็บ กองทัพจึงวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย และในชั่วขณะหนึ่งจึงไม่มีศัตรูหน้าไหนบุกมาที่กำแพงเมือง
“รายงานท่านลอร์ด! พวกเราทำภารกิจสำเร็จแล้ว!”
ไป่อี้กล่าวด้วยความเคารพ
เจิ้งหยูและคนอื่นๆ มองเธอด้วยความกลัว
ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าแม่ทัพสาวผู้นี้คือผู้กล้า
โจวโจวพยักหน้าและยิ้ม
“ไป่อี้ เจ้าทำให้หลายๆ คนประหลาดใจครั้งใหญ่เลย!”
“ทั้งหมดเป็นเพราะท่านลอร์ดและความช่วยเหลือของท่านอาจารย์อู๋ซินและพี่น้องคนอื่นๆ เลยเจ้าค่ะ!”
ไป่อี้ไม่ได้ออกหน้ารับเพียงคำเดียว
“เจ้าพูดถูก แต่ก็อย่าถ่อมตัวไปนักเลย ไว้ข้าจะมอบรางวัลให้กับเจ้านะ”
โจวโจวยิ้ม
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลอร์ด!”
ไป่อี้กล่าว
แม้ว่าเธอจะรับใช้ท่านลอร์ดเพียงเพราะเธอจงรักภักดีต่อเขาและไม่ได้สนใจรางวัลใดๆ แต่มันก็ต้องบอกว่ารางวัลทุกอย่างจากท่านลอร์ดนั้นช่างสุดยอดยิ่งนัก
“น่าเสียดายจริงๆ ที่ระดับโชคชะตาผู้กล้าของข้ายังไม่ถึงระดับตำนาน มิฉะนั้นลูกศรของข้าก็อาจจะสามารถสังหารมันได้และลูกศรเพียงดอกเดียวนั้นก็คงจะไม่ปล่อยให้มันสามารถหลบหนีไปแบบบาดเจ็บสาหัสได้…”
ไป่อี้พูดอย่างไม่เต็มใจเท่าไร
เมื่อคนที่อยู่รอบๆ ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็เดาะลิ้นอยู่ภายในใจ
ท่านต้องการสังหารอีกฝ่ายเลยเหรอ?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เจ้าตะวันสาดแสงพูดต่อมาก็ทำให้พวกเขาทุกคนต้องอึ้งไปอีก
“หลบหนีไปแบบบาดเจ็บสาหัสได้เหรอ? ไม่จริงน่า”
โจวโจวยิ้ม
ราวกับว่ามันกำลังตอบสนองต่อคำพูดของเขา
ในทันทีที่เขาพูดจบ การแจ้งเตือนเรื่องการสังหารก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
[สัตว์เลี้ยงของท่าน ราชามังกรลาวาหายนะ—เนซาริโอ้ สังหารปีศาจศรวิญญาณเหมันต์ระดับเหนือสามัญขั้นกลาง—อู๋ซิน (ผู้กล้าสีชาดระดับอาณาจักร) ได้รับพลังงานเสริมแกร่ง+40 ล้าน! สามารถเก็บไอเท็มดรอปได้แล้ว!]
[พรแห่งเทพสงคราม: เนซาริโอ้ได้รับพลังงานเสริมแกร่งเพิ่มเติม 800 ล้าน!]
[ประวัติผู้กล้าของสัตว์เลี้ยงของท่าน ราชามังกรลาวาหายนะ—เนซาริโอ้ถูกอัพเดต!]
[ประวัติผู้กล้าของลูกน้องของท่าน เอลฟ์ศรเพลิงโลหิต—ไป่อี้ถูกอัพเดต!]
โจวโจวรู้สึกได้ถึงพลังงานเสริมแกร่งในร่างกายของเขา ซึ่งมีมากกกว่า 90% ได้เพิ่มขึ้นมาอีก 1% ในทันใด
ในเวลานั้นเอง…
“โฮก!”
เสียงคำรามของมังกรได้ดังก้องออกมา ราวกับว่ามันกำลังดีใจ
อึดใจต่อมา ร่างสีดำแดงที่ดุร้ายซึ่งสูงถึง 800 เมตรก็บินมาทางเมืองมหาอำนาจพร้อมด้วยความร้อนอันน่าสะพรึงกลัวของดินแดนอัคคีที่ไม่มีที่สิ้นสุด
มันคือราชามังกรลาวาหายนะ—เนซาริโอ้!
ตอนแรกทุกคนก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เมื่อโจวโจวบอกว่ามันคือพวกเดียวกัน ทุกคนก็ตกใจและดีใจขึ้นมา
พวกเขามองเข้าไปใกล้ๆ และก็พบว่ากรงเล็บของมังกรมีร่างอันอ่อนแรงร่างหนึ่งอยู่
“ใครกัน? ทำไมมันถึงเหมือนกับปีศาจศรวิญญาณเหมันต์เลย?”
เจิ้งหยูตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
“ช่างคล้ายคลึงกันเสียนี่กระไร! มันคือมอนสเตอร์ตัวนั้น ปีศาจศรวิญญาณเหมันต์! มัน…”
เขาตื่นเต้นจนตัวสั่น จนสุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมา
เขาคุกเข่าลงกับพื้น ร่างกายของเขาที่เป็นดั่งภูเขาลูกหนึ่งได้ร่ำไห้ออกมาเหมือนกับเด็ก
ทหารที่อยู่รอบๆ เองก็มีปฏิกิริยาเหมือนกันและดวงตาของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
เพราะเมื่อวาน หนึ่งในสามผู้กล้าแห่งอาณาจักรออโรร่าอย่างนักเวทจิตวิญญาณทมิฬได้ตายลงตรงหน้าของเมืองมหาอำนาจเพราะเขาอยากจะปกป้องพวกเขาและเมืองแห่งนี้เอาไว้