ตอนที่ 200 : เทคโนโลยีการแปรธาตุระดับเพชรขั้นกลาง – ไททันแสงเทวะ! ข่าวจากเจิ้งฝูกุ่ย!

โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อย

ทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของนักเล่นแร่แปรธาตุระดับเพชรขั้นกลางคนนี้ดูเหมือนจะมีไว้เพื่อเทคโนโลยีการแปรธาตุระดับเพชรขั้นกลางอย่างไททันแสงเทวะ หรือไม่มันก็เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการแปรธาตุไททันแสงเทวะนี้

ส่วนทักษะอื่นๆ นอกจากนั้นก็เป็นเทคโนโลยีแปรธาตุระดับต่ำอื่นๆ ซึ่งโจวโจวก็มองดูและรู้สึกไม่ได้สนใจเท่าไร

สายตาของเขามองกลับมาที่ไททันแสงเทวะ

เขาเปิดรายละเอียดของมันขึ้นมาดู และก็คิดถึงภาพยนตร์บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินเรื่องหนึ่งที่เขาเคยดูในทันทีหลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดของมัน

แปซิฟิกริม!

ไททันแสงเทวะที่อีกฝ่ายศึกษามานั้นมีความคล้ายคลึงกับสุดยอดจักรกลยักษ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อจัดการกับสัตว์ประหลาดใต้น้ำในแปซิฟิกริม!

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่จางเค่อซวนสร้างไททันแสงเทวะขึ้นมาก็ไม่ใช่เพื่อจัดการกับมอนสเตอร์ใต้น้ำ แต่เพื่อจัดการกับอาณาจักรต่างเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรออโรร่า!

มันคืออาณาจักรไททัน ซึ่งมีเผ่าพันธุ์ไททันอาศัยอยู่ภายใน!

แม้ว่าเผ่าพันธุ์ไททันจะมีจำนวนประชากรน้อยมาก แต่พวกมันก็มีขนาดร่างกายที่ใหญ่มาก

โดยปกติแล้ว ไททันที่โตเต็มวัยจะมีความสูงมากกว่า 20 เมตร

ส่วนราคาไททันที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นก็มีความสูงมากกว่า 50 เมตรเลย!

ไททันเหล่านี้เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์และใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในยุคหิน แต่พวกมันก็เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งในการต่อสู้ที่สูงมาก ดังนั้นพวกมันจึงรับมือได้ยากมาก

หนึ่งในวิธีการสำคัญที่อาณาจักรออโรร่าสามารถใช้เพื่อต่อต้านไททันเหล่านี้ทางตะวันตกเฉียงเหนือได้ก็คือไททันแสงเทวะที่จางเค่อซวนสร้างขึ้นมานั่นเอง!

โจวโจวเดาะลิ้น

พระเจ้าช่วย กลายเป็นว่าชาวเมืองในทางตอนเหนือของอาณาจักรออโรร่ากำลังดูแปซิฟิกริมหรือไม่ก็แอทแทคออนไททันอยู่ทุกๆ วันเลย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็อยากจะไปดูมันบ้างเหมือนกัน

“ผู้อาวุโสจาง มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนถ้าข้าต้องการสร้างไททันแสงเทวะในเมืองตะวันสาดแสง?”

โจวโจวถาม

“ท่านลอร์ดอยากฟังความจริงงั้นเหรอ?”

จางเค่อซวนลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะพูดออกมา

“แน่นอนสิ”

“งั้นข้าก็จะพูดแบบตรงไปตรงมาเลยนะขอรับ ตามความเห็นของข้า มันคงไม่มีปัญหาอะไรที่จะสร้างผลิตภัณฑ์การแปรธาตุระดับต่ำจากรากฐานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเล่นแร่แปรธาตุในปัจจุบันและรากฐานความสามารถของเมืองตะวันสาดแสง อย่างไรก็ตาม มันก็จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีถ้าจะต้องให้สร้างของอย่างไททันแสงเทวะขึ้นมา”

จางเค่อซวนกล่าว

โจวโจวอึ้งไปในทันที

ไม่ต่ำกว่า 1 ปีงั้นเหรอ?

เขาเพิ่งอยู่ในทวีปจื้อเกามาแค่ 12 วันเท่านั้นเอง

เขาคงต้องเลิกสนใจในไททันแสงเทวะนี้ไปก่อน เขาเลิกคิดที่จะสร้างมันขึ้นมาในเมืองตะวันสาดแสงไปก่อน ถ้าเขาต้องการพวกมันจริงๆ เขาก็แค่ต้องซื้อพวกมันมาจากอาณาจักรออโรร่าก็เท่านั้น

แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอาณาจักรออโรร่าจะยอมขายพวกมันให้กับเขาไหม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสร้างไททันแสงเทวะขึ้นมาได้ แต่คำพูดอีกฝ่ายก็เตือนให้โจวโจวรู้ว่าตอนนี้มันได้เวลาสร้างรากฐานทางอุตสาหกรรมของเทคโนโลยีการแปรธาตุหรือกระทั่งรากฐานของเทคโนโลยีของดาวเคราะห์สีน้ำเงินในดินแดนของเขาแล้ว

สิ่งนี้จะช่วยเขาจากสถานการณ์เช่นนี้ได้ในอนาคต

เขาหยุดคิดเกี่ยวกับมันและเอาพิมพ์เขียวอันหนึ่งออกมาจากแหวนมิติของเขา

มันคือพิมพ์เขียวเทคโนโลยีการแปรธาตุของปืนใหญ่พลังงานหมอกระดับทองคำเหลืองขั้นสูงนั่นเอง!

“ผู้อาวุโสจาง ข้าฝากเรื่องพิมพ์เขียวนี้ไว้กับท่านด้วย ดินแดนของพวกเราต้องการอาวุธโดยด่วน ผู้อาวุโสจาง ท่านสามารถเริ่มผลิตมันได้ทันทีเลยหลังจากที่เรียนรู้มันแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องวัตถุดิบ ดินแดนของพวกเราจะรับผิดชอบเอง”

โจวโจวยื่นพิมพ์เขียวให้กับเขาและพูดออกมา

เนซาริโอ้อาจจะมองว่าเป็นหนึ่งในอาวุธของเขาได้ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นไพ่ตายใบสำคัญที่สุดของโจวโจว เขาจึงไม่อยากจะใช้มันออกไปง่ายๆ

ดังนั้นเขาจึงต้องการอาวุธที่ใช้ในสมรภูมิอย่างปืนใหญ่พลังงานหมอกนี้ ซึ่งเป็นอาวุธโจมตีระยะไกลและไม่เพียงแต่จะสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ แต่มันยังสามารถใช้ในศึกทางน้ำได้ด้วย

เมื่อจางเค่อซวนได้ยินคำพูดของโจวโจว เขาก็รับมันมาดูด้วยความสงสัย เขาประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นพิมพ์เขียวนี้

“ปืนใหญ่พลังงานหมอก!? ท่านลอร์ดมีพิมพ์เขียวนี้ด้วยเหรอ?” เขามองมาที่โจวโจวด้วยความประหลาดใจ

“ทำไมเหรอ? ไม่ใช่ว่าปืนใหญ่พลังงานหมอกก็ถูกใช้อย่างแพร่หลายเหรอ?”

นั่นคือสิ่งที่พิมพ์เขียวได้ระบุไว้

โจวโจวมองไปยังจางเค่อซวน

เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่นและส่ายหัว

“ปืนใหญ่พลังงานหมอกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุโนม และพวกโนมก็อยู่ห่างจากอาณาจักรออโรร่าของพวกเราไปไม่ต่ำกว่าหลายร้อยล้านกิโลเมตร”

“ดังนั้นแม้ว่ามันจะมีชื่อเสียงและถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่นี่ก็ไม่ได้รวมถึงพื้นที่อาณาจักรออโรร่า พวกเราเคยได้ยินเกี่ยวกับมันเท่านั้น แต่ก็ไม่มีใครรู้วิธีสร้างปืนใหญ่พลังงานหมอกเลย ข้าจึงไม่คิดว่าท่านลอร์ดจะมีมัน”

เขาถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์อันหลากหลาย

โจวโจวกะพริบตา

จากนั้นเขาก็ไม่คิดอะไรมากเกี่ยวกับมัน ในความเห็นของเขา หอคอยออโรร่านั้นก็ดุดันกว่าปืนใหญ่พลังงานหมอกมาก มันแค่ติดปัญหาเรื่องการเคลื่อนย้ายก็เท่านั้น

นอกจากนี้ แกนพลังงานของมันยังเป็นคริสตัลออโรร่า ซึ่งค่อนข้างหาได้ยาก ทำให้พลังและระยะการโจมตีของปืนใหญ่พลังงานหมอกนั้นด้อยกว่าหอคอยออโรร่ามาก

อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบของมันคือพลังงานของมันที่ธรรมดาและหาได้ง่ายมาก

นอกจากนี้มันยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและสามารถใช้ในทะเลได้ด้วยซ้ำ

พวกมันต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง

ในเวลานั้นเอง เขาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

หรือว่าเขาจะขายปืนใหญ่พลังงานหมอกให้กับอาณาจักรออโรร่าบ้างหลังจากที่มันถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก?

เขาคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ปัดตกความคิดนี้ทิ้งไป

ในเวลานี้เขาไม่ได้ขาดแคลนเงินแล้ว และยังไม่ได้มีความต้องการอะไรอื่น มันคงจะไม่สายเกินไปที่จะขายพวกมันถ้าเขาต้องการอะไร

หลังจากนั้นจางเค่อซวนก็เรียนรู้พิมพ์เขียวนี้ในทันที

หลังจากโจวโจวคุยกับอีกฝ่ายสักพัก จางเค่อซวนก็จากไป

หลังจากเขาจากไป โจวโจวก็เปิดตลาดซื้อขายขึ้นมาและตั้งข้อเสนอเพื่อซื้อวัสดุสำหรับการสร้างปืนใหญ่พลังงานหมอก

ราคาของการสร้างปืนใหญ่พลังงานหมอกระดับทองคำเหลือง 1 กระบอกนั้นเท่ากับแกนหมอกระดับทองคำเหลือง 20 ชิ้น

เขาตั้งข้อเสนอสำหรับปืนใหญ่พลังงานหมอก 100 ชุด ซึ่งเป็นเงินถึง 1,000 แกนหมอกระดับทองคำเหลือง

หลังจากนั้นเขาก็ปิดหน้าจอของตลาดซื้อขายลงไป ต่อมาเขาก็บอกให้อาลีย่าไปเรียกเจิ้งหยวนฉีมาหาเขาและบอกอีกฝ่ายเกี่ยวกับต้นตะวันหยก

หลังจากเจิ้งหยวนฉีทราบเรื่องเกี่ยวกับต้นตะวันหยก เขาก็สัญญาทันทีว่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนทะเลทรายตะวันสาดแสงให้กลายเป็นโอเอซิสให้เร็วที่สุด

หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันต่อสักพัก ก่อนที่เจิ้งหยวนฉีจะบอกโจวโจวเกี่ยวกับสองเรื่อง

เรื่องแรกก็คืออาจารย์ของจางหลี่ หลี่ฮุ่ยเยว่ ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะได้สติกลับมา แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น มันคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่เธอจะฟื้นตัวจนมีแรงพอที่จะเดินได้

ส่วนเรื่องที่สอง ในวันนี้ในระหว่างโจวโจวได้นำกองกำลังของเขาพิชิตที่ราบป่าเฉา มันมีผู้ลี้ภัยประมาณ 142 คนได้มาที่เมืองตะวันสาดแสงและขอเป็นชาวเมืองตะวันสาดแสง

พวกเขาบอกว่าพวกเขาได้ยินมาว่าเมืองตะวันสาดแสงนั้นเป็นดินแดนที่ปลอดภัยมาก เหล่าชาวเมืองมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และลอร์ดก็มีสติปัญญากว้างขวางมากด้วย เขาไม่ใช่คนไม่ดีและยังแข็งแกร่งอีก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกับเมืองตะวันสาดแสง

เมื่อโจวโจวได้ยินครั้งแรก เขาก็ยังสับสนอยู่นิดหน่อย ทำไมจู่ๆ ถึงมีผู้ลี้ภัยมาที่เมืองตะวันสาดแสงด้วย?

แต่เมื่อเขาได้ยินประโยคสุดท้าย เขาก็เข้าใจได้ในทันที

นี่คงจะเป็นผลมาจากเอฟเฟกต์ของพรสวรรค์แห่งลอร์ดสุขสงบ!

“ใน 142 คนนี้มีใครที่มีทักษะพิเศษอะไรไหม?”

โจวโจวถาม

“มี 20-30 คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายอาชีพและอีกกว่า 10 คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายต่อสู้ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเหล็กดำและระดับบรอนซ์เขียว นอกเหนือจากนั้นพวกเขาก็เป็นแค่คนธรรมดา”

เจิ้งหยวนฉีกล่าว

โจวโจวพยักหน้ารับ

เขาไม่ได้ผิดหวังอะไร เพราะนี่คือลูกน้องที่ได้มาฟรีๆ

มันจะมีอะไรให้ผิดหวังกัน?

โจวโจวและเจิ้งหยวนฉีคุยกันต่อสักพักเกี่ยวกับการก่อสร้างและการพัฒนาดินแดนก่อนที่เจิ้งหยวนฉีจะขอตัวลา

ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป มันก็มีเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากทางด้านนอก

“รายงานท่านลอร์ด เจิ้งฝูกุ่ยขอเข้าพบขอรับ!”

“ไปพาเขาเข้ามา”

โจวโจวมองไปที่แอทลีย์

แอทลีย์พยักหน้าและเดินออกไป

หลังจากนั้นเจิ้งฝูกุ่ยก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเขาด้วยความเคารพ

“รายงานท่านลอร์ด พวกเราเพิ่งไปที่แดนต้องห้ามพายุทรายมาในวันนี้”

“เป็นไงบ้าง? ฝ่ายลึกลับมีตัวตนอยู่จริงไหม? หรือมีอาณาจักรของอันเดดอยู่รึเปล่า?”

โจวโจวถาม

เจิ้งฝูกุ่ยพยักหน้า

“ขอรับ!”